bc

มาเฟียเย็นชาที่แปลว่า สามีคลั่งรัก

book_age18+
594
FOLLOW
6.1K
READ
HE
friends to lovers
powerful
independent
mafia
heir/heiress
bxb
lighthearted
kicking
highschool
musclebear
friends with benefits
villain
like
intro-logo
Blurb

.....มาเฟียที่ขึ้นชื่อว่าหวงเมียที่สุดในจักรวาล รักเมียวันละ 365 ชั่วโมง...

เมื่อมาเฟียรัสเซียเก็บ (เมีย) เด็กมาได้จากท่อระบายน้ำ.......

ตอนแรกแค่จะเก็บเอาไว้ใช้เป็นที่ระบายอารมณ์เวลาเครียดๆ

แต่ไม่รู้ทำไม เห็นหน้าเจ้าเด็กนี่ทีไรเขาก็เครียดไม่หยุดเลย....

"คุณคาลวินยังอารมณ์ไม่ดีอยู่อีกเหรอครับ"

"ไม่ดีเลย..."

"ทำไม...เดี๋ยวนี้อารมณ์เสียบ่อยจังเลย"

"พูดมาก...มานี่เลย...มาทำให้ฉันหายเครียด"

"หา....ต้องเอาอีกแล้วเหรอครับ?"

chap-preview
Free preview
ตอนที่ 1 หนี
ตอนที่ 1 หนี กระจกเงาซึ่งติดอยู่ตรงมุมหนึ่งเหนือหัวขึ้นไป สะท้อนภาพของพนักงานขายประจำร้านสะดวกซื้อเล็กๆ กำลังวุ่นวายอยู่กับลูกค้าที่เดินเรียงแถวไปจ่ายเงินยังหน้าเคาน์เตอร์ ผมรีบหยิบนมผงแบบชงสำหรับเด็ก ยัดมันเข้าไปกระเป๋าสะพาย สายตาชำเลืองเหลือบมองดูว่ามีใครเห็นหรือเปล่า กระทั่งเมื่อมั่นใจว่าไม่มีใครเห็น ผมจึงรีบเดินปะปนมากับลูกค้าคนอื่นหลบออกมาจากร้าน “เดี๋ยว!” เสียงห้วนตะคอกดังมาจากด้านหลัง “.......” มือเล็กตะปบลงมากอดกระเป๋าสะพายเอาไว้แน่น “คิดจะเป็นขโมยเหรอ” “บ้าเอ๊ย!” ขาสองข้างเหมือนรู้หน้าที่ เพราะมันดีดตัวผมลอยขึ้นมาจากพื้นถนน จากนั้นวิ่งห้อตะบึงออกไปอย่างไม่คิดชีวิต ผมไม่มีเวลาแม้แต่เหลียวกลับไปมองด้านหลัง ได้ยินแต่เสียงฝีเท้ากับเสียงเจ้าของร้าน กับพนักงานตะโกนด่าปาวๆ พร้อมขู่ว่าจะแจ้งตำรวจ “หยุดนะหัวขโมย” “หยุดก็โง่สิ” ผมกระโดดข้ามรั้วไม้วิ่งลัดผ่านเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง ก่อนจะวิ่งหนีหมาสองสามตัวที่มันกระโจนออกมาจากช่องเล็กๆ หน้าประตูเห่ากันเสียงขรม เสียงเอะอะโวยวายดังลั่นทำให้ไฟในบ้านหลายหลังถูกเปิดให้สว่างขึ้น ผมปีนรั้วกระโดดหนีไปทางหลังบ้านแล้ววิ่งลัดเลาะเข้าไปในป่าสนด้านหลังตามทางเล็กๆ จนเสียงด่าทอกับเสียงหมาเห่าและเสียงรถหวอของตำรวจค่อยๆ ห่างไปจึงได้พอมีเวลาหยุดพักหายใจ “ไปหมดหรือยังวะ” ผมชะโงกหน้าออกมาจากที่ซ่อน เมื่อเห็นว่าคนที่ไล่ตามมาด้านหลังเงียบหายไปหมดแล้ว ผมถึงเดินลัดชายป่าออกห่างจากถนนเส้นหลักให้ได้มากที่สุด จากนั้นมุดเข้าไปในท่อระบายน้ำเก่า ซึ่งทางเข้ามีหญ้าขึ้นรกทึบจนหากไม่สังเกตดีจะไม่มีใครรู้เลยว่าใต้สะพานเก่านี้มีท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ซ่อนอยู่ เมื่อมั่นใจว่าไม่มีคนตามมาผมจึงคลานมุดเข้าไปและไม่ลืมที่จะหันหลังกลับไปใช้มือปรับสภาพต้นหญ้าสูงให้มันปกปิดทางเข้าเอาไว้อย่างเดิม “รุซ...นั่นพี่เหรอ” เสียงเล็กๆ ดังออกมาจากด้านหลังลังไม้ขนาดใหญ่ “ลูก้า...” ผมกระซิบตอบกลับไปทันที "พี่มาแล้ว" เจ้าลูกหมามอมแมมยื่นหน้าออกมาจากมุมของลังไม้ ดวงตากลมโตสีน้ำตาลทองเรือนผมยุ่งเหยิงชี้ฟูสีน้ำตาล แก้มป่องเลอะคราบอะไรดำๆ แห้งกรังกลบผิวขาวอมชมพู "ใช่...พี่กลับมาแล้ว" ผมถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกแล้วรีบตรงเข้าไปดึงน้องชายวัยสองขวบเข้ามากอด ผมกับน้อง กลายมาเป็นคนเร่ร่อนอาศัยนอนตามท่อระบายน้ำ นับตั้งแต่เกิดเรื่องร้ายขึ้นกับครอบครัวของเรา บ้านที่เคยอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยมี กลายเป็นอากาศในชั่วข้ามคืน ผมกับลูก้ากลายเป็นคนไร้บ้าน ไม่มีญาติ ขาดที่พึ่ง สิ่งมีค่าเดียวที่ผมเหลืออยู่ในชีวิต คือน้องชายต่างแม่ซึ่งผมอุ้มวิ่งหนีห่ากระสุนออกมาจากบ้านได้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ทุกคนในบ้านของผมพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง ถูกฆ่าตายอย่าโหดร้ายทารุณก่อนจะเผาทุกอย่างวอดวายหายไปกับกองเพลิง “หิวหรือยัง พี่มีขนมมาฝากด้วย” ผมดึงกระเป๋าสะพายออกมา แล้วรูดซิปเอาสิ่งของที่ขโมยมาออกมาวางลงบนลังกระดาษที่เก็บมาจากกองขยะนำมาปูรองให้น้องนอน “ว้าวววว ขนมปัง” เจ้าของดวงตากลมโตตบมือแปะๆ เมื่อเห็นสิ่งที่ผมยกขึ้นมาอวด ขนมปังปอนด์ก้อนใหญ่ถูกผมบิแบ่งออกมาส่วนหนึ่งจากนั้นเลือกดึงส่วนนิ่มป้อนให้เด็กน้อย “รุซ กิน” มือเล็กยื่นขนมปังชิ้นใหญ่มาให้ผมบ้าง หลังจากตัวเองกินไปได้หลายคำ “พี่ยังไม่หิว ลูก้ากินเถอะ เดี๋ยวพี่จะไปชงนมให้” ผมใช้น้ำที่กรอกใส่ขวดพลาสติกมาจากข้างนอก ล้างขวดน้ำเล็กๆ ที่ตรงส่วนฝา ผมใช้ตะปูแหลมเจาะทำมันเป็นรูตรงมุมหนึ่งเพื่อให้น้องดูดนมได้ง่ายๆ นมผงแบบชงสำหรับเด็ก ถูกตักเทใส่เข้าไปในขวดน้ำที่ต้องเปลี่ยนมาทำหน้าที่ขวดนมชั่วคราว ก่อนจะใช้น้ำประปาเทผสมลงไปเขย่าๆ ให้นมผงละลายแล้วยื่นให้น้องกิน “รุซผมหนาว” เด็กน้อยใช้แขนสั้นกอดขวดพลาสติกเอาไว้ข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างถือหุ่นยนต์ขาขาดที่ผมเก็บมาได้จากถังขยะ “หนาวอย่างนั้นเหรอ มานี่สิ...มานอนตรงนี้” ผมลุกขึ้นคลานไปลากลังไม้กับดึงกล่องกระดาษมากั้นลมเย็นจากภายนอกซึ่งพัดผ่านเข้ามาจากปากทางเข้า เสื้อแจ็กเกตยีนและเศษผ้าปูที่นอนเก่าที่ผมได้มันมาจากถังขยะเหมือนกันถูกนำมาใช้แทนผ้าห่ม แล้วใช้ร่างกายตัวเองต่างเตาผิงกอดให้ไออุ่นกับน้องชายตัวเล็ก ขณะกำลังเคลิ้มใกล้จะหลับ แสงไฟประหลาดส่องผ่านแวบเข้ามาทางหางตาจนผมสะดุ้ง ผมผลุดลุกขึ้นมานั่งก่อนจะแตะปลายนิ้วลงไปบนริมฝีปากเล็กเพราะกลัวน้องชายจะเอะอะเสียงดัง ผมคลานออกไปใช้ปลายนิ้วเขี่ยยอดต้นหญ้าสูงท่วมหัวนั้นออก เห็นตำรวจสองสามนายเดินถือไฟฉายส่องมาตามทางเดิน “รุซ นั่นอะไร” เจ้าตัวเล็กยืนเอียงคอมองมาทางผม “เราต้องไปแล้ว” “เราต้องไปอีกแล้วเหรอ” “ใช่...เราต้องไปแล้ว” ผมหันไปกวาดข้าวของทุกอย่างรีบเก็บยัดใส่กระเป๋า เหวี่ยงมันมาสะพายไว้ด้านหน้า แล้วอุ้มน้องชายตัวจิ๋วขี่หลังจับแขนสั้นสองข้างเกาะรัดรอบคอผมไว้ แล้วคลานลึกเข้าไปในช่องระบายน้ำที่ทั้งเหม็นอับและชื้นแฉะ โดยมีไฟฉายอันเล็กที่ผมขโมยมาส่องนำทาง ผมเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาเลาะไปตามทาง ผ่านทั้งจุดที่มีน้ำลึกระดับเข่า ระดับข้อเท้า ระดับเอว เนื้อตัวเสื้อผ้ามีแต่กลิ่นเหม็นของทั้งขยะและดินโคลน เศษใบไม้เน่า น่าจะดึกมากแล้วที่เสียงของน้องชายผมเงียบไป มือเล็กๆ กับนิ้วสั้นที่ยึดจับคอเสื้อผมไว้คลายหลุดหลายรอบ นั่นเลยพอทำให้ผมเดาได้ว่า เจ้าตัวเล็กที่เกาะอยู่ด้านหลังคงผล็อยหลับไปแล้ว “ลูก้า....หลับเหรอ” ผมคลานมาจนสุดปากของทางออกของท่อระบายน้ำ ตรงบริเวณรอยต่อถนนเส้นหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นเขตชุมชน หรือถนนที่มีผู้คนสัญจรไปมาพอสมควร เพราะไฟถนนด้านข้างนั้นมันสว่างตลอดเส้น แถมรถยังวิ่งผ่านไป ผ่านมาเป็นระยะๆ แม้ว่าตอนนี้จะดึกมากแล้วก็ตาม “แน่ใจนะว่าเป็นพวกมันจริงๆ” “แน่ใจครับ คนของเราเฝ้าพวกมันมาระยะหนึ่งแล้ว” ไม่ผิดแน่ “ไอ้พวกขยะ เข้าไปจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย” “ครับ คุณคาลวิน” เงาสีดำของรถยนต์คันใหญ่ทาบลงมายังพื้นเบื้องล่าง พร้อมกับเสียงพูดคุยกันของผู้ชายสองสามคน จากนั้นดูเหมือนพวกเขาจะเดินไปทางอื่น ผมคลานออกมาจากท่อระบายน้ำ ชะเง้อคอยืดขึ้นไปเห็นรถแวนสีดำคันใหญ่จอดเรียงต่อกันอยู่สี่ห้าคัน ผู้ชายใส่สูทผูกเนกไทคนที่ยืนอยู่ใกล้ผมที่สุด เดินไปหาเพื่อนที่ยืนอยู่ถัดไป ดูเหมือนเขาจะไปขอบุหรี่ เพราะต่อมาผมได้กลิ่นฉุนๆ นั้นลอยมา คลิ้ก เสียงปลดล็อกประตูรถยนต์ พร้อมกับไฟท้ายสีแดงกะพริบขึ้นครั้งหนึ่ง ดึงสติผมกลับมา บางทีผมอาจต้องไปในที่ไกลกว่านี้ เพราะร้านค้าเล็กๆ แถบนี้ผมวิ่งราวขโมยของมาหลายครั้งแล้ว ถ้าหากผมถูกจับได้แล้วจำเป็นต้องติดคุก ลูก้าต้องลำบากแน่ ผมก้มลงมองขากางเกงเปื้อนเต็มไปด้วยโคลนของตัวเองอย่างลังเลเพราะถ้าผมเดินขึ้นไปด้านบนรอยดินโคลนพวกนี้อาจจะทำให้การซ่อนตัวของผมล้มเหลว ผมตัดสินใจถอดมันออกแล้วห่อพันไว้ ด้วยผ้าพลาสติกรองนอนผืนหนึ่ง จากนั้นอุ้มลูก้าที่หลับคอพับคออ่อนอยู่ด้านหลังใส่เข้าไปท้ายรถ แล้วรีบปีนตามเข้าไปนอนขดตัวหลบอยู่ท้ายรถด้านหลัง ปัง! ปัง! ปัง! ในความมืดผมได้ยินเสียงปืนดังขึ้นสามสี่นัด จากนั้นเสียงฝีเท้าของคนหลายคนขยับใกล้เข้ามาตามด้วยเสียงเปิดปิดประตูรถ ก่อนที่เสียงเครื่องยนต์จะดังขึ้น พร้อมกับลักษณะการเคลื่อนไหวที่บ่งบอกให้รู้ว่าผมและน้องชายกำลังจะได้ไปจากเมืองอันเต็มไปด้วยอันตรายน่าหวาดกลัวนี่ “รุซ” เสียงน้องชายดังมาในความมืด “ชู่วววววว พี่อยู่นี่” ผมวางฝ่ามือลูบลงไปบนเส้นผมนิ่ม จากนั้นดึงน้องเข้ามากอด แล้วนอนมองความมืดอันว่างเปล่าต่อไป ทั้งที่เหนื่อยและง่วงมาก แต่กลับไม่กล้าข่มตาหลับเพราะไม่รู้ว่ารถคันนี้มันจะพาผมกับน้องไปที่ไหน ที่สำคัญผมไม่อยากถูกจับได้ว่าแอบเข้ามาหลบอยู่ท้ายรถแบบนี้ ความเร็วของรถค่อยๆ ลดลงจนในที่สุดก็จอดสนิท ผมขยับดึงน้องชายเข้ามากอดไว้แล้วพยายามเงี่ยหูฟังเสียงสิ่งต่างๆ ที่อยู่ข้างนอก เสียงเปิดปิดประตูดังขึ้นสองครั้ง ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าของคนหลายคนเดินเข้ามาใกล้ ผมล้วงมือลงไปภายในกระเป๋าสะพาย ดึงมีดคัตเตอร์เล่มหนึ่งซึ่งขโมยได้มาจากร้านขายวัสดุก่อสร้าง จากนั้นค่อยๆ ปลดล็อกแล้วเลื่อนส่วนคมของมันออกมาหวังใช้มันป้องกันตัวหากเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น ปัง! เสียงปืนนัดหนึ่งดึงขึ้น พร้อมกับฝาท้ายถูกดึงให้เปิดออก ปลายกระบอกปืนนับสิบพุ่งตรงมายังผมและน้องชาย “นาย...ขึ้นมาทำอะไรบนรถฉัน” เจ้าของดวงตาคมแข็งกร้าวพุ่งมองมาทางผม ด้านข้างทั้งซ้ายขวาแล้วยืนเยื้องอยู่เบื้องหลัง เต็มไปด้วยมือปืนยืนส่องหันปลายกระบอกปืนมายังเราสองคนพี่น้อง “คือ...ผมแค่อยากออกไปจากเมือง” น้ำลายในปากจับตัวเหนียวจนกลายเป็นก้อนถูกผมค่อยๆ กลืนลงไป “ก็เลยแอบขึ้นรถฉันมาอย่างนั้นเหรอ นายเห็นรถของฉันเป็นอะไร รถโดยสาร หรือว่ารถแท็กซี่” “ผมขอโทษ ถ้าอย่างนั้น....ผมลงก็ได้” ผมช้อนมือลงไปอุ้มน้องชายขี้เซาขึ้นมากอดไว้แนบอก แล้วหันไปคว้ากระเป๋าสะพายขึ้นมาคล้องไว้บนไหล่ข้างหนึ่ง รองเท้าผ้าใบเก่าขาดเปื่อยจนเกือบยุ่ยเลอะเต็มไปด้วยโคลน ลามขึ้นมาจนถึงหน้าแข้ง หน้าขาอาจเพราะผมคลานมาในท่อระบายน้ำนานเกินไป กางเกงก็ไม่ได้ใส่แต่ก็ช่างมันเถอะตอนนี้การพาน้องชายออกไปจากท้ายรถนี่ สำคัญกว่าเรื่องน่าอายเพียงเล็กน้อย กริ๊ก ปากกระบอกปืนแข็งๆ จ่อลงมากลางหน้าผาก พร้อมกับปลายนิ้วหยาบปลดล็อกเซฟปืน นัยน์ตาสีน้ำตาลทองเป็นประกายนั้นดูเย็นชาจนผมขนลุก “ใคร....ส่งนายมา"

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

ไฟผลาญ

read
1K
bc

ตราบมนตรา

read
1.1K
bc

ผมรักนายmy bad boy (Mpreg)

read
2.0K
bc

Light in the Dark เปลี่ยนร้ายให้เป็นรัก

read
1K
bc

ขยับเพื่อนเลื่อนเป็นรัก

read
1K
bc

ตรวนใจนายหัว

read
1.3K
bc

หนุ่มร้อนรัก

read
2.0K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook