กรวิทย์เดินโซเซกลับเข้าบ้านหลังกลับจากสถานบันเทิงที่นัดกันไปปาร์ตี้กับเพื่อน แต่ทันทีที่เดินเข้าบ้านเขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อแสงไฟสว่างวาบขึ้น พร้อมกับบิดามารดาที่นั่งรอด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“คุณพ่อ คุณแม่ ทำไมยังไม่นอนอีกเหรอครับ” กรวิทย์ถามด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
“ฉันรอแกอยู่น่ะสิ ไอ้ลูกชั่ว” เกรียงไกรตวาดลูกชายด้วยน้ำเสียงโกรธจัด
“ใจเย็นๆ นะคะคุณ”
“คุณจะให้ผมใจเย็นได้ยังไง ตอนนี้พวกนักข่าวกำลังขุดคุ้ยเรื่องเลวๆ ที่มันทำกับลูกชายคุณมานพ แถมท่านหัวหน้าพรรคและสมาชิกคนอื่นๆ ก็ไม่พอใจผมมาก ที่มันไปก่อเรื่องกับลูกชายของผู้บริจาครายใหญ่ แถมยังเป็นตระกูลที่มีหน้ามีหน้าในสังคมอย่างสุริยาพิทักษ์อีก คราวนี้การกระทำเลวๆ ของลูกชายสุดที่รักของคุณกำลังจะทำให้ผมพัง แล้วถ้าผมพังคิดดูสิว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณกับมันก็คงไม่ได้อยู่อย่างสุขสบายแบบนี้หรอก” นิตยาถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ฟังสิ่งที่สามีพูด ที่ผ่านมาไม่ว่าลูกจะก่อเรื่องกี่ครั้งกี่หนเธอก็คอยช่วยแก้ต่างและออกรับแทนตลอด แต่ครั้งนี้สิ่งที่ลูกชายคนเดียวของเธอทำมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เพราะคนที่ลูกชายเธอทำร้ายเป็นถึงลูกชายคนเล็กของตระกูลดังที่มีทั้งอำนาจเงินและบารมี
“พ่อพูดเรื่องอะไร ผมไม่รู้เรื่อง”
“ไม่รู้เรื่องเหรอ” เกรียงไกรคว้าแก้วเหล้าที่นั่งดื่มระหว่างรอตัวต้นเหตุสาดเข้าไปที่ใบหน้าของลูกชายเพื่อเรียกสติ
“โอ๊ย พ่อทำอะไรเนี่ย” กรวิทย์ตาสว่างทันทีเมื่อถูกสาดด้วยบรั่นดีราคาแพง
“คราวนี้แกจะรู้เรื่องได้หรือยัง แกรู้ไหมว่าพวกเรากำลังจะเดือดร้อนเพราะการกระทำโง่ๆ ของแก”
“ก็ผมเกลียดมันนี่พ่อ พ่อได้ยินไหมว่าผมเกลียดมัน”
“แกเกลียดเขาเพราะแกมันเป็นไอ้ขี้แพ้น่ะสิ”
“พ่อ” กรวิทย์ตะโกนเรียกบิดาเสียงดังด้วยยความไม่พอใจที่ถูกจี้ใจดำ
“แกอย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ ว่าแกเป็นฝ่ายหาเรื่องลูกชายคุณมานพก่อนตลอด และที่แกไม่ชอบเขาก็เพราะเขาเก่งกว่าแก ดีกว่าแก สาวๆ พากันเมินแกไปชอบเขา นั่นมันเพราะความไม่เอาไหน ดีแต่สำมะเลเทเมาและผลาญเงินไปวันๆ ของแกต่างหาก ถ้าขืนแกยังทำตัวแบบนี้นะ ชาตินี้แกก็ไม่มีวันชนะเมฆาได้หรอก”
“พ่อ อย่ามาพูดแบบนี้นะ” กรวิทย์กำหมัดแน่นด้วยความโกรธจัด
“ฉันจะพูด ฉันทนมานานแล้ว แกเป็นลูกชายคนเดียวของฉัน แต่ไม่เคยทำอะไรให้ฉันภูมิใจเลยสักครั้ง ดีแต่ก่อเรื่องสร้างปัญหา ฉันอุตส่าห์ส่งไปเรียนถึงเมืองนอกก็เรียนไม่จบ กลับมาแล้วก็ยังสร้างปัญหาไม่หยุดหย่อน พอกันทีต่อไปนี้ฉันจะไม่ตามใจแกแบบผิดๆ อีกแล้ว ไม่ว่าแม่แกหรือใครก็อย่าคิดมาห้ามฉัน ต่อไปนี้ฉันจะไม่ให้เงินแกใช้อีก ถ้าแกอยากมีเงินใช้แกต้องทำงาน แล้วก็เตรียมตัวไปขอโทษคุณมานพกับลูกชายด้วย ฉันจะพาแกไปเอง”
“ไม่มีทาง ผมไม่มีทางไปขอโทษไอ้มาร์คเด็ดขาด”
“ถ้างั้นแกกับฉันก็ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก ต่อจากนี้แกจะไปก่อเรื่องอะไรที่ไหน อย่าหวังว่าฉันจะสนใจอีก”
“นี่พ่อเห็นคนอื่นดีกว่าลูกอย่างผมเหรอ”
“ก็ลูกอย่างแกมันไม่มีดีอะไรให้ฉันเห็นเลยนี่ ฉันจะไม่ยอมให้สิ่งที่ฉันสร้างมาต้องมาพังเพราะแกหรอกนะ คุณก็เหมือนกันนะคุณนิด นับจากวันนี้ห้ามคุณให้เงินมันใช้และช่วยเหลืออะไรมันอีก ถ้าผมรู้ละน่าดู” ประโยคสุดท้ายคุณ เกรียงไกรหันไปพูดกับภรรยาที่มักจะให้ท้ายลูกเสมอ ครั้งนี้คุณนิตยาเองก็ไม่กล้าออกรับแทนลูกชายอีก เพราะรู้ดีว่าลูกทำผิดมหันต์และส่งผลร้ายต่อตัวเองและหน้าที่การงานของสามีมากเพียงใด เมื่อบิดาเดินปึงปังขึ้นห้องไปแล้วกรวิทย์ก็หันมาอ้อนมารดาทันที
“คุณแม่ครับ คุณแม่ต้องช่วยผมนะ ผมไม่ยอมไปขอโทษไอ้มาร์คเด็ดขาด” กรวิทย์หันไปอ้อนวอนมารดาอย่างที่มักจะได้ผลทุกครั้งเวลาต้องการสิ่งใดแล้วบิดาไม่ตามใจ
“แต่ลูกต้องไป” คุณนิตยาทำใจแข็งปฏิเสธลูกชาย เพราะครั้งนี้เขาก่อเรื่องใหญ่เกินกว่าที่เธอจะเข้าข้างได้จริงๆ
“คุณแม่ นี่คุณแม่ก็เป็นไปกับคุณพ่ออีกคนเหรอครับ คุณแม่เห็นไอ้คนบ้านนั้นดีกว่าผมเหรอ”
“หยุดสักทีกาย พ่อกับแม่ไม่ได้เห็นใครดีกว่าลูกทั้งนั้น แต่ครั้งนี้ลูกทำผิด ลูกจ้างวานคนไปวางเพลิงอู่ของลูกชายคุณมานพ ทำให้ท่านโกรธมากจนระงับเงินบริจาคให้พรรคการเมืองของคุณพ่อ ทำให้คุณพ่อถูกหัวหน้าพรรคและสมาชิกคนอื่นไม่พอใจและตำหนิอย่างรุนแรง ที่ลูกไปก่อเรื่องเสื่อมเสียและส่งผลกระทบต่อพรรคไปด้วย ลูกก็รู้ดีนี่ว่าตระกูล สุริยาพิทักษ์มีทั้งอำนาจและบารมี ทำไมลูกถึงกล้าทำเรื่องแบบนั้นลงไปได้
ไหนจะข่าวฉาวๆ ที่กำลังโดนนักข่าวขุดคุ้ยอยู่นี่อีก คุณพ่อต้องรับศึกหลายด้าน ทั้งจากในพรรคแล้วก็นักข่าวที่รุมทึ้งถามเรื่องลูก ทำไมถึงทำอะไรไม่รู้จักคิดแบบนี้ฮะกาย ที่ผ่านมาลูกก่อเรื่องกี่ครั้ง แม่ก็พยายามหลับหูหลับตาเข้าข้างลูกมาตลอด แม่เพิ่งรู้ตัววันนี้เองว่าที่ผ่านมาแม่ทำพลาดไปขนาดไหน ไปนอนได้แล้ว แล้วเตรียมตัวไปพบคุณมานพกับลูกชายพรุ่งนี้” พูดจบคุณนิตยาก็หันหลังเดินตามสามีขึ้นไปชั้นบน ทิ้งให้ลุกชายมองไปอย่างโกรธเกรี้ยวที่พ่อกับแม่ไม่เข้าข้างอย่างเช่นทุกครั้ง
“โธ่โว้ย ไอ้มาร์ค กูไม่ยอมขอโทษมึงแน่ เรื่องทั้งหมดนี่ก็เพราะมึงกับพ่อมึง กูเกลียดมึง” กรวิทย์ยังไม่ยอมรับผิดแต่กลับโทษว่าเป็นความผิดของศัตรูหมายเลขหนึ่งที่เขาเกลียดเข้ากระดูก เมื่อเห็นว่าคนที่บ้านไม่มีใครคิดจะช่วยเขาแถมยังจะถูกบิดาบังคับให้ไปขอโทษศัตรู กรวิทย์จึงหันหลังออกจากบ้านไปทันที
เช้านี้คุณเกรียงไกรต้องหัวเสียอีกรอบเมื่อพบว่าลูกชายคนเดียวไม่อยู่รอตามคำสั่งของท่าน และเมื่อให้คนโทรตามก็ไม่สามารถติดต่อได้ เขาจึงใช้วิธีเด็ดขาดที่จะทำให้กรวิทย์ซมซานกลับมาบ้านอย่างแน่นอน นั่นคือการสั่งระงับบัตรเครดิตทุกใบ
“ทำแบบนี้ไม่ใจร้ายกับลูกเกินไปเหรอคะคุณ” คุณนิตยายังอดสงสารลูกชายไม่ได้ เพราะเลี้ยงแบบโอ๋และตามใจกันมาตลอด
“แค่นี้ยังน้อยไป คุณอย่ามาเข้าข้างมันอย่างที่ผ่านๆ มาอีกเลยคุณนิด คุณก็เห็นแล้วนี่ว่าการเลี้ยงลูกแบบตามใจอย่างที่เราทำกันมาตลอดมันได้รับผลยังไง หน้าที่การงานผมกำลังจะพังเพราะมัน ไหนจะข่าวฉาวที่มันเป็นคนอยู่เบื้องหลังการจ้างวางเพลิงนี่อีก แค่นี้ผมก็ไม่รู้จะแก้ปัญหายังไงแล้ว ถ้าผมทำให้คุณมานพกลับมาสนับสนุนพรรคอย่างเดิมไม่ได้ พวกที่จ้องจะแย่งเก้าอี้ผมในพรรคมันไม่ปล่อยผมไว้แน่ ผมจะไม่ยอมให้ไอ้ลูกไม่เอาไหนมาทำให้ทุกอย่างที่ผมสร้างมาต้องพังลงในพริบตาหรอกนะคุณนิด คุณตามมันมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นผมจะให้คนไปลากคอมันมา” คุณเกรียงไกรสั่งภรรยาอย่างหัวเสียแล้วเดินออกจากบ้านไป