1 แม่ทัพราคะ

1171 Words
เสียงสตรีกรีดร้องยิ่งกว่าสัตว์เพศเมียโดนน้ำร้อน กรี๊ดดดดดด "ท่านแม่ทัพหยวนซีหยาง" กรี๊ดดดดด "ท่านแม่ทัพเจ้าขา ทางนี้เจ้าค่ะ ทางนี้ หันมาทางนี้เจ้าค่ะ" "อร๊ายยย ล่ำสัน หล่อเหลาเหลือเกิน" "กล้ามแน่นน่าซบสุด ๆ ไปเลย" "ข้าอยากเป็นฮูหยินแม่ทัพ" กรี๊ดดดดดดด สตรีน้อยใหญ่ตั้งแต่วัยปักปิ่นไล่ไปจนถึงวัยใกล้หมดประจำเดือน ต่างกรีดร้องระงมเหมือนถูกผีสิง ผ้าเช็ดหน้าสีชมพูปลิดปลิวตามแนวสองข้างทาง ปลิวร่วงลงมาจากชั้นสองของตึกเรือนต่าง ๆ นั่นคือการให้ท่าอย่างเปิดเผย เรียกว่าอ่อยอย่างโจ่งแจ้ง ดั่งเหตุอาเพศทำสตรีสาวแก่ แม่หม้าย สาวน้อย สาวใหญ่ต่างออกมากรีดร้องแทบคอแตก ตัวต้นเหตุคือแม่ทัพหยวนซีหยางกลับจากทัพหน้า มู่ถิงฟางยืนมองลงจากชั้นสองของหอสุราโจวเยี่ยน มองร่างกำยำสูงใหญ่อย่างนักรบบนหลังอาชาสีดำ เจ้าบ้านั่นเป็นเหตุให้สตรีเสียอาการทั้งเมืองหลวง เรียกว่าปรากฎการณ์อ่อยสะท้านปฐพี เสียงดังอื้ออึงทั่วหัวระแหงตั้งแต่หัวถนนยันท้ายตรอกทุกตรอก สตรีพากันแต่งกายงดงามเพื่อมารอชมบารมีของหยวนซีหยาง ดวงตาแวววาวยาวรีอย่างผลเมล็ดซิ่งหรี่ตามองบุรุษร่างสูงใหญ่บนหลังอาชา เขาสวมเพียงเกราะอ่อนรมดำ มิได้สวมชุดแม่ทัพเต็มศักดิ์อย่างที่ควร ใบหน้าด้านข้างหล่อเหลาราวภาพวาด ผมรวบเกล้าขึ้นครึ่งศีรษะมัดผ้าสีดำล้วนไร้ลวดลาย เขาไม่สวมเครื่องประดับมีค่าใด ๆ บนเรือนร่าง มีเพียงป้ายหยกอาญาสิทธิ์ห้อยอยู่ข้างเอว ป้ายหยกนั้นมีค่ามากกว่าเพชรพลอย มันถูกเรียกว่าป้ายหยกดั่งใจนึก องค์ฮ่องเต้พระราชทานให้หยวนซีหยางเพราะชนะศึกเมืองเสียนหลอ หลังจากตรากตรำต้านศึกชายแดนถึงหกปี เขามีสิทธิ์ขออะไรก็ได้หนึ่งอย่างจากองค์ฮ่องเต้โดยใช้ป้ายหยกพระราชทาน อาจเป็นที่ดินผืนใหญ่ใจกลางเมืองสักผืน หรือจวนพระราชทานราคาแพงลิ่ว หรือแม้แต่ขอพระราชทานงานแต่งกับกงจู่สักคน ในยามนี้บุรุษผู้น่าชมน่ามอง มีอำนาจกร้าวแกร่งที่สุดในบ้านเมืองเห็นทีคงมีแต่หยวนซีหยางเป็นแน่ "เขาหล่อมาก เจ้าว่าไหม" จ้าวลี่อิงกระซิบมู่ถิงฟาง "จะหล่อเหลาเพียงใดก็ช่างเถิด ข้ามีใจให้ฟ่งเจินเพียงผู้เดียว" มู่ถิงฟางกล่าวถึงฟ่งเจิน คู่หมายของนางตั้งแต่ยังเด็ก "นักปราชญ์ฟ่งก็หล่อเหลาเป็นเอกเช่นกัน" จ้าวลี่อิงพยักหน้า "พี่ฟ่งของข้าหล่อเหลากว่าแม่ทัพตัวโตเหมือนวัวถึกเช่นนั้น" "เจ้าชอบบุรุษเรือนร่างสมส่วนแบบบัณฑิต คงไม่ชอบแบบล่ำสันอย่างนักรบ ถ้าเช่นนั้นข้าจองแม่ทัพ" "เฮอะ! สตรีใดก็แย่งจองหยวนซีหยางทั้งนั้น" "แล้วเจ้าเล่า ไม่สนใจเขารึ" "ไม่ ...ข้าไม่ชอบพวกกล้ามโต ร่างล่ำสันอย่างกรรมกร" "แต่เขาหน้าตาหล่อเหลาราวเทพเซียน" "ตัวสูงเกินไป ข้าไม่ชอบหรอก" มู่ถิงฟางมองแขนล่ำสัน มือใหญ่จับบนบังเ**ยนม้านั่น หากกำเข้าที่คอนางแล้วออกแรงเพียงนิดคงคอหักพอดี มู่ถิงฟางนึกถึงคนรักของตน เขาเป็นนักปราชญ์มาดบัณฑิต ผิวพรรณขาวสะอาดดั่งหิมะแรกเหมันต์ ท่าเดินนุ่มนวลสง่างาม กลิ่นกายหอมสะอาดดั่งอาบน้ำวันละสามเวลา เปรียบเทียบไม่ได้กับคนหล่อเหลาร่างบึกบึนบนหลังม้า คงถนัดแต่จับดาบมากกว่าพู่กัน กินอยู่อย่างป่าเถื่อนไร้อารยธรรม ลากสตรีไปบำเรอกามอยู่เป็นนิตย์ "บัณฑิตย่อมต้องดีกว่านักรบอย่างแน่นอน อีกทั้งพี่ฟ่งของข้ายังเตรียมตัวสอบจอหงวนในปีนี้ ตำแหน่งเจ้ากรมต่าง ๆ ในวังหลวงคงอยู่ไม่ไกลความสามารถของเขาหรอก" มู่ถิงฟางหมายมั่นว่าบุรุษของตนต้องสามารถชิงตำแหน่งจอหงวนได้ "ข้าเพียงพาเจ้ามาดูหน้าท่านแม่ทัพเท่านั้น มิได้ให้เปรียบเทียบเสียหน่อย" "เหมือนคนเราชอบอาหารคนละอย่าง ข้าชอบอาหารรสอ่อน ไม่ชอบอาหารรสจัด" "เจ้าคิดว่าแม่ทัพรสจัดรึ" จ้าวลี่อิงหน้าแดง "ไม่รู้สิ ..ดูเขาออกจะหื่น ๆ " "นี่เจ้าไม่รู้จักท่านแม่ทัพ แต่กลับไปว่าเขาหื่นได้อย่างไร" "หน้าตาหื่นกาม ดูท่าทางลามกและชอบเย่อสตรี" มู่ถิงฟางหรี่ตามองกล้ามเนื้อล่ำสันในอกเสื้อเกราะอ่อน จะว่าไปบุรุษนักรบก็เข้าท่าเหมือนกัน ตึก ตัก ตึก ตัก มู่ถิงฟางได้ยินเสียงหัวใจของตนเองเต้นแรงกว่าที่เคย เสียงหัวใจดังก้องในหู นี่มันอาการบัดซบอันใดกัน นางเริ่มหน้าแดงและกลืนน้ำลายลงคง ฝีเท้าม้าศึกตัวใหญ่ผ่อนช้าลงอีกนิด ชักบังเ**ยนม้าให้ช้าลงจนแทบเป็นเหยาะย่าง ดวงตาคมกร้าวอย่างพญาอินทรีย์เงยหน้าขึ้นสบตากับสตรีร่างอิ่มอรชรบนชั้นสอง ทุกคำจากปากนางเขาได้ยินเต็มสองหู บุรุษผู้มีปราณยุทธแข็งแกร่งอย่างหยวนซีหยางได้ยินแม้แต่เสียงลมพัดบนกิ่งก้านไม้ เสียงหวานระคายหูกล่าววาจาว่าเขาหน้าเหมือนคนหื่น ...วาจาแสลงหูปานนั้นจะไม่ได้ยินได้อย่างไร สตรีน่าตาย! กล้าว่าข้าลามกรึ ไม่รู้จักข้าเสียหน่อย อวดดีมาตัดสินว่าข้าลามก หยวนซีหยางขมวดคิ้ว เงยหน้าขึ้นมองสตรีปากพล่อยบนชั้นสองของหอสุรา เป็นสตรีอย่างไรจึงไปยืนหัวโด่ในหอสุราที่คลาคล่ำไปด้วยบุรุษ สายตาคมกล้าดุดันสบเข้ากับดวงตากลมโตแวววาว นางมองกลับอย่างไม่หลบสายตา มองปะทะกับหยวนซีหยางเข้าอย่างจัง "ว้าย แม่ทัพมองเจ้า" "ข้าก็มองเขาอยู่" มู่ถิงฟางกระตุกยิ้มมุมปาก จุ๊บ... สตรีน่าตายส่งจุมพิตมากลางอากาศ หยวนซีหยางตาเหลือก ไม่นึกว่าสตรีบางประเภทจะหน้าด้านหน้าทนถึงเพียงนี้ หน้าหล่อเหลาแดงซ่านแต่ไม่ยอมหลบสายตา ยิ้มตอบกลับไปคราหนึ่งด้วยรอยยิ้มที่คิดว่าสว่างไสวละลายใจสตรี จุ๊บ… หยวนซีหยางจุมพิตกลางอากาศกลับไปบ้าง มู่ถิงฟางหน้าเห่อร้อน ยืนตัวแข็งทื่อเป็นไก่ไม้ "กรี๊ดดดดด แม่ทัพส่งจูบให้เจ้า กรี๊ดดดดด" จ้าวลี่อิงกรีดร้องเหมือนถูกผีเข้า กระโดดโลดเต้นไปรอบตัวมู่ถิงฟาง เขายิ้มให้อย่างยียวน เอาเท้ากระทุ้งสีข้างม้าวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว "อ่อยมา..อ่อยกลับ..ไม่โกง" บุรุษหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ปรายตามองสตรีผู้ยืนแข็งทื่ออยู่ชั้นบน "นางผู้นั้นเป็นใครกัน" หยวนซีหยางกระซิบถามนายกองด้วยความอยากรู้ "คุณหนูสกุลมู่ มีนามว่ามู่ถิงฟาง" หยวนซีหยางหัวเราะร่า ...เข้าประตูเมืองมาก็มีเรื่องน่าสนใจทันที ...สตรีผู้หาญกล้า..กล่าวหาว่าเขาเป็นบุรุษหื่นกาม..นางช่างน่าจับมาตีก้นนัก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD