3 สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าบุรุษ

1310 Words
ณ จวนสกุลมู่ สกุลมู่ค้าขายแพรไหม มีโรงเลี้ยงไหมและทุ่งหม่อนสำหรับผลิตผ้าไหมส่งขายให้กับร้านค้าใหญ่หลาย ๆ เมือง อีกทั้งกิจการเครื่องปั้นดินเผาอันเลื่องชื่อกว่าสามร้อยปีก็เป็นของสกุลมู่ นับเป็นตระกูลการค้าที่ไม่น้อยหน้าผู้ใดทั้งขนาดกิจการและชีวิตความเป็นอยู่ ผิดก็แต่หลานสาวคนเดียวของตระกูลอายุสิบเจ็ดปีแล้วยังไม่ยอมออกเรือน ลั่นวาจาว่าจะกินนอนอยู่ในสกุลมู่ตลอดไป แม้มีคู่หมายอย่างฟ่งเจิน แต่มู่ถิงฟางยังไถแถไปแบบข้าง ๆ คู ๆ ว่ารอให้เขาสอบจอหงวนได้เสียก่อนจึงจะยอมแต่งงานด้วย ถ้าเขาสอบไม่ได้เล่า นางไม่เป็นสาวเทื้อไปจนตายเลยเรอะ บิดามารดากับท่านปู่ของนางได้แต่ถอนหายใจ อยากให้มู่ถิงฟางเปลี่ยนเป้าหมายชายตาแลบุรุษอื่นบ้าง "ไปไหนมา" ชายวัยกลางคนเอ่ยถามหลานสาว "ข้าไปดูหน้าแม่ทัพหยวนซีหยาง" "อ่อ แล้วเขาหล่อเหลาถูกใจหรือไม่เล่า" "ข้ามีคู่หมายอยู่แล้วท่านปู่ ข้าเพียงแต่ไปตามคำชวนของจ้าวลี่อิงเท่านั้น" "หยวนซีหยางกร้าวแกร่งสมชายชาตรี ปู่เห็นเขาที่ร้านของเราเมื่อครู่ เขามาซื้อกาป้านชาไปฝากมารดา" "เขาแวะมาที่ร้านของเราหรือเจ้าคะ" "เขาฝากข้อความถึงเจ้าด้วย" "ข้อความอันใดรึเจ้าคะ ข้ายังไม่เคยคุยกับเขาด้วยซ้ำ" "เขาฝากบอกว่าเขามิใช่คนลามก" ท่านปู่หัวเราะออกมา ไม่รู้ว่าหลานสาวของตนไปทำเรื่องอันใดไว้ คู่กรณีจึงแวะมาซื้อกาน้ำชาที่ร้านค้าสกุลมู่ ซ้ำยังฝากข้อความถึงมู่ถิงฟางแก้ต่างว่าตนไม่ใช่คนลามก "เจ้าบ้านั่นกวนอารมณ์ข้าชะมัด" "เจ้าต่างหากชอบกวนอารมณ์คนอื่น" ท่านปู่ได้แต่ส่ายหัว รู้นิสัยของหลานสาวเป็นอย่างดี "ท่านปู่ไม่เคยเข้าข้างข้าหรอก ท่านปู่ไม่รักข้า" "ปู่รักเจ้าที่สุด เจ้าก็รู้" "หากข้าแต่งกับฟ่งเจิน ท่านปู่คงไม่ได้เห็นข้าอีกแล้ว หากคู่หมายของข้ามาขอแต่งงาน ท่านปู่ต้องเหงาน่าดู" มู่ถิงฟางเอ่ยเย้า "คู่หมายที่เคยพบกันเพียงปีละสองครั้งน่ะรึ" ท่านปู่เงยหน้าจากเครื่องร่อน ยิ้มให้เหมือนกดดันมู่ถิงฟาง "เอ่อ...พี่ฟ่งของข้าค่อนข้างยุ่ง เขาต้องเตรียมตัวสอบจอหงวน" "ดูท่าฟ่งเจินมิได้ชอบเจ้าถึงเพียงนั้น" "ท่านปู่! เหตุใดต้องกล่าววาจาแสลงหูด้วยเล่า" "หากบุรุษชอบเจ้าเขาต้องมีความพยายามเข้าหา หรือไม่ก็เสนอหน้ามาบ่อย ๆ" "เขาอาจเป็นบุรุษประเภทเรียบร้อยเข้าถึงยาก" "ฟ่งเจินไม่คู่ควรกับหลานสาวของปู่หรอก" "ทำไมรึ ถึงสกุลฟ่งไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็ไม่ได้ยากจน อีกทั้งฟ่งเจินยังขยันทำมาหากิน เป็นบุรุษที่สุภาพเรียบร้อย" มู่ถิงฟางแก้ตัวแทน "ฟ่งเจินสนใจเพียงเรื่องการค้าของตระกูลฟ่งกับเรื่องสอบจอหงวน ส่วนเจ้าเป็นความสำคัญลำดับสุดท้าย บุรุษใดให้ค่าเจ้า..เพียงเวลาเขาว่าง จงรู้ไว้ว่า..เจ้ามิได้สำคัญ" "ท่านปู่ใจร้ายนัก" มู่ถิงฟางหน้างอง้ำ เหตุใดท่านปู่ของนางต้องตอกย้ำซ้ำด้ามขวานถึงปานนั้น "หากปีนี้ฟ่งเจินยังไม่ส่งแม่สื่อมาสู่ขอ ก็จงหาบุรุษอื่นเสียเถิด" มู่หลางก้มตอกหมุดยึดปีกเครื่องร่อนให้หลานสาว "บุรุษผู้ซึ่งเห็นเราสำคัญเป็นลำดับสุดท้าย หมายความว่าเขาไม่รักเราจริงใช่หรือไม่" มู่ถิงฟางนั่งลงข้างท่านปู่ หยิบหมุดไม้มาตอกใส่โครงเหล็ก เทยึดด้วยยางไม้เหนียว ประกอบปีกเครื่องร่อนเข้ากับโครง "ฟ่งเจินไม่ค่อยใส่ใจเจ้าเท่าที่ควร ย่อมหมายความว่าเจ้าไม่สำคัญกับเขา" "ท่านปู่ตอกย้ำข้าทุกคำพูด" "สตรีมักหลอกตนเอง แต่หากมองตามความเป็นจริงแล้วฟ่งเจินอาจไม่ได้รักเจ้าจากใจจริงหรือไม่เขาก็มีคนรักอยู่ก่อนแล้ว" "คนรักของฟ่งเจินรึ" "ปู่เพียงแต่สันนิษฐานจากท่าทีของเขาก็เท่านั้น บุรุษไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อน หากบุรุษชอบเจ้าเขาก็ต้องแสดงออกว่าอยากใกล้ชิด" มู่ถิงฟางกลับมาที่จวนสกุลมู่เพื่อทดสอบเครื่องร่อนของท่านปู่ แต่กลับต้องมาฟังท่านปู่ตอกย้ำว่าบุรุษแซ่ฟ่งไม่ได้รักนางอย่างจริงใจ มู่ถิงฟางขมวดคิ้ว ใจนึกถึงคนรักที่มิอาจเรียกได้ว่าคนรัก แม้แต่ปลายมือยังไม่เคยแตะกันด้วยซ้ำ พบกันก็เพียงดื่มชาคุยเรื่องสัพเพเหระ มู่ถิงฟางชอบเขาที่ดูอ่อนโยนสุภาพ สองตระกูลมีสัญญาผูกสัมพันธ์ให้รุ่นหลานแต่งงานกัน มู่ถิงฟางได้พบฟ่งเจินแทบนับครั้งได้ นางชมชอบที่เขาไม่เคยล่วงเกิน ให้เกียรตินาง ขยันทำมาหากิน หน้าตาหล่อเหลาและสุภาพเรียบร้อย แต่เมื่อฟังท่านปู่ขยายความจึงได้แต่พยักหน้าตาม 'บุรุษไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อน หากบุรุษชอบเจ้าเขาก็ต้องแสดงออกว่าอยากใกล้ชิด' มู่ถิงฟางได้แต่ครุ่นคิดถึงคำพูดท่านปู่ พลันใบหน้าของหยวนซีหยางก็ลอยขึ้นมาในห้วงคำนึง เปล่านะ! นางไม่ได้คิดถึงคนหื่นกามเช่นหยวนซีหยาง ไม่รู้เพราะเหตุใดหน้าเขาจึงลอยไปลอยมาอยู่ในหัว จุ๊บ.. ภาพส่งจุมพิตกลางอากาศมาอย่างยียวนทำให้มู่ถิงฟางหน้าร้อนผ่าว แม่ทัพผู้ป่าเถื่อนยังแวะมาอุดหนุนสินค้าในร้านของสกุลมู่ แถมยังฝากข้อความถึงนางอีกด้วย บ้าจริง! "เจ้าคุยอะไรกับแม่ทัพหยวน เขาจึงฝากบอกว่าเขามิได้เป็นคนลามก" "เปล่า ข้าเพียงนินทาว่าเขาหน้าเหมือนคนหื่น ท่าจะลามกและชอบเย่อสตรี" มู่ถิงฟางตอบตามตรง "แล้วเขาได้ยินได้อย่างไร" "ไม่รู้เหมือนกัน ข้านินทาเขาอยู่ชั้นสอง ส่วนแม่ทัพหยวนซีหยางควบม้าผ่านไป เขาช่างหูดีเกินเหตุไปแล้ว" "แม่ทัพปราณยุทธแข็งแกร่ง เขาจึงได้ยินที่เจ้าพูด หยวนซีหยางหน้าตาท่าทางเฉลียวฉลาด มีมาดบารมีรัศมีผู้นำ ปู่ชมชอบบุรุษเช่นเขา" ท่านปู่พูดอวยยศหยวนซีหยางซึ่งหน้า "แต่ข้าไม่ชอบ" "เกลียดสิ่งใดมักได้สิ่งนั้น" "ข้าเกลียดคนลามก" "เจ้าก็จะได้คนลามก" "ข้าไม่คุยกับท่านปู่แล้ว ข้าขอตัวออกไปทดสอบเครื่องร่อนดีกว่า" มู่ถิงฟางหยิบหมวกแข็งครึ่งวงกลมมาสวมบนหัว รัดสายรัดเข้ากับปลายคาง หมวกแข็งมีไว้ป้องกันศีรษะหากเกิดอุบัติเหตุตกจากเครื่องร่อน นางรอบคอบเสมอ มู่ถิงฟางลุกยืนขึ้น หยิบถุงมือหนังมาสวม "พวกเจ้ามาช่วยกันยกเครื่องร่อนไปที่หน้าผาให้ข้าที" มู่ถิงฟางเรียกบ่าวชายมายกเครื่องร่อนออกไปที่หน้าผา "นี่ของฝากจากแม่ทัพ เขาฝากปิ่นปักผมทำจากไม้หอมหลิงจิ่งมาให้หลานสาวของปู่" "ให้ข้ารึ" "เขาเกี้ยวเจ้าอยู่หรือเปล่า" "ไม่จริงหรอกท่านปู่" มู่ถิงฟางหยิบปิ่นไม้สลักลายอินทรีย์เกี้ยวหงส์ขึ้นมาดู ปิ่นประดับเพชรสีชมพูเม็ดเล็กสามสี่เม็ดส่องประกายแวววาวดูน่ารักยิ่ง มู่ถิงฟางรู้สึกหน้าร้อนกว่าเดิมจนแก้มแดงเป็นสีลูกผิงกั๋ว ...รับปิ่นไปเก็บไว้ในอกเสื้อด้วยความเขินอาย นางทำหน้าเหมือนไม่อยากรับแก้ความเก้อกระดาก มู่ถิงฟางรีบวิ่งตามบ่าวชายไปที่หน้าผา เจ้าบ้าแม่ทัพทำเอานางยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD