ตอนที่ 6 ไปหา

1803 Words
“กลับมาแล้วค่ะ” “ทำไมมาด้วยกันล่ะ” เมื่อหทัยชนกกลับมาถึงบ้าน เธอก็ส่งเสียงบอกคนในบ้านตามปกติ อนุชิตเดินออกมาแล้วเจอวชิรวิษที่เดินตามหลังบุตรสาวเข้ามาด้วย ก็เอ่ยปากถามด้วยความแปลกใจ “วันนี้เฟิร์นถ่ายงานที่บริษัทพี่คิวมาค่ะ” “หืม วันนี้ถ่ายโฆษณารถ?” “ใช่ค่ะ” “บริษัทคิว?” “ค่ะ” “หือ.....” “ป๊าทำหน้าเหมือนเฟิร์นตอนครั้งแรกที่รู้เลย” หทัยชนกหัวเราะเบาๆก่อนจะเดินขึ้นบันไดไป ปล่อยให้วชิรวิษอยู่คุยกับอนุชิตตามลำพัง เธอมั่นใจว่าเขาน่าจะมีอะไรที่จะคุยกับบิดาของเธอ ก๊อก ก๊อก “เปิดเลยค่ะ เฟิร์นไม่ได้ล็อก” ผ่านไปกว่าชั่วโมงเสียงเคาะประตูห้องนอนของหญิงสาวก็ดังขึ้น เธอส่งเสียงอนุญาตให้เปิดประตูโดยที่ยังไม่ได้ลุกออกจากเตียง “อ้าว” เสียงหวานใสเอ่ยออกมาอย่างแปลกใจเมื่อเห็นคนที่ก้าวเข้ามาในห้อง หญิงสาวขยับลุกขึ้นมานั่งห้อยขาตรงขอบเตียงเพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียดเกินไปนัก พร้อมกับที่ร่างสูงเองก็เดินมาหย่อนตัวนั่งลงตรงขอบเตียง “พี่จะกลับบ้านแล้วล่ะ ดึกแล้ว เลยขึ้นมาบอกก่อน” “ค่ะ” “.....” “.....” ทั้งสองคนอยู่ท่ามกลางความเงียบโดยที่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไป หทัยชนกมองไปที่เขาเงียบๆ วชิรวิษเองก็นั่งอยู่ที่ขอบเตียงนอนมองหญิงสาวเงียบๆ เช่นเดียวกัน “พี่นุรู้แล้วนะ” วชิรวิษเอ่ยบอกหญิงสาวน้ำเสียงนุ่มนวล “เรื่องอะไรคะ” หญิงสาวคิดไม่ทันไปชั่วขณะ ถามเขาน้ำเสียงไม่เข้าใจ “เรื่องของเรา” “?” “ที่เราคบกัน” “อ๋อ ค่ะ” “พรุ่งนี้มีงานหรือเปล่า” “มีงานอีกอาทิตย์ก็จะปิดกล้อง จบเรื่องนี้ก็ว่าจะพักก่อนค่ะ เพราะยังไม่ตัดสินใจรับละคร” “งั้นระหว่างนี้พี่ไม่กวนนะ เฟิร์นจะได้มีเวลาพักผ่อนด้วย แล้วหลังจากปิดกล้องพี่จะมารับเฟิร์นไปนั่งเล่นที่ทำงานกับพี่” “ได้ค่ะ ช่วงนี้เร่งถ่ายด้วย ไม่น่าจะได้จับโทรศัพท์เท่าไหร่” “จ้ะ หลังจากกลับถึงบ้านส่งข้อความบอกพี่ทุกวันก็พอ พี่ก็จะทำเหมือนกัน” “ค่ะ” “ไปนะ” วชิรวิษลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะก้มตัวลงจุมพิตหน้าผากเนียนเบาๆ แล้วเดินออกจากห้องไป หทัยชนกมองตาม เธอไม่ได้คิดมากอะไรเรื่องที่ต้องห่างกัน เพราะทั้งเธอและเขาต่างก็มีหน้าที่ของตัวเอง หญิงสาวหยิบรีโมทขึ้นกดปิดไฟแล้ววางลงที่บนโต๊ะข้างหัวเตียงก่อนเอนตัวลงนอน หยิบโทรศัพท์มาตั้งนาฬิกาปลุกแล้วจึงหลับตาลง อาทิตย์ต่อมา “เฟิร์นไปนะ” “อย่ากลับดึกล่ะ” “ค่ะ” วันนี้หญิงสาวไม่ได้บอกกับวชิรวิษเอาไว้ว่าเธอว่าง เพราะจากเดิมที่นัดกันเอาไว้ในอีก 2 วันข้างหน้า แต่เนื่องจากปิดกล้องเร็วกว่ากำหนด วันนี้เธอจึงว่างและตั้งใจจะไปหาเขาโดยที่ไม่ได้บอกเพื่อให้เขาตกใจ เมื่อมาถึงที่บริษัทของเขา หญิงสาวเข้าไปที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์และขอพบกับดนัยโดยบอกเพียงชื่อจริงของเธอเท่านั้น พนักงานคนดังกล่าวเหมือนว่าจะจำหญิงสาวได้ แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรและโทรหาดนัยตามที่หญิงสาวต้องการ และเพียงไม่นานดนัยก็ลงมา “คุณเฟิร์น ไหนนายบอกว่าคุณจะมาวันพุธไงครับ” “ปิดกล้องเร็วกว่ากำหนดค่ะ พี่คิวอยู่ไหมคะ” “อยู่ครับ ดีนะครับที่คุณมาเร็ว เพราะช่วงเช้านายว่างอยู่พอดี ช่วงบ่ายถึงจะมีประชุม” “ค่ะ ยังไม่ได้บอกพี่คิวใช่ไหมคะว่าลงมารับเฟิร์น” “ยังครับ พอพนักงานแจ้งไปผมก็รีบลงมา ยังไม่ได้บอกใครเลย” “ค่ะ” “ไปเลยไหมครับ” เมื่อเห็นหญิงสาวพยักหน้า ดนัยจึงเดินนำออกไปโดยมีหญิงสาวเดินตาม พนักงานหลายคนที่อยู่แถวนั้นจำหญิงสาวได้ ได้แต่แปลกใจที่เห็นหญิงสาวมาที่นี่ “ไม่ต้องห่วงนะครับ ที่นี่มีกฎอยู่ ไม่ว่าใครจะเข้าออกที่นี่พนักงานไม่มีสิทธิ์นำออกไปพูด จะไม่มีข่าวหลุดออกไปแน่นอนครับ” “ไม่ห่วงเรื่องข่าวหรอกค่ะ เฟิร์นอยู่ในวงการตั้งแต่เด็ก มันนานพอที่แฟนคลับจะเข้าใจ อีกอย่างเฟิร์นหมดสัญญากับค่าย เป็นนักแสดงอิสระแล้วค่ะ” “แต่ผมก็เห็นคุณเฟิร์นยังเล่นละครของช่องอยู่เลยนี่ครับ” “สัญญาใจค่ะ เฟิร์นไม่ค่อยรับละครที่อื่น ถ้าจะรับส่วนใหญ่ก็ปรึกษากับทางผู้ใหญ่ก่อน ทางช่องมีงานอะไรที่เหมาะกับเฟิร์นก็เลยยังป้อนให้เฟิร์นเหมือนเดิมค่ะ” “อ๋อ ครับ เข้าไปได้เลยนะครับ นายอยู่ข้างใน” “ขอบคุณนะคะ” เมื่อขึ้นมาถึงชั้นบน ดนัยพาหญิงสาวมาส่งที่หน้าประตูห้องทำงานของวชิรวิษ ก่อนจะเดินกลับออกไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนจะเปิดเข้าไปโดยไม่ได้รอคำอนุญาต ชายหนุ่มแปลกใจจึงเงยหน้าขึ้นมอง เมื่อเห็นว่าคนที่เดินเข้ามาเป็นใครก็เลิกคิ้ว “หืม มาได้ยังไงคะ” “ว่างค่ะ” “ไหนว่าอีก 2-3 วันไงคะ” “ปิดกล้องเร็วกว่ากำหนดค่ะ” เอกสารในมือถูกวางลงบนโต๊ะ ก่อนที่ร่างสูงจะพยักหน้าเรียกให้หญิงสาวเดินเข้าไปหาเขา “คะ” “ไม่มีอะไรค่ะ” หทัยชนกวางกระเป๋าลงบนโต๊ะหน้าโซฟา แล้วเดินเข้าไปหาเขาตามที่เขาต้องการ เธอหย่อนกายนั่งลงบนตักเขา ก่อนที่วงแขนอบอุ่นจะโอบกอดเธอเอาไว้หลวมๆ “งานเยอะไหมคะ” “นิดหน่อยจ้ะ พอดีบ่ายมีประชุม พี่เลยต้องดูเอกสารน่ะ” “งั้นเฟิร์นไม่กวนดีกว่าค่ะ” “ก็แค่นั่งเฉยๆก็พอ” ชายหนุ่มโอบกอดร่างเล็กเอาไว้ด้วยแขนข้างหนึ่ง และอีกข้างหนึ่งที่ว่างก็ยื่นมือออกไปหยิบเอกสารมาอ่านต่อ “โทรหาดินให้พี่หน่อย โทรศัพท์มือถือพี่ก็ได้ รหัสวันเกิดพี่กับเฟิร์น” มือเล็กเอื้อมหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องบางเฉียบบนโต๊ะมาปลดล็อกตามที่เขาบอก แล้วหาเบอร์โทรออกล่าสุด ซึ่งก็เป็นไปตามที่เธอคิด เจอเบอร์ของดนัยอย่างง่ายดาย เธอกดโทรออกแล้วเปิดลำโพงให้เขา “ครับนาย” “ดิน นายหาของกินเล่นเข้ามาให้เฟิร์นหน่อย พวกเครื่องดื่มด้วย” “ครับ คุณเฟิร์นดื่มอะไรครับ” “อะไรก็ได้ค่ะ” “อ้าว เปิดลำโพงเหรอครับ คุณเฟิร์นกินขนมอะไรดีครับ” “อะไรก็ได้ค่ะ เฟิร์นกินได้หมดเลย” “ครับผม งั้นรอสักครู่นะครับ” หลังจากดนัยวางสายไป หญิงสาวก็วางโทรศัพท์ลงที่เดิม เธอหันมองใบหน้าหล่อเหลานิ่งจนเจ้าตัวเลิกคิ้วขึ้น “มีอะไรจะถามพี่” “ทำไมไม่เรียกให้คุณดินเข้ามาล่ะคะ” “แบบนี้สะดวกกว่า” “เฟิร์นไปนั่งที่โซฟาดีไหมคะ เผื่อใครเข้ามาเห็น” “ห้องพี่ไม่มีใครเข้ามาหรอก นอกจากดินกับคุณพร” “เกรงใจคุณดินค่ะ” “เดี๋ยวก็ชิน” หทัยชนกนิ่งไป จากการพูดคุยมันทำให้เธอรู้ว่าเขาเองก็เป็นคนเอาแต่ใจไม่น้อยเลย เพียงแต่คนเอาแต่ใจอย่างเขาตามใจเธอเท่านั้น การคุยในวันนี้ทำให้เธอรู้ว่าหากเขาต้องการ ก็ห้ามขัดใจ ไม่นานดนัยก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับของกินเล่นถุงใหญ่ 2 ถุง เขาวางไว้ที่โต๊ะ ก่อนจะยิ้มให้หญิงสาวแล้วเดินออกไป “คุณดินไม่ได้ประชดเฟิร์นใช่ไหมคะ” “พี่ว่าดินซื้อเผื่อตอนบ่าย พี่ประชุมบ่าย คงกลัวว่าเฟิร์นจะไม่มีอะไรกินน่ะสิ” “หืม เป็นผู้ช่วยที่รอบคอบจังเลยนะคะ” “ดินถึงเป็นทั้งเลขาทั้งผู้ช่วยของพี่ไง” “ค่ะ เฟิร์นไปกินขนมได้หรือยังคะ” “ไปสิ” หญิงสาวขยับตัว ตั้งใจจะลุกออกจากหน้าตักแกร่ง แต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อเอวคอดเล็กถูกโอบกอดเอาไว้แน่น หญิงสาวเตรียมจะถามว่าเขาจะทำอะไร ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ริมฝีปากเล็กถูกแนบจุมพิตเบาๆ ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกใจ ถึงเขาและเธอจะกอดกันหรือนั่งตักกัน แต่มันก็เพียงแค่นั้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำมากกว่าการโอบกอดเธอ “ของหวานพี่น่ะ” “.....” “ถ้าไม่ลุกพี่กินต่อนะ” หทัยชนกหน้าเหวอ หญิงสาวรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปนั่งที่โซฟา เธอมองเขาด้วยแววตาไม่เข้าใจ “ว่าไงคะ” “ทำไมถึงจูบเฟิร์น” “ก็เฟิร์นเป็นคนรักของพี่” “ไม่ใช่ค่ะ ความหมายคือ.....ทำไมอยู่ๆถึงนึกจะจูบเฟิร์น เราอยู่ด้วยกันตั้งกี่คืน พี่ทำแค่โอบกอดเฟิร์นเท่านั้น” “พี่ให้เวลาเฟิร์นค่อยๆปรับตัว ทั้งชีวิตเฟิร์นนอกจากในการแสดงบทบาท เฟิร์นแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายเลยไม่ใช่เหรอ ในทำนองใกล้ชิดน่ะ” “ก็ใช่ค่ะ” “ก็ตามนั้นแหละจ้ะ กินขนมไปก่อนนะ พี่อ่านเอกสารก่อน แล้วเดี๋ยวเรากินมื้อเที่ยงด้วยกัน” “ค่ะ” “อ้อ อีกสักชั่วโมงเฟิร์นโทรบอกดินด้วยว่าจะกินอะไร เดี๋ยวดินไปซื้อมาให้” “รับทราบค่ะ” หญิงสาวตอบรับเขา แต่ดวงตาของเธอกำลังจ้องขนม และมือเล็กก็เอื้อมไปหยิบถุงขนมมาแกะ ชายหนุ่มมองแล้วยิ้มเอ็นดู เขาก้มหน้าจัดการงานของตัวเองต่อจนกระทั่งรู้สึกตัวอีกทีก็เป็นเวลากว่าชั่วโมง และก็ใกล้เวลาอาหารกลางวัน “หืม ป่านนี้แล้วเหรอ หิวหรือยังคะ” “เฟิร์นยังไม่ได้หยุดกินเลยนะคะ” “งั้นจะกินอะไร พี่จะให้ดินซื้อมาไว้ก่อน แล้วเฟิร์นหิวตอนไหนค่อยกิน” “…..ที่นี่มีโรงอาหารไหมคะ” หญิงสาวถามขึ้นมาอย่างนึกสนุก “มีสิคะ” วชิรวิษแปลกใจแต่ก็ตอบออกไป “ไปกินไหมคะ” น้ำเสียงหวานใสถามเขาด้วยรอยยิ้มหวาน “ไม่กลัวคนเห็นเหรอคะคนสวย” “ไม่ค่ะ” “งั้นก็ไปจ้ะ” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาหยิบกระเป๋าเงินกับโทรศัพท์ขึ้นมาถือ แล้วเดินมาหยุดรอหญิงสาวที่หันไปหยิบกระเป๋าสะหายใบเล็กขึ้นสะพายบนบ่า ก่อนจะพากันเดินออกจากห้องไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD