ทางด้านนับหนึ่งเมื่อเข้าไปในครัวก็ช่วยป้าศรีและเอื้องทำกับข้าวเย็น…
“ป้าไม่คิดว่าคุณหนึ่งจะทำกับข้าวเก่งขนาดนี้” ป้าศรีพูดขณะยืนมองนับหนึ่งกำลังปรุงแกงเทโพในหม้อด้วยท่าทีคล่องแคล่วก็อดเอ่ยปากชมไม่ได้ เพราะนาน ๆ ทีจะเห็นเด็กวัยรุ่นเข้าครัวทำกับข้าวแบบนี้
“เมื่อก่อนหนูทำกับข้าวให้แม่กินทุกวันก็เลยทำเป็น”
“เก่งจัง”
“ขอบคุณค่ะ ป้าศรีไม่ต้องเรียกหนูว่าคุณได้ไหม เรียกว่าหนึ่งหรือหนูก็ได้ หนูขอร้อง” เมื่อเห็นอีกคนดูอึดอัดกับสรรพนามที่เรียก ศรีจึงตอบกลับไปอย่างจำยอม
“ก็ได้”
“ขอบคุณค่ะ” นับหนึ่งหันไปยิ้มให้ป้าศรีจากนั้นก็ตั้งใจทำกับข้าวต่อ กระทั่งเอื้องเดินเข้ามาในครัวพร้อมกับเอ่ยถาม
“ป้าศรีเฟรนช์ฟรายส์หมดยัง?”
“เหลือนิดเดียว ทำไม?”
“คุณเตอร์ให้ทอดไปเพิ่ม”
“ลองดูในตู้เย็นว่าเหลือเยอะไหม” สิ้นเสียงป้าศรีเอื้องก็เดินไปเปิดตู้เย็น พอเห็นเฟรนช์ฟรายส์เหลือเพียงนิดเดียวจึงพูดขึ้น
“ไม่พอกินแน่เลยป้า”
“งั้นเอ็งก็ขับรถไปซื้อหน้าปากซอยหมู่บ้าน”
“จ้ะ เดี๋ยวฉันรีบไปก่อน ฝากทอดที่เหลือให้หน่อยนะป้า”
พูดจบเอื้องก็เดินออกไปจากครัว ส่วนป้าศรีก็รีบจัดการเอาเฟรนช์ฟรายส์ที่มีอยู่ไปทอด เพื่อเอาไปให้คาร์เตอร์กับเพื่อน ๆ จะได้ไม่ขาดตอน ส่วนนับหนึ่งเมื่อทำกับข้าวเสร็จไม่รู้จะไปไหน จึงยืนคุยกับป้าศรีในครัวกระทั่งป้าแกทอดเฟรนช์ฟรายส์เสร็จ
“เดี๋ยวหนูเอาไปให้เองค่ะ”
“ป้าฝากหน่อยนะ” เพราะเห็นป้าศรียุ่ง ๆ ส่วนเธอไม่มีอะไรทำ นับหนึ่งจึงอาสาเอาเฟรนช์ฟรายส์ไปให้คาร์เตอร์กับเพื่อน ๆ ของเขาโดยไม่ได้คิดอะไร
นับหนึ่งเดินถือจานมันฝรั่งไปยังหน้าบ้าน ขณะกำลังจะเดินพ้นประตู ก็เห็นคาร์เตอร์เดินมาในบ้านพอดี เธอจึงหยุดฝีเท้าแล้วมองอีกคนเอ่ยถามด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
“จะเอาเฟรนช์ฟรายส์ไปไหน?”
“ก็เอาไปให้นายไง”
“ใครสั่งให้เธอเอาไปให้ฉัน”
“เอาไปให้ต้องมีคนสั่งด้วยเหรอ?” นับหนึ่งถามด้วยใบหน้าสงสัยกับคำพูดของอีกคน ส่วนคาร์เตอร์ได้ยินเช่นนั้นก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป นอกจากแย่งจานเฟรนช์ฟรายส์จากนับหนึ่งไปถือ แล้วบอกเธอด้วยน้ำเสียงกำชับ
“เข้าไปในบ้านได้แล้ว แล้วก็ไม่ต้องออกมา” พูดจบคาร์เตอร์ก็เดินถือจานเฟรนช์ฟรายส์ไปหาเพื่อน ๆ ของเขาที่ริมสระน้ำ ส่วนนับหนึ่งก็เดินกลับเข้าไปในบ้านแล้วขึ้นไปอาบน้ำเมื่อเห็นว่าพระอาทิตย์ใกล้ลับฟ้าแล้ว อีกอย่างก็ไม่รู้จะทำอะไรด้วย...
หลังจากอาบน้ำเสร็จก็หยิบเสื้อยืดกับกางเกงขายาวมาสวมใส่ให้เรียบร้อย จากนั้นก็ลงไปข้างล่าง
ทางด้านชนิตราและไพศาลเมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็นั่งรอนับหนึ่งที่ป้าศรีบอกว่าเธอขึ้นไปอาบน้ำอยู่ที่โต๊ะกินข้าว ไม่นานก็เห็นเธอเดินลงบันได ชนิตราจึงเอ่ยเรียกตามมารยาท
“มากินข้าวสิ”
“ค่ะ” นับหนึ่งรีบเดินลงบันไดไปนั่งยังโต๊ะกินข้าว จากนั้นเธอก็นั่งกินข้าวกับเจ้าของบ้านเงียบ ๆ เพราะยังไม่คุ้นชินกับทั้งสองคน และนั่งฟังสองสามีภรรยาคุยกันเงียบ ๆ
“เตอร์มันไม่กินข้าว?”
“ไม่ นั่งดื่มกับเพื่อน ๆ อยู่ที่ริมสระ”
“แล้วเซน่าล่ะ”
“นอนคอนโดเพื่อนตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่กลับเลย”
“เฮ้อ ลูกแต่ละคน” จากที่นับหนึ่งฟัง ถ้าเธอมีลูกแบบทั้งสองคนนี้ก็คงเหนื่อยใจไม่น้อย เพราะสองพี่น้องแทบไม่อยู่บ้านเลย หากบอกว่าทั้งสองไม่มีลูกเธอก็เชื่อ
“แล้ววันนี้เธอไปฝากครรภ์มาหรือยัง?”
“ฝากแล้วค่ะ”
“หมอว่ายังไงบ้าง?” ชนิตราถามนับหนึ่งด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ก่อนจะตักแกงเทโพใส่ปาก พอได้ชิมรสชาติคิ้วสองข้างก็ขมวดมุ่น เนื่องจากรสชาติมันแปรเปลี่ยนไปจากเดิม ทว่าก็ยังไม่ได้ถามอะไรป้าศรี เพราะรอฟังคำตอบของนับหนึ่งอยู่
“เด็กแข็งแรงดีค่ะ” ชนิตราได้ยินเช่นนั้นก็เพียงแต่พยักหน้าตอบนับหนึ่งกลับไป ก่อนจะหันไปถามป้าศรีด้วยใบหน้าสงสัย
“ป้าศรี แกงเทโพซื้อมาจากตลาดเหรอ รสชาติไม่คุ้นปาก?”
“เปล่าค่ะ พอดีนับหนึ่งเป็นคนทำค่ะ” สิ้นเสียงป้าศรีนับหนึ่งก็เห็นชนิตราหันมามองเธอ ปากอวบอิ่มจึงเอ่ยถามออกไปตรง ๆ
“รสชาติได้ไหมคะ?”
“รสชาติดี ไม่คิดว่าเธอจะทำเป็นด้วย”
“แม่หนูสอนค่ะ” ได้ยินคำตอบนับหนึ่งก็โล่งใจไม่น้อย เพราะไม่มั่นใจในฝีมือตัวเอง เนื่องจากไม่ได้ทำกับข้าวนานแล้วตั้งแต่แม่เธอจากไป ด้วยหน้าที่การงานที่ไม่ค่อยมีเวลา จึงเลือกซื้อกินมากกว่า
ขณะนับหนึ่งตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พอได้ยินเสียงไพศาลเอ่ยชม
“เก่งนะ” เธอจึงเบี่ยงสายตาไปมองเห็นพ่อของคาร์เตอร์ นั่งกินข้าวด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง จึงตอบกลับไปด้วยท่าทีนอบน้อม
“ขอบคุณค่ะ” จากนั้นทั้งสามก็นั่งกินข้าวต่อ…
ทางด้านคาร์เตอร์หลังจากดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปเยอะ ทำให้ปวดฉี่จึงเดินเข้าไปในบ้านเพื่อเข้าห้องน้ำ เมื่อขายาว ๆ เดินพ้นประตูบ้าน เห็นนับหนึ่งนั่งกินข้าวและคุยกับพ่อแม่เขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทำเอาหมั่นไส้กับท่าทีประจบประแจงของเธอไม่น้อย
จึงเค้นหัวเราะในลำคอแล้วเดินล้วงกระเป๋ากางเกงไปหยุดยังโต๊ะกินข้าว ก่อนจะหยิบปีกไก่ทอดแล้วยืนกิน ขณะดวงตามองนับหนึ่งไม่ละไปไหน กระทั่งได้ยินคนเป็นแม่พูดขึ้น
“จะกินข้าวก็มานั่งกินดี ๆ เตอร์”
“ไม่อะบรรยากาศที่โต๊ะมันไม่ดี ผมนั่งกินไม่ลง” พูดจบก็ส่งยิ้มให้นับหนึ่งด้วยท่าทีกวน ๆ ก่อนจะเดินไปยังห้องน้ำ
การกระทำและคำพูดที่อีกคนแสดงออกมา ทำเอาคนเป็นพ่ออดตำหนิไม่ได้
“ไอ้ลูกคนนี้ปากมันไม่ดีจริง ๆ” เมื่อเอือมระอากับคำพูดและการกระทำของลูกชาย ซึ่งไม่ต่างจากนับหนึ่งที่หมั่นไส้คาร์เตอร์ไม่น้อยแต่ก็เลือกไม่สนใจนั่งกินข้าวต่อ กระทั่งอิ่มก็ช่วยป้าศรีกับเอื้องเก็บจานและกับข้าวเข้าไปเก็บในครัว
โดยมีชนิตราและไพศาลแอบมองอยู่ห่าง ๆ