เสียงสตรีกรีดร้องยิ่งกว่าสัตว์เพศเมียโดนน้ำร้อน
กรี๊ดดดดดด
"ท่านแม่ทัพหยวนซีหยาง"
กรี๊ดดดดด
"ท่านแม่ทัพเจ้าขา ทางนี้เจ้าค่ะ ทางนี้ หันมาทางนี้เจ้าค่ะ"
"อร๊ายยย ล่ำสัน หล่อเหลาเหลือเกิน"
"กล้ามแน่นน่าซบสุด ๆ ไปเลย"
"ข้าอยากเป็นฮูหยินแม่ทัพ"
กรี๊ดดดดดดด
สตรีน้อยใหญ่ตั้งแต่วัยปักปิ่นไล่ไปจนถึงวัยใกล้หมดประจำเดือน ต่างกรีดร้องระงมเหมือนถูกผีสิง ผ้าเช็ดหน้าสีชมพูปลิดปลิวตามแนวสองข้างทาง ปลิวร่วงลงมาจากชั้นสองของตึกเรือนต่าง ๆ
นั่นคือการให้ท่าอย่างเปิดเผย เรียกว่าอ่อยอย่างโจ่งแจ้ง
ดั่งเหตุอาเพศทำสตรีสาวแก่ แม่หม้าย สาวน้อย สาวใหญ่ต่างออกมากรีดร้องแทบคอแตก
ตัวต้นเหตุคือแม่ทัพหยวนซีหยางกลับจากทัพหน้า
มู่ถิงฟางยืนมองลงจากชั้นสองของหอสุราโจวเยี่ยน มองร่างกำยำสูงใหญ่อย่างนักรบบนหลังอาชาสีดำ เจ้าบ้านั่นเป็นเหตุให้สตรีเสียอาการทั้งเมืองหลวง เรียกว่าปรากฎการณ์อ่อยสะท้านปฐพี
เสียงดังอื้ออึงทั่วหัวระแหงตั้งแต่หัวถนนยันท้ายตรอกทุกตรอก สตรีพากันแต่งกายงดงามเพื่อมารอชมบารมีของหยวนซีหยาง
ดวงตาแวววาวยาวรีอย่างผลเมล็ดซิ่งหรี่ตามองบุรุษร่างสูงใหญ่บนหลังอาชา เขาสวมเพียงเกราะอ่อนรมดำ มิได้สวมชุดแม่ทัพเต็มศักดิ์อย่างที่ควร ใบหน้าด้านข้างหล่อเหลาราวภาพวาด ผมรวบเกล้าขึ้นครึ่งศีรษะมัดผ้าสีดำล้วนไร้ลวดลาย เขาไม่สวมเครื่องประดับมีค่าใด ๆ บนเรือนร่าง มีเพียงป้ายหยกอาญาสิทธิ์ห้อยอยู่ข้างเอว
ป้ายหยกนั้นมีค่ามากกว่าเพชรพลอย มันถูกเรียกว่าป้ายหยกดั่งใจนึก องค์ฮ่องเต้พระราชทานให้หยวนซีหยางเพราะชนะศึกเมืองเสียนหลอ หลังจากตรากตรำต้านศึกชายแดนถึงหกปี
เขามีสิทธิ์ขออะไรก็ได้หนึ่งอย่างจากองค์ฮ่องเต้โดยใช้ป้ายหยกพระราชทาน
อาจเป็นที่ดินผืนใหญ่ใจกลางเมืองสักผืน หรือจวนพระราชทานราคาแพงลิ่ว หรือแม้แต่ขอพระราชทานงานแต่งกับกงจู่สักคน
ในยามนี้บุรุษผู้น่าชมน่ามอง มีอำนาจกร้าวแกร่งที่สุดในบ้านเมืองเห็นทีคงมีแต่หยวนซีหยางเป็นแน่
"เขาหล่อมาก เจ้าว่าไหม" จ้าวลี่อิงกระซิบมู่ถิงฟาง
"จะหล่อเหลาเพียงใดก็ช่างเถิด ข้ามีใจให้ฟ่งเจินเพียงผู้เดียว" มู่ถิงฟางกล่าวถึงฟ่งเจิน คู่หมายของนางตั้งแต่ยังเด็ก
"นักปราชญ์ฟ่งก็หล่อเหลาเป็นเอกเช่นกัน" จ้าวลี่อิงพยักหน้า
"พี่ฟ่งของข้าหล่อเหลากว่าแม่ทัพตัวโตเหมือนวัวถึกเช่นนั้น"
"เจ้าชอบบุรุษเรือนร่างสมส่วนแบบบัณฑิต คงไม่ชอบแบบล่ำสันอย่างนักรบ ถ้าเช่นนั้นข้าจองแม่ทัพ"
"เฮอะ! สตรีใดก็แย่งจองหยวนซีหยางทั้งนั้น"
"แล้วเจ้าเล่า ไม่สนใจเขารึ"
"ไม่ ...ข้าไม่ชอบพวกกล้ามโต ร่างล่ำสันอย่างกรรมกร"
"แต่เขาหน้าตาหล่อเหลาราวเทพเซียน"
"ตัวสูงเกินไป ข้าไม่ชอบหรอก" มู่ถิงฟางมองแขนล่ำสัน มือใหญ่จับบนบังเ**ยนม้านั่น หากกำเข้าที่คอนางแล้วออกแรงเพียงนิดคงคอหักพอดี
มู่ถิงฟางนึกถึงคนรักของตน เขาเป็นนักปราชญ์มาดบัณฑิต ผิวพรรณขาวสะอาดดั่งหิมะแรกเหมันต์ ท่าเดินนุ่มนวลสง่างาม กลิ่นกายหอมสะอาดดั่งอาบน้ำวันละสามเวลา เปรียบเทียบไม่ได้กับคนหล่อเหลาร่างบึกบึนบนหลังม้า คงถนัดแต่จับดาบมากกว่าพู่กัน กินอยู่อย่างป่าเถื่อนไร้อารยธรรม ลากสตรีไปบำเรอกามอยู่เป็นนิตย์
"บัณฑิตย่อมต้องดีกว่านักรบอย่างแน่นอน อีกทั้งพี่ฟ่งของข้ายังเตรียมตัวสอบจอหงวนในปีนี้ ตำแหน่งเจ้ากรมต่าง ๆ ในวังหลวงคงอยู่ไม่ไกลความสามารถของเขาหรอก" มู่ถิงฟางหมายมั่นว่าบุรุษของตนต้องสามารถชิงตำแหน่งจอหงวนได้
"ข้าเพียงพาเจ้ามาดูหน้าท่านแม่ทัพเท่านั้น มิได้ให้เปรียบเทียบเสียหน่อย"
"เหมือนคนเราชอบอาหารคนละอย่าง ข้าชอบอาหารรสอ่อน ไม่ชอบอาหารรสจัด"
"เจ้าคิดว่าแม่ทัพรสจัดรึ" จ้าวลี่อิงหน้าแดง
"ไม่รู้สิ ..ดูเขาออกจะหื่น ๆ "
"นี่เจ้าไม่รู้จักท่านแม่ทัพ แต่กลับไปว่าเขาหื่นได้อย่างไร"
"หน้าตาหื่นกาม ดูท่าทางลามกและชอบเย่อสตรี" มู่ถิงฟางหรี่ตามองกล้ามเนื้อล่ำสันในอกเสื้อเกราะอ่อน จะว่าไปบุรุษนักรบก็เข้าท่าเหมือนกัน
ตึก ตัก ตึก ตัก
มู่ถิงฟางได้ยินเสียงหัวใจของตนเองเต้นแรงกว่าที่เคย เสียงหัวใจดังก้องในหู นี่มันอาการบัดซบอันใดกัน นางเริ่มหน้าแดงและกลืนน้ำลายลงคง
ฝีเท้าม้าศึกตัวใหญ่ผ่อนช้าลงอีกนิด ชักบังเ**ยนม้าให้ช้าลงจนแทบเป็นเหยาะย่าง ดวงตาคมกร้าวอย่างพญาอินทรีย์เงยหน้าขึ้นสบตากับสตรีร่างอิ่มอรชรบนชั้นสอง ทุกคำจากปากนางเขาได้ยินเต็มสองหู บุรุษผู้มีปราณยุทธแข็งแกร่งอย่างหยวนซีหยางได้ยินแม้แต่เสียงลมพัดบนกิ่งก้านไม้ เสียงหวานระคายหูกล่าววาจาว่าเขาหน้าเหมือนคนหื่น ...วาจาแสลงหูปานนั้นจะไม่ได้ยินได้อย่างไร
สตรีน่าตาย! กล้าว่าข้าลามกรึ ไม่รู้จักข้าเสียหน่อย อวดดีมาตัดสินว่าข้าลามก
หยวนซีหยางขมวดคิ้ว เงยหน้าขึ้นมองสตรีปากพล่อยบนชั้นสองของหอสุรา
เป็นสตรีอย่างไรจึงไปยืนหัวโด่ในหอสุราที่คลาคล่ำไปด้วยบุรุษ
สายตาคมกล้าดุดันสบเข้ากับดวงตากลมโตแวววาว นางมองกลับอย่างไม่หลบสายตา มองปะทะกับหยวนซีหยางเข้าอย่างจัง
"ว้าย แม่ทัพมองเจ้า"
"ข้าก็มองเขาอยู่" มู่ถิงฟางกระตุกยิ้มมุมปาก
จุ๊บ...
สตรีน่าตายส่งจุมพิตมากลางอากาศ
หยวนซีหยางตาเหลือก ไม่นึกว่าสตรีบางประเภทจะหน้าด้านหน้าทนถึงเพียงนี้
หน้าหล่อเหลาแดงซ่านแต่ไม่ยอมหลบสายตา ยิ้มตอบกลับไปคราหนึ่งด้วยรอยยิ้มที่คิดว่าสว่างไสวละลายใจสตรี
จุ๊บ…
หยวนซีหยางจุมพิตกลางอากาศกลับไปบ้าง
มู่ถิงฟางหน้าเห่อร้อน ยืนตัวแข็งทื่อเป็นไก่ไม้
"กรี๊ดดดดด แม่ทัพส่งจูบให้เจ้า กรี๊ดดดดด" จ้าวลี่อิงกรีดร้องเหมือนถูกผีเข้า กระโดดโลดเต้นไปรอบตัวมู่ถิงฟาง
เขายิ้มให้อย่างยียวน เอาเท้ากระทุ้งสีข้างม้าวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
"อ่อยมา..อ่อยกลับ..ไม่โกง" บุรุษหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ปรายตามองสตรีผู้ยืนแข็งทื่ออยู่ชั้นบน
"นางผู้นั้นเป็นใครกัน" หยวนซีหยางกระซิบถามนายกองด้วยความอยากรู้
"คุณหนูสกุลมู่ มีนามว่ามู่ถิงฟาง"
หยวนซีหยางหัวเราะร่า ...เข้าประตูเมืองมาก็มีเรื่องน่าสนใจทันที ...สตรีผู้หาญกล้า..กล่าวหาว่าเขาเป็นบุรุษหื่นกาม..นางช่างน่าจับมาตีก้นนัก