น้ำฝนเดินตามร่างสูงที่เดินอยู่ด้านหน้า ทิ้งระยะห่างไว้พอสมควรตามที่อีกคนเคยสั่งไว้ ว่าหากออกไปข้างนอกด้วยกันเมื่อไหร่ ทั้งคู่ต้องรักษาระยะห่างไม่ควรทำตัวสนิทสนมกัน เพราะไม่อยากให้คนอื่นมอง แม้คนอื่นที่ว่าจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทั้งคู่มีสถานะทางสังคมเกี่ยวข้องกันอย่างไรก็ตามที
แต่ถึงอย่างนั้นกายก็ยังพาน้ำฝนออกมาทานข้าวนอกบ้าน เป็นข้าวเช้าของคนทั้งคู่หลังจากชายหนุ่มอิ่มเอมจากหญิงสาวจนพุงปลิ้นก็ว่าได้ อาหารที่น้ำฝนทำไว้จึงกลายเป็นหมัน กลับไปก็คงต้องเททิ้งลงถังขยะ
“กินร้านนี้แล้วกัน” หันมาบอกคนที่เดินตามหลังอยู่ห่างๆ เป็นร้านอาหารไทยฟิวชั่นดูหรูหราน่ารับประทาน น้ำฝนเพียงแค่พยักหน้ารับ กำลังจะก้าวตามร่างสูงไป แต่ไม่รู้มีผู้หญิงจากที่ไหนเดินเข้ามาทักทายชายหนุ่มเสียก่อน และยังจับแขนกายไว้อย่างสนิทสนม ทำให้น้ำฝนต้องเบี่ยงตัวออกห่างโดยอัตโนมัติ
“กาย! ดีใจจังเลยค่ะ ที่ได้เจอกายที่นี่” หญิงสาวใบหน้าสะสวยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม แสดงออกว่าดีใจที่ได้เจอชายหนุ่ม
กายเหลือบหางตามองน้ำฝนที่แสร้งทำเป็นยืนเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างร้านก็ลอบยิ้มออกมา เมื่ออีกคนรู้งานตามที่เคยสั่งไว้
“ครับ แล้วนี่หวานมาเดินเล่นเหรอ”
“ใช่ พอดีเบื่อๆ ก็เลยออกมาเดินเล่น แล้วกายล่ะ มาเดินเล่นเหรอ”
“อืม พอดีหิวก็เลยว่าจะมาหาอะไรกินหน่อย”
“งั้นดีเลย หวานก็หิวพอดี เราไปหาอะไรกินกันดีไหม” เอียงคอมองหน้าชายหนุ่มอย่างมีความหมาย สายตาทอประกายจนน้ำฝนที่หันมองยังดูออกว่าสายตาของผู้หญิงคนนั้นไม่ได้อยากกินแค่ข้าว แต่คงอยากกินอย่างอื่นกับกายหลังจากกินข้าวเสร็จ
“ได้สิ” คำตอบที่ได้ยินเต็มสองหู ทำให้คนที่ยืนอยู่ไม่ไกลหันไปมองในทันที เมื่อเห็นชายหนุ่มมองมาด้วยรอยยิ้มสะใจก็เจ็บแปลบในอกรีบเมินหน้าหนีไป
“งั้น เราจะกินกันเลยไหม หวานหิวแล้วอะ”
“แล้วหวานอยากกินที่ไหน” น้ำฝนไม่เข้าใจว่าตัวเองจะยืนตรงนี้ไปทำไม ในเมื่อเธอคืออากาศไร้ตัวตน หญิงสาวจึงเลือกที่จะเดินออกมาจากตรงนั้น ด้วยหัวใจที่เจ็บระบบ
การอยู่กับคนที่แอบรักมาตั้งแต่เห็นหน้า การอยู่กับคนที่ไม่เห็นค่าทำร้ายหัวใจเราซ้ำๆ มันคือความเจ็บช้ำที่หาคำบรรยายออกมาไม่ได้ อยากจะหลบหนีไปให้ไกลจากความอดสูที่เป็นอยู่ แต่ก็ยังไม่มีหนทางให้ก้าวเดินไป
การศึกษาก็จบแค่ชั้นปวช. เพราะพ่อเลี้ยงที่มีลูกติดมาด้วยก็ส่งเสียให้ลูกตัวเองเรียนสูงกว่า ส่วนเธอก็ทนทำงานส่งตัวเองเรียนภาคพิเศษวันอาทิตย์ มิหนำซ้ำยังทำงานหาเงินมาเลี้ยงทั้งครอบครัว ส่วนพี่สาวก็มีหน้าที่แค่เรียนเท่านั้น ทั้งที่เธอกับพี่สาวต่างมารดาอายุห่างกันแค่สองปี
เมื่อมารดาแท้ๆ มาจากไปในขณะที่เธอเรียนจบพอดี พ่อเลี้ยงที่เคยเป็นคนดีก็เริ่มออกลาย กินเหล้าเมาหัวราน้ำ ไม่ทำงานอะไร คอยแต่จะล้างผลาญเรียกร้องเงินจากเธอไปกินเหล้าเข้าบ่อน มีเจ้าหนี้มาทวงถึงหน้าบ้านทุกวัน หนักข้อเข้าก็คิดอุบาทว์จะลากเธอไปเป็นเมียซะงั้น จนเธอต้องหนีหัวซุกหัวซุนเข้ามาหาพี่สาวที่มาเรียนที่กรุงเทพฯ และยังได้ข่าวว่ามีแฟนรวยมีเงินทองมากมาย มีบริษัทออกแบบตกแต่งภายใน
นั่นจึงทำให้เธอพบเจอกับกาย น้ำฝนยอมรับอย่างไม่อายว่าตกหลุมรักกายตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้า เธอแอบชอบเขา เธอแอบชอบสามีพี่สาวตัวเอง แต่เธอก็ไม่เคยคิดจะแย่งชิงมาเป็นของตัวเอง อีกอย่างเธอก็เห็นว่ากายรักพี่สาวเธอมาก ดูแลเอาใจใส่ดีทุกอย่าง ตามใจพี่สาวเธอตลอดไม่ว่าเอ่ยปากอยากได้อะไรก็หามาให้
ส่วนเธอเมื่อเข้ามาอยู่ในบ้านก็ได้รับหน้าที่ไม่ต่างจากคนใช้ของพี่สาว ถูกจิกหัวใช้ต่างๆ นานา ต่อหน้ากายพี่สาวเธอก็เปรียบเสมือนแม่พระ นางฟ้า นางสวรรค์ เมื่ออยู่ลับหลังก็จิกหัวเรียกเธออี เธอต้องทน เพราะถ้าไม่ทนก็ไม่มีที่ซุกหัวนอน ยอมทำงานแลกข้าว แลกที่นอน แลกเงินเดือนที่กายให้ใช้เดือนละหนึ่งหมื่นบาทไม่รวมค่าข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน แต่พี่สาวเธอก็ตัดหัวคิวเอาไปถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ มาถึงมือเธอก็แค่สามพัน
คิดแล้วน้ำฝนก็ได้แต่ผ่อนลมหายใจออกมา เดินมายังชั้นล่างของห้างเข้าโซนขายอาหารสดเพื่อซื้อวัตถุดิบเข้าบ้าน รวมไปถึงซื้อวัตถุดิบทำแซนด์วิชของตัวเองเช่นกัน คนการศึกษาน้อยก็คงต้องเอาดีทางค้าขาย น้ำฝนจึงคิดว่าเธอจะพยายามเก็บเงินให้ได้สักก้อนเผื่อมีทุนติดตัวไปตั้งหลัก