“แม่งอย่างเดือดเลย” ขุนพลเอ่ยขึ้นนิ่ง ๆ ก่อนจะรีบพากันเดินกลับเข้าไปภายในคลับเพื่อดูอาการเฟลิกซ์ เพราะน่าจะช้ำในหนักสุดแล้ว
เฟลิกซ์ที่อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก เขาไม่สามารถบรรยายความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับเขาได้เลยในเวลานี้ มันมีคำถามมากมายว่าทำไมเรื่องทุกอย่างมันถึงกลายเป็นแบบนี้ ทำไมจู่ ๆ บีน่าที่บอกว่ารักเขาแต่กลับไปคบกับลูกพี่ลูกน้องของเขาแทน
มือหนาคว้าแก้วบรั่นดีขึ้นมากระดกดื่มซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะที่เพื่อน ๆ ยังไม่มีใครกล้าที่จะพูดอะไรออกไปเพราะรู้ดีว่าอารมณ์ของเพื่อนรักตอนนี้น่าจะยังไม่พร้อมสำหรับอะไรทั้งนั้น...
“กูแม่งโง่ฉิบหายเลยว่ะ”
“ฮึ...” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเย้ยหยันถูกส่งออกมาจากริมฝีปากหยัก ภาพที่บีน่าเดินจับมือไปกับไซรัสยังคงฉายซ้ำไปซ้ำมาในหัวของเขา พอ ๆ กับคำว่ารักที่เธอก็บอกเขา เธอรักเขาแต่ยังไม่พร้อมจะคบกับเขา
ตอนนี้เขารู้แล้ว รู้แล้วว่าทำไม...
“มึงยังจะถามบีน่าอยู่ไหม ว่าทำไมเรื่องมันถึงกลายมาเป็นแบบนี้” เป็นขุนพลที่ถามออกไปอย่างอยากรู้ เพราะเขาเองก็อยากรู้เช่นกันว่าทำไมบีน่าถึงทำแบบนี้ จะบอกว่าพวกเขาคิดผิด มองพลาดมันคงไม่ใช่ เพราะทุกคนต่างก็มองออกว่าบีน่ากับเฟลิกซ์รู้สึกยังไงต่อกัน
“ถามไปเพื่ออะไร ต้องให้กูถามอะไรอีก”
“ถามไปแม่งจะมีประโยชน์ ในเมื่อสองคนนั้นคบกันแล้ว” เฟลิกซ์เอ่ยออกไปเสียงเรียบ แต่ไม่มีใครสามารถรู้ได้เลยว่าข้างในใจของเขามันเจ็บปวดมากแค่ไหน จะทำอะไร จะพูดอะไรออกไปก็ยากไปหมดเพราะคนที่บีน่าคบคือพี่น้องของเขา
“แม่งกลายเป็นแบบนี้ได้ไงวะ” ดีนเอ่ยออกไปอย่างไม่เชื่อแต่ทว่าไม่มีใครพูดอะไรออกไปอีก เพราะรู้ดีว่าพูดไปมันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาในตอนนี้
ในขณะที่อีกด้าน เจ้าขาที่ยังโมโหไม่หายที่โทรศัพท์ของเธอถูกปาทิ้งจนหน้าจอแตกกระจายแบบนี้
“มึงงงง พอแล้ว นั่นเหล้าค่ะไม่ใช่น้ำเปล่า”
“มึงจะกินให้เมาเลยเหรอไง” น้ำฟ้ารีบร้องห้ามพร้อมกับคว้าแก้วเหล้าในมือของเจ้าขาเอาไว้ เจ้าขาที่ยังไม่ได้เมาอะไรมากมายแค่มึน ๆ แต่ก็ยอมหยุดกินตามเพื่อนบอก
“มึงรอบนี้เขาด่ากูไม่พอ เขาปาโทรศัพท์กูทิ้ง แล้วขอโทษนะมาด่ากูว่าไม่มีความรู้สึก ด่าว่ากูดื้อด้านไม่สนใจความรู้สึกใคร”
“กูสนใจความรู้สึกเขาอยู่นี่ไง ถ้ากูไม่ถ่ายรูปไปบอกพี่เขาจะรู้เหรอว่าผู้หญิงที่ตัวเองรักคบกับพี่น้องตัวเองอ่ะ” ร่างบางร่ายยาวอย่างต้องการตัดพ้อ ที่เธอถ่ายรูปส่งไปเธอก็ตั้งใจบอกเขาจริง ๆ นั่นแหละ แต่บอกเพื่อให้เขารู้ว่าผู้หญิงที่ตัวเองรักเป็นแบบนี้ เผื่อว่าเขาไม่รู้อะไรก็จะได้รู้...แต่เธอก็ปากไม่ดีด้วยที่พูดอะไรออกไปแบบนั้นแต่มันก็อดหมั่นไส้ไม่ได้...
“เอาหน่า ช่างมันเถอะ มึงทำไปแล้วจะเพราะอะไรก็ช่าง”
“แต่ก็เลิกคิดที่จะทำให้พี่เขามาหลงรักมึงได้เลย เพราะมันไม่มีทางแล้วเจ้าขา” ทิชาพูดพร้อมกับเลื่อนมือไปลูบไหล่เจ้าขาไปมาอย่างต้องการให้เพื่อนตัดใจ แล้วก็เลิกคิดที่จะเอาชนะเฟลิกซ์ได้แล้ว
เจ้าขาที่ได้ยินแบบนั้นเธอไม่ได้โต้เถียงอะไรเพื่อนกลับไป แล้วอีกอย่างเธอก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเธอต้องรู้สึกอะไรกับเฟลิกซ์มากขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เขาก็แสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบเธอ แต่ยิ่งเขาแสดงออกว่าไม่ชอบ เธอกลับรู้สึกอยากจะเอาชนะใจเขาให้ได้...
“เอาจริงนะ กูก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นคนนี้”
“ช่างเถอะ กูอยากเลิกคิดถึงเรื่องพี่เขาแล้ว ปวดหัว” ร่างบางพูดออกไปก่อนจะเลื่อนมือขึ้นมาหยุมเรือนผมสวยของตัวเองอย่างรู้สึกหงุดหงิด...
เจ้าขากับเพื่อน ๆ เช็คบิลเคลียร์ค่าเครื่องดื่มทั้งหมดก่อนจะแยกย้ายกันกลับที่พักของตัวเอง โดยเจ้าขาจะไม่กลับไปนอนบ้านในวันนี้ เพราะรู้ดีกว่ากลับไปเธอคงจะต้องนอนตื่นสายแล้วไม่วายถูกผู้เป็นแม่ดุอีกแน่ ๆ เพราะฉะนั้นเธอเลยเลือกที่จะไปนอนเพนท์เฮ้าส์ส่วนตัวที่ซื้อเอาไว้แทน
“เจอกันนะพวกมึง ใครถึงไหนอะไรยังไงก็ทิ้งข้อความไว้ในกลุ่มด้วยนะ”
“ได้ ๆ ว่าแต่มึงขับรถกลับไหวแน่นะ”
“ไหวค่า แค่นี้สบายมาก...” ร่างบางตอบกลับไปอย่างมั่นใจเพราะเธอไม่ได้รู้สึกเมาอะไรมากมายเลย และเธอยังมีสติมากพอที่จะขับรถกลับเพนท์เฮ้าส์ตัวเองได้
ทั้ง 4 สาวแยกย้ายกันกลับในขณะที่เจ้าขาเองก็เลิกคิดถึงเรื่องของเฟลิกซ์ไปได้ชั่วคราว เธอกลับมาที่เพนท์เฮ้าส์ก่อนจะเอารถขึ้นไปจอดที่ชั้นจอดรถแล้วพาตัวเองไปรอลิฟต์เพื่อไปที่ห้องเพนท์เฮ้าส์ของตัวเอง
“ไอ้เชี้ย มึงมีสติหน่อยดิวะ...” เสียงโวยวายที่ค่อนข้างคุ้นหูดังอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลหญิงสาว เจ้าขาที่ยืนรอลิฟต์อยู่นั้นหันกลับไปมองที่ต้นเสียงก่อนจะเห็นว่าเป็นคอปเปอร์ที่กำลังประคองเฟลิกซ์ออกมาจากรถหรูสัญชาติยุโรป
“พี่เฟลิกซ์” เจ้าขาเอ่ยเรียกร่างสูงอย่างลืมตัวแล้วเธอก็มองไปที่เขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงไม่ได้มีความสะใจอะไรอยู่ในนั้นเหมือนทุกครั้ง เท้าเรียวจะก้าวเดินไปแต่ก็ต้องหยุดชะงักเอาไว้เพราะอีกใจก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งให้ตัวเองโดนด่า เพราะถ้าโดนด่าอีกเธอก็คงสงบปากสงบคำตัวเองเอาไว้ไม่ได้เช่นกัน
“ไอ้เฟลิกซ์ ตั้งสติหน่อยไอ้เหี้ย” คอปเปอร์ที่รับหน้าที่เป็นคนขับรถมาส่งเฟลิกซ์ เขาประคองชายหนุ่มด้วยความทุลักทุเลจนพากันเกือบล้ม
แต่สุดท้าย...
หมับ!
เจ้าขาที่สุดท้ายก็ทนไม่สนใจไม่ไหว เธอรีบเข้าไปช่วยคอปเปอร์ประคองร่างสูงกำยำของเฟลิกซ์เอาไว้ และสิ่งที่เธอได้รับรู้คือกลิ่นเหล้าจากตัวชายหนุ่มแรงมาก
นี่เขากินหรือเขาอาบมากันแน่
“เจ้าขา..”
“เดี๋ยวเจ้าขาช่วยค่ะ” ร่างบางตอบออกไปน้ำเสียงราบเรียบไม่ได้บ่งบอกถึงความรู้สึกอะไรมากนัก เพราะเธอเองก็ยังรู้สึกตึง ๆ กับสิ่งที่เฟลิกซ์เพิ่งทำกับเธอไป
“แล้วไม่ต้องมองเหมือนเจ้าขาตามพี่เฟลิกซ์มานะคะ เจ้าขาพักอยู่ที่นี่เหมือนกัน…”
“เจ้าขาซื้อเพนท์เฮ้าส์ที่นี่ไว้ก่อนจะบินไปเรียนแฟชั่นที่ฝรั่งเศส แล้วแม่ก็เป็นคนเลือกที่นี่ให้ค่ะ เจ้าขาไม่ได้เลือกเอง “
“แล้วเจ้าขาก็ไม่รู้มาก่อนว่าพี่เฟลิกซ์พักอยู่นี่…” ร่างบางพูดออกไปตามความจริงก่อนที่เธอจะช่วยประคองตัวเฟลิกซ์เอาไว้อีกแรง เธอได้มาอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์นี้เป็นเพราะแม่ของเธอซื้อเอาไว้ให้จริง ๆ เธอไม่ได้ตามเฟลิกซ์มา
“เปล่าครับ พี่ไม่ได้จะหมายความว่าเจ้าขาตามพวกพี่มา”
“แต่พี่อยากขอบคุณที่เจ้าขามาช่วยพี่ทันเวลา” คอปเปอร์พูดออกไปพร้อมกับแสดงอาการขอบคุณที่เจ้าขามาช่วยเขาได้ทันเวลา เพราะเขาแทบจะเอาเฟลิกซ์คนเดียวไม่ไหว แล้วไอ้เพื่อนรักที่เหลือก็หายหัวไปนอนกกผู้หญิงของตัวเองกันหมด
“แล้วพี่ดีนกับพี่ขุนพลละคะ หายไปไหนหมดทำไมปล่อยพี่พาพี่เฟลิกซ์กลับมาคนเดียวแบบนี้อ่ะ”
“พวกแม่งกลับไปนอนกกสาวตัวเองกันหมดแล้ว ละโยนไอ้เวรนี่ให้พี่แทน” คอปเปอร์พูดออกไปอย่างไม่คิดจะปิดบัง เจ้าขาพยักหน้ารับน้อย ๆ ก่อนจะช่วยกันประคองเฟลิกซ์ไปเข้าลิฟต์แล้วให้คอปเปอร์กดไปยังชั้นเพนท์เฮ้าส์ของเฟลิกซ์จนมาถึงห้องของชายหนุ่ม ลูกน้องคนสนิทที่คอยดูแลเฟลิกซ์อย่าง วายุ พอเขาเห็นเจ้านายหนุ่มถูกหิ้วปีกมาก็รีบช่วยเข้ามาประคองร่างของเฟลิกซ์ทันทีด้วยความแปลกใจ เพราะเขายังไม่เคยเจอเฟลิกซ์ในสภาพเมามายแบบนี้
“เกิดอะไรขึ้นครับคุณคอปเปอร์ คุณเฟลิกซ์เป็นอะไรไปครับ”
“จะเกิดอะไรล่ะ เจ้านายมึงเมา เมาหมดสภาพเลย” ด้วยความสนิทสนมกับลูกน้องของเฟลิกซ์เหมือนกันเพราะรู้จักกันมานาน คอปเปอร์ก็เลยพูดจาที่ดูเป็นกันเองได้ขนาดนี้
วายุที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับนิ่งอึ้งไปในทันที แต่ก็รีบช่วยคอปเปอร์ประคองเฟลิกซ์เข้าไปด้านในห้องนอนทันที
“ไอ้เหี้ยนี่แม่งเมาทั้งทีก็ลำบากกูฉิบหาย...” คอปเปอร์ไม่วายบ่นเพราะเขารับศึกหนักอยู่คนเดียวตั้งแต่เอาเฟลิกซ์เพื่อนรักออกมาจากคลับ...
“พอจะตามแม่บ้านมาดูแลไอ้เวรนี่หน่อยได้ไหม เช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แม่งหน่อย” คอปเปอร์พูดขึ้นพร้อมกับหันไปมองหน้าวายุ บอดีการ์ดหนุ่มที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกคิดหนักเพราะเวลานี้แม่บ้านน่าจะกลับที่พักตัวเองกันหมดแล้ว เพราะเวลาเริ่มการทำงานของแม่บ้านที่นี่คือเข้ามาทำงานที่เพนท์เฮ้าส์ของเฟลิกซ์ตอน 6 โมงเช้า เลิกงาน 2 ทุ่มตรง จะให้โทรตามกลับมาตอนนี้ก็เป็นเวลาตี 1 แล้ว
“น่าจะตามแม่บ้านไม่ได้ครับ เวลานี้ทุกคนน่าจะพักอยู่ที่พักตัวเองกันหมดแล้ว” วายุเอ่ยออกไปตามความจริง ก่อนที่คอปเปอร์จะนิ่งคิดจนเขาฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้พร้อมกับเลื่อนสายตาไปมองเจ้าขาเป็นตาเดียวกันกับวายุ
“เจ้าขาเคยดูแลคนเมาไหมครับ” เจ้าขายืนมองเฟลิกซ์อยู่ในตอนแรกหันไปมองหน้าคอปเปอร์ด้วยแววตาฉงนใจก่อนจะนิ่งคิดไปแล้วถึงรู้ทันความคิดของคอปเปอร์
“แน่ใจเหรอคะว่าจะให้เจ้าขาดูแลพี่เฟลิกซ์ ? ถ้าเกิดพี่เฟลิกซ์เขาสร่างเมาหรือตื่นขึ้นมาเจอเจ้าขากำลังเช็ดเนื้อเช็ดตัวเขา เขาจะไม่กินหัวเจ้าขาซะเหรอ”
“ไม่หรอก มันเมาน็อคไปแล้วเจ้าขา มันไม่รู้ตัวอะไรแล้ว เจ้าขาตบมันมันยังไม่รู้สึกเลยตอนนี้”
“พูดแบบนี้คือพี่คอปเปอร์จะให้เจ้าขาดูแลพี่เฟลิกซ์เหรอ ?”
“ใช่ครับ เจ้าขานี่หัวไวเข้าใจง่ายจริง ๆ”
“แน่ใจเหรอว่าจะให้เจ้าขาดูแลพี่เฟลิกซ์ ไว้ใจเจ้าขาเหรอคะ ?” เจ้าขากอดอกพร้อมกับหันไปมองหน้าคอปเปอร์ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถามว่าเขากล้าไว้ใจเธอจริง ๆ เหรอไงที่จะให้ดูแลเพื่อนรักของเขา
“ไว้ใจครับ พี่รู้ว่าเจ้าขาไว้ใจได้”
“งั้นพี่วานดูแลมันหน่อยนะ พี่ไปก่อนนัดเด็กไว้” คอปเปอร์พูดออกไปอย่างไม่คิดจะปิดบังเพราะเขานัดเด็กของเขาเอาไว้จริง ๆ
“ฝากด้วยนะวายุ คอยเป็นลูกมือให้เจ้าขาด้วยนะ” วายุที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้ารับก่อนจะหันไปมองเจ้าขาที่ยืนกอดอกมองไปที่ร่างเจ้านายหนุ่มของเขา...
“พี่เคยเห็นเจ้านายพี่เป็นแบบนี้ไหมคะ เมาหมดสภาพแบบนี้” เจ้าขาเอ่ยขึ้นแต่ทว่าสายตาของเธอยังคงมองไปที่เฟลิกซ์ที่นอนไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง
“ไม่เคยครับ ผมไม่เคยเห็นคุณเฟลิกซ์เป็นแบบนี้มาก่อน”
“ฮึ งั้นก็คงรักพี่บีน่ามากจริง ๆ นั่นแหละ ถึงเมาได้ขนาดนี้” พูดไปก็แอบกรอกตามองบนเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะหันซ้ายหันขวาสำรวจภายในห้องนอนว่าพอจะมีอะไรที่จะหยิบมาเช็ดตัวเขาได้บ้าง
“พี่วายุช่วยไปหาผ้าขนหนูผืนเล็กแล้วก็หาที่ใส่น้ำมาให้เจ้าขาหน่อยนะคะ”
“เจ้าขาจะเช็ดตัวให้คนเมา...” ร่างบางพูดพร้อมกับหันไปมองบอดีการ์ดหนุ่มที่พยักหน้ารับคำพร้อมกับหายไปทำตามคำสั่งของเจ้าขาทันที ร่างบางเลื่อนมือขึ้นมาเท้าเอวเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วเดินไปทิ้งตัวลงนั่งข้างกายชายหนุ่มที่หลับไม่รู้เรื่องไปแล้ว
“รักมากเลยเหรอไงถึงเมาหมดสภาพได้ขนาดนี้”
“แล้วมาบอกว่าพี่ไม่ใช่ตัวเลือกของใคร พี่ไม่ใช่ตัวเรื่องของเจ้าขาแต่พี่คือตัวเลือกของพี่บีน่าต่างหาก”
“แถมเขายังไปเลือกคนอื่นอีกด้วยซ้ำ” ร่างบางได้ทีเพราะเห็นว่าเฟลิกซ์เมาไม่รู้เรื่องอะไร เธอก็พูดร่ายยาวออกไปอย่างอดรู้สึกหมั่นไส้ไม่ได้ แต่อีกใจก็ดันแอบรู้สึกเป็นห่วงเขาเหมือนกัน
เลิกคิดเรื่องพี่เขา = คิดตลอดไปปปป 🤭
ไม่สนใจ = เป็นห่วงตามมาดูแล 😂
น้องเจ้าขาแกเป็นคนปากดีปากเก่งค่ะ พูดไปก่อนทำได้ไม่ได้ค่อยว่ากัน
เจอกันตอนต่อไปนะคะทุกคนนน
แล้วก็ขอกำลังใจอีกน้าาาา ขออี้กกกกก ขอบคุณงับ 🥰💗💖