ปืนใหญ่ (nc)

2881 Words
“โอ้โห! น่ากินมากเลยค่ะคุณภีม” เสียงแม่บ้านเอ่ยชมไม่ขาดปากขณะที่ผมกำลังตักบัวลอยไข่หวานจัดเรียงบนถ้วยขนาดเล็ก “ไม่นึกว่าผู้ชายตัวเล็ก ๆ แบบคุณภีมจะทำอาหารเป็นด้วย” “ผมชอบเข้าครัวกับคุณแม่น่ะครับ เลยจำสูตรมา” ผมยิ้มตอบรับอย่างสุภาพ “ผมตักให้แขกเสร็จแล้ว ส่วนในหม้อคุณน้าทานได้เลยนะครับ” “ขอบคุณมากนะคะคุณภีม” แม่บ้านส่งยิ้มละมุนมาให้ผมด้วยความเอ็นดู ที่นี่เราอยู่กันแบบครอบครัว พูดตามตรงผมชอบที่นี่กว่าอยู่บ้านตัวคนเดียวเสียอีก ผู้คนที่นี่ใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส แถมยังให้เกียรติผมมาก ๆ ด้วย ทั้งที่ผมก็เป็นเพียงแค่เด็กขายตัวเท่านั้น “ของหวานมาแล้วครับ” ผมบรรจงวางของหวานจัดเรียงบนโต๊ะอย่างสวยงาม วันนี้พี่สายฟ้าเข้ามาคุยงานกับพี่คิงส์ที่บ้าน พายุจึงขอติดมาด้วย “โหหห!! ไอ้ภีม มึงนี่โคตรแม่ศรีเรือนเลย” พายุรีบวางเกมมือถือในมือลงแล้วเข้ามาคว้าถ้วยของหวานขึ้นไปตักกินอย่างเอร็ดอร่อย “ให้ตายเถอะโคตรอร่อย มึงนี่ทำอาหารอร่อยกว่าบนภัตตาคารหรูอีกนะ” พายุพูดสรรเสริญเยินยอจนดูเวอร์เกินไป “ทำไงกูถึงจะได้กินแบบนี้ทุกวันวะ มึงมาเป็นเมียกูเถอะนะ” “อะแฮ่ม!” พี่คิงส์กระแอมเสียงดังขัดจังหวะ เพื่อบ่งบอกว่าเขายังนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ “อะไรพี่คิงส์ หึงหรอ” พายุว่าอย่างล้อ ๆ “กูจะหึงทำซากอะไร มันก็แค่ของเล่นกูเท่านั้นแหละ กูแค่ไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับของส่วนตัว” เขาพูดอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะหยิบถ้วยของหวานมาตักกินเช่นกัน ไม่รู้ทำไม ทั้งที่เขาย้ำกับผมตลอดว่าผมเป็นแค่ของเล่น แต่ผมกลับรู้สึกเจ็บแปลบ ๆ ที่หัวใจทุกครั้งที่ได้ยิน ทำไมนะ ถึงไม่ยอมชินซักที… “คำก็ของเล่น สองคำก็ของเล่น นี่มึงกลัวน้องเขาลืม หรือมึงพูดเพื่อย้ำ ตัวเองวะ” พี่สายพูดแทรกขึ้นมาทันควันจนพี่คิงส์ชะงักไปชั่วขณะ “ติดนิสัยขี้เสือกมาจากไอ้พายุเยอะเกินไปแล้วนะมึง” พี่คิงส์ต่อว่าไม่จริงจังนัก “ปากดีไปเถอะ ปากหมา ๆ อย่างงี้กูเห็นโบ้มาหลายรายละ” พี่สายฟ้าว่าก่อนจะพิงหลังไปที่เก้าอี้ด้วยท่าทางสบาย ๆ เช่นกัน “วันนี้กูกับพี่สายฟ้ามีออกไปดูงานที่โรงแรม มึงอยากออกไปเปิดหูเปิดตาป่ะ” “ไม่!!” ไม่ทันที่ผมจะได้ตอบอะไรพี่คิงส์ก็ชิ่งตอบไปก่อนผมเสียแล้ว “โห่ พี่คิงส์ กะจะกักขังหน่วงเหนี่ยวมันไว้ตลอดเวลาเลยรึไง” พายุมุ่ยหน้าเมื่อโดนขัดใจ “กูบอกว่าไม่คือไม่ วันนี้กูจะเข้าสนามยิงปืนว่าจะเอามันไปด้วย” สนามยิงปืนงั้นหรอ? ไม่เห็นบอกก่อนเลย “ขอแค่วันเดียวนะพี่คิงส์” พายุอ้อนวอนสุดฤทธิ์แต่ก็คงไม่เป็นผล เพราะพี่คิงส์จับแขนผมลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินดุ่ม ๆ มาขึ้นรถ ท่ามกลางสายตามึนงงของพี่สายฟ้า พายุ และบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่บริเวณบ้าน “ไปไหนครับท่าน” พี่เฟยเอ่ยถามก่อนจะสตาร์ทรถ “สนามยิงปืน” “พี่คิงส์พาผมไปที่สนามยิงปืนทำไมหรอครับ” ผมเอ่ยถามอย่างสงสัย “ไปยิงทิ้งมั้ง อย่าถามมาก” ผมลอบกลืนน้ำลายก่อนจะนั่งนิ่งเป็นหุ่น เมื่อได้ฟังคำตอบเช่นนั้น เพราะกลัวว่าถ้าเผลอทำอะไรขัดใจเขาขึ้นมา เขาอาจจะทำอย่างที่พูดจริง ๆ ก็ได้ ไม่ถึงสิบนาที ขบวนรถจำนวนสิบกว่าคันก็มาจอดเรียงรายที่สนามยิงปืนขนาดใหญ่ ที่นี่ไม่มีคนนอกเข้ามาแม้แต่คนเดียว มีเพียงบอดี้การ์ดของพี่คิงส์เท่านั้น พอสำรวจไปรอบ ๆ ก็เห็นป้ายใหญ่ ๆ เขียนว่า King ผมก็กระจ่างทันที นี่คงจะเป็นสนามยิงปืนส่วนตัวสินะ “ลงมา” เขาเดินอ้อมลงมาเปิดประตูรถให้ผมก่อนจะเดินนำเข้าไปที่สนามยิงปืน ที่นี่กว้างใหญ่จนสุดลูกหูลูกตา ด้านหลังมีตู้เก็บปืนอย่างดี บางรุ่นไม่เคยเห็นมาก่อนดูแล้วก็แปลกตา ผมเดินเข้ามาเรื่อย ๆ จนถึงห้องยิงปืนเก็บเสียงที่จัดเรียงเป็นห้อง ๆ ไว้สำหรับยิงปืน มีหูฟังใหญ่ ๆ ไว้ครอบหู ผมไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกี่ยวกับการยิงปืนยังไง “ต่อไปนี้นายต้องหัดยิงปืนให้แม่น เวลามีใครมารังแกก็ยิงมันซะ เข้าใจมั้ย” “ถึงกับต้องยิงเลยหรอครับพี่คิงส์” แค่กลั่นแกล้งกันผมคิดว่าเราพูดจากันดี ๆ ก็น่าจะเคลียร์กันได้ ถ้าถึงขั้นจะต้องยิงกันมันคงดูโหดร้ายเกินไปสำหรับผม “ทำไม? ไม่กล้ายิงหรอ นายกลัวอะไร” “ผมกลัวเขาตายครับ” ผมพูดออกไปตามที่คิด “หึ ยิงไม่ตายแล้วจะยิงทำไม” เขามองหน้าผมดุ ๆ จนผมต้องหลบสายตา นี่ผมทำเขาอารมณ์เสียรึยังนะ เขาจะยิงผมทิ้งหรือเปล่า “มาเลือกปืนทางนี้ ชอบกระบอกไหนนายก็เลือกเอา” ผมโล่งใจไม่น้อยที่เขาไม่ได้อารมณ์เสีย รู้ได้ยังไงน่ะหรอครับ ก็ฟังจากสรรพนามเรียกยังไงล่ะ ถ้าอารมณ์ปกติเขาจะเรียกผมว่านาย ถ้าอารมณ์เสียเมื่อไหร่ เขาก็จะเรียกว่ามึง ส่วนอารมณ์ที่….กำลังเสียวก็จะเรียกว่าภีมอย่างเช่น ‘อะ อ้าาา~ ภีม อย่างงั้นแหละ อื้ออ~ เก่งมาก’ บ้าจริง! นี่ผมคิดทะลึ่งอะไรอยู่เนี่ย>///< “เป็นอะไร ทำไมหน้าแดง ๆ” “ปะ เปล่าครับ” ผมพยายามรวบรวมสมาธิให้มาจดจ่อกับปืนตรงหน้า ไม่ว่อกแว่กให้เสียสมาธิ ปืนพวกนี้มีทั้งกระบอกสั้นกระบอกยาววางเรียงจนละลานตา เลือกไม่ถูกเลยแฮะ “ว่าไง ชอบกระบอกไหน” เขาเร่งคำตอบจนผมเริ่มลนลาน “เอ่ออ… ผมเลือกไม่เป็นน่ะครับ พี่คิงส์คิดว่าปืนกระบอกไหนเหมาะกับผมหรอครับ” “หึ เหมาะกับนายมันก็มีอยู่กระบอกเดียวนั่นแหละ” เขาว่าก่อนจะจับมือผมขึ้นมา หมับ!! “กระบอกนี้” “พะ พี่คิงส์” ผมรีบชักมือกลับเมื่อเขาดึงมือผมเข้าไปจับที่เป้ากางเกงเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว ผมหน้าแดงแปร๊ดขึ้นมาหนักยิ่งกว่าเดิม และที่สำคัญไม่ใช่เพียงแค่ผมคนเดียวด้วยล่ะ แต่บอดี้การ์ดที่ยืนเรียงอยู่ด้านหลังก็ตะลึงไปตาม ๆ กัน ทุกคนต่างยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะทำทีเป็นมองนกมองฟ้าไม่ได้สนใจในเหตุการณ์เมื่อสักครู่ “คนเยอะแยะครับพี่คิงส์ อายเขา” ผมพูดกระซิบแผ่วเบาด้วยความเขินอายแต่พี่คิงส์กลับยิ้มออกมาราวกับไม่รู้สึกเขินอายอะไร “พวกแกออกไปได้แล้วไป แล้วห้ามเขามาข้างในจนกว่าฉันจะเรียก” เขาหันไปออกคำสั่งกับบอดี้การ์ดเสียงดุ “ครับท่าน” บอดี้การ์ดนับสิบคนที่ติดตามมาก้มหัวให้ทีหนึ่งก่อนจะรีบเรียงกันออกจากห้องยิงปืนไป ทิ้งผมให้อยู่ในห้องกับพี่คิงส์แค่สองคน “อย่างนาย เพิ่งหัดยิงครั้งแรกเอากระบอกนี้ละกัน” เขาหยิบปืนยื่นมาตรงหน้า ผมก็ไม่รอช้ารีบหยิบปืนมาถือไว้ในมือ แต่ทำไมเขาจับเหมือนเบาจัง พอถือจริง ๆ แล้วมันหนักชะมัดเลย ผมถือปืนเดินตามเขาไปที่ช่องยิงปืนที่มีรูปคนยืนเป็นเป้าอยู่ด้านหน้า “มองดูมือฉันนะ จับอย่างนี้” ผมลองหยิบปืนขึ้นมาอย่างเก้ ๆ กัง ๆ จนเขาถอนหายใจเสียงดังอย่างละเหี่ยใจ “จับดี ๆ” เขาพูดเสียงดุจนผมใจกระตุกวูบ “เอ่อ…มันหนักน่ะครับ” ผมพูดเสียงอ้อมแอ้มกลัวว่าจะทำให้เขาหงุดหงิด พี่คิงส์วางปืนลงที่โต๊ะด้านหน้าแล้วหยิบหูฟังมาใส่ให้ผมก่อนที่จะหยิบขึ้นไปสวมใส่ให้ตัวเองเช่นกัน เขาเดินอ้อมมาซ้อนผมจากทางด้านหลังแล้วเอื้อมมือมาประคองมือผมให้จับปืนถนัดขึ้น ยิ่งเขาอยู่ใกล้ผมในระยะประชิดแบบนี้มันยิ่งส่งผลให้หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ผมพยายามเพ่งเล็งที่มือตัวเอง แต่สมองมันกลับจินตนาการถึงแผ่นอกแกร่งที่แนบอยู่ด้านหลังจนทำให้เสียสมาธิอยู่เรื่อย “มองดูเป้าตรงหน้า เล็งไปที่หัว จับปืนให้นิ่ง ๆ จากนั้นก็…” ปัง!! ผมเซไปชนแผงอกของเขาอย่างจังด้วยแรงของปืนที่ยิงออกไปเมื่อสักครู่ กระสุนเจาะตรงกลางหัวรูปคนที่ตั้งอยู่ด้านหน้าจนทะลุไปด้านหลัง ถ้าเป็นคนจริง ๆ ก็เตรียมสวดอภิธรรมได้เลยล่ะครับ “อย่าเพิ่งดีใจไป นายยิงได้เพราะฉันช่วยจับ ทีนี้ลองยิงเอง” เขาว่าก่อนจะปล่อยมือออกจากข้อมือเล็กของผม ผมสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะเริ่มทำตามที่เขาบอก มองดูเป้าตรงหน้า เล็งไปที่หัว จับปืนให้นิ่ง แล้วก็…. ปัง!! ทันทีที่ลูกปืนวิ่งออกจากปลายกระบอกมันก็ตรงไปยังป้ายเจาะลึกลงไปจนทะลุทันที แต่ผิดเป้าไปนิดหน่อย แทนที่ลูกกระสุนจะไปเจาะตรงกลางหัวกลับกลายเป็นว่ามันไปเจาะที่เป้าตรงกางเกงแทน คงเป็นเพราะมันหนักเกินไป เลยยิงต่ำกว่าที่คิด “หึ ตอนยิงนายแอบจินตนาการเป็นหน้าฉันอยู่หรือเปล่า” “เปล่านะครับ” ผมรีบแก้ตัวพัลวันกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิด “ถือว่าไม่เลว อย่างน้อยก็ยิงเข้าเป้า งั้นเรามาเล่นเกมกัน” “อะไรนะครับ” ผมฟังไม่ถนัดเพราะใส่หูฟังไว้อยู่จนเขาต้องยื่นมือเข้ามาถอดหูฟังออกให้ผม “ฉันบอกว่า มาเล่นเกมกัน ฉันจะให้นายยิงปืน 5 นัด ถ้านายยิงพลาด 1 ลูก นายจะต้องให้ฉันเอา 1 รอบ” “ห้ะ!?” ไม่ทันที่ผมจะได้ตอบอะไรเขาก็จับผมหันหน้าเข้าหาเป้าแล้วใส่ที่ครอบหูให้ผมทันที ผมมีสิทธิ์ปฏิเสธเกมของเขาได้มั้ยล่ะครับ อยากไม่อยากก็ต้องเล่นสินะในเมื่อขัดคำสั่งไม่ได้อยู่แล้ว ผมสูดลมหายใจเข้าปอดหนัก ๆ ก่อนจะพ่นลมออกสุดแรงแล้วหยิบปืนขึ้นมาจ่อยิงที่เป้าตรงหน้า เอาวะ แค่นี้เอง สู้สิวะไอ้ภีม!! 1…2…3 ปัง!! หลังจากยิงนัดแรกออกไปผมก็พยายามมองหารอยทะลุบนเป้า แต่ก็ไม่มีแม้แต่ร่องรอย บ้าจริง! นี่ไม่เข้าเป้าตั้งแต่นัดแรกเลยหรอ ผมเริ่มใจเสียขึ้นมาต่างจากพี่คิงส์ที่เหยียดยิ้มออกมาอย่างพอใจ นี่เขาลืมจุดประสงค์ไปหรือเปล่า? เขาพาผมมาหัดยิงให้แม่นไม่ใช่หรอ ปัง!! สวรรค์มาโปรดแท้ ๆ ภีมเอ้ย ผมคลี่ยิ้มออกมาบาง ๆ เริ่มมีความหวังขึ้นมา เพราะลูกสองเจาะต้นแขนไปอย่างเฉียดฉิว ผมรวบรวมสมาธิอีกครั้งก่อนจะเล็งไปที่หัวของเป้าหมาย เสร็จแล้วก็ไม่รอช้ารัวปืนใส่รูปตรงหน้าทันที ปัง ปัง ปัง!!! สิ้นเสียงปืน ผมก็แทบสิ้นใจ เมื่อสามนัดที่ยิงรัวออกไปไม่เห็นแม้แต่ร่องรอย ผมลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนที่จะหันหน้าไปหาพี่คิงส์หวังจะต่อรองเผื่อเขาจะเห็นใจขึ้นมาบ้าง “พี่คิงส์ครับ ผมขอยิงใหม่ได้มั้ยครับ” ผมทำตาปริบ ๆ อ้อนวอน กลัวว่าเขาจะหงุดหงิดขึ้นมา แต่เปล่าเลย พี่คิงส์ไม่มีความหงุดหงิดบนใบหน้าเหมือนตอนแรก ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์ “ยิงไปก็ไม่เข้าเป้าเหมือนเดิมนั่นแหละ นายนี่น้าา~ สอนไม่เคยจำ เมื่อกี้นายยิงพลาดไปสี่นัด ต้องโดนไปสี่น้ำ” เขาว่าก่อนจะขยับตัวเข้ามาจับที่เอวบางของผม “พะ พี่คิงส์จะทำอะไรครับ” “นายความจำเสื่อมรึไง ก็เพิ่งพูดไปหยก ๆ” “ตรงนี้เลยหรอครับ” ผมเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ นี่มันสนามยิงปืนนะ “ใช่ ทำไม?” “ผมว่ามันดูไม่เหมาะสมนะครับ บอดี้การ์ดก็ยืนเต็มข้างนอกเดี๋ยวคนอื่น ได้ยิน” “หึ ภีมก็อย่างครางเสียงดังสิ” เขาว่าก่อนจะเลื่อนมือเขามาบดขยี้ที่ปลายยอดอกผมอย่างรู้จุดอ่อน “อ๊ะ! แต่ว่า…” “อย่ามาถ่วงเวลา โดนช้าโดนเร็วสุดท้ายนายก็โดนฉันเอาอยู่ดี” พี่คิงส์อุ้มผมขึ้นไปวางบนโต๊ะ ก่อนจะถลกเสื้อผมขึ้นแล้วละเลงลิ้นร้อนลงบนปลายยอดอกอย่างเอาแต่ใจ “ฮึก พี่คิงส์ อ้าา~” ผมกอดรวบคอเขาไว้แน่นด้วยความเสียวซ่าน “อ้าขาออกหน่อยครับ” เขาพูดเสียงหวานก่อนโน้มหน้าเข้ามาบดจูบแล้วลิ้มเลียลิ้นหวานของผมอย่างโหยหา ผมที่เริ่มเคลิ้มตามเขาก็ยกขาแยกออกอย่างว่าง่ายอย่างคนคุมสติไม่อยู่ เขาสั่งให้ทำอะไรก็ทำตาม รู้ตัวอีกทีกางเกงผมกับเขาก็ถูกถอดออกไปพ้นตัวเสียแล้ว “อ้าาา~ อย่างงั้นแหละ” เขาบีบเคล้นก้นงอนผมอย่างมันส์ขณะที่ผมก็รูดรั้งแก่นกายให้เขาจนมันขยายใหญ่โตเต็มไม้เต็มมือ เมื่อทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้วพี่คิงส์ไม่รอช้าจับผมหันหลังแล้วเสียบแท่งร้อนเข้าไปในกายผมทันที สวบ!!! “ฮึก อ๊ะ อ้าาา~ พี่คิงส์ อ่าา~ เสียว” ผมครางกระเส่ามือก็ยึดขอบโต๊ะไว้ไม่ให้เซล้มไปด้านหน้าตามแรงกระแทก “อ้าาา~ ภีมรู้มั้ย พี่ชอบชื่อตัวเองที่สุดเลย ตอนที่เราครางมันออกมา” เขาว่าพร้อมกับกระแทกเข้ามาเน้น ๆ จนผมเริ่มยั้งแรงไว้ไม่อยู่ “ฮึก พะ พี่คิงส์ครับ เบา ๆ ครับ” “ว่าไงนะ เบาไปหรอ?” ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก!! เขาโหมกระหน่ำแทงเข้ามาจนขาผมแทบทรุด สาบานเถอะว่าเขาได้ยินแบบนั้นจริง ๆ “อ๊ะ อ๊ะ อ้าาา~ พี่คิงส์ มันแรงไปแล้วครับ” พร้อมเริ่มหอบหายใจถี่ ๆ รู้สึกหายใจไม่ทัน “อ้าา~ ตัวนายที่มันกระแทกมันส์ชะมัด” เขาว่าพร้อมกับโลมเลียที่ใบหูก่อนจะลากลิ้นยาวมาที่ต้นคอขาวแล้วขบกัดอย่างเอาแต่ใจ “อ๊ะ! เจ็บครับ” ผมรีบร้องปรามเมื่อเขาเริ่มขบกัดแรงขึ้น ๆ คงเริ่มควบคุมแรงไม่อยู่ พี่คิงส์เอื้อมมือมาจับมือผมเข้าไปรูดรั้งแก่นกายตัวเองจนผมเริ่มบิดเร้าด้วยความเสียว ก่อนที่เขาจะปล่อยมือให้ผมรู้รั้งแก่นกายเอง ส่วนมือเขาก็เข้ามาขยำอกของผมอย่างมันส์มือ “ชอบมั้ย?” พี่คิงส์กระซิบถามเสียงหวานที่ข้างหู “ชะ ชอบครับ” “อ้าา~ ฉันก็ชอบ ชอบมากจนแทบจะคลั่ง” “ผม อ๊ะ อ้าา~ ผมจะไม่ไหวแล้วครับ” ผมเริ่มควบคุมมือเรียวไม่ได้รีบรูดสาวแก่นกายตัวเองพร้อมกับแอ่นก้นให้คนด้านหลังได้กระแทกถนัดยิ่งขึ้น “ซี๊ดดด~ โคตรเซ็กซี่เลยว่ะ” ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก!! “อ๊ะ อ๊ะ อ้าาา~ พี่คิงส์ ฮึก เสียว อื้ออ อ้าาา~ ไม่ไหวแล้ว” ผมพูดออกไม่ได้ศัพท์ ภาพในหัวเริ่มพร่าเบลอ รู้สึกเสียวซ่านจนถึงขีดสุด “ภีม อ้าา~ เสียว จะเสร็จแล้ว อ๊ะ อ้าา~ อีกนิด” พี่คิงส์กระแทกเข้ามาแรง ๆ จนขาผมทรุดลงพื้นแต่เขาก็รวบเอวผมเข้ามากระแทกต่อเน้น ๆ อีกห้าหกทีก่อนจะตัวงอแล้วกระตุกเกร็งพ่นน้ำเข้ามาในตัวของผม “หึ หึ ถึงกับทรุดเลยหรอ นี่เพิ่งน้ำเดียวเองนะ เหลืออีกตั้งสาม” “ผมไม่ไหวแล้วครับ เราค่อยมาต่อกันตอนเย็นได้มั้ยครับ” ผมรีบต่อรอง ขณะที่ยังหายใจหอบ “หึ หึ ถือว่าสงสารแล้วกันนะ ไว้ฉันจะเช็กบิลทีเดียวสามนัดรวด” เขาว่าก่อนจะกดจูบผม ผมไม่รอช้ารีบจูบตอบเขาทันที พี่คิงส์เริ่มบดจูบผมแรงขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะใช้ลิ้นร้อนแทรกเข้ามาหยอกเย้าในโพลงปากผม เราเริ่มบดจูบกันเนิ่นนาน จนผมเริ่มรู้สึกเสียวซ่านขึ้นมาที่บริเวณท้องน้อย “ฉันเปลี่ยนใจแล้ว…จะเอาตอนนี้” สิ้นประโยคพี่คิงส์ก็จับผมกดลงบนโต๊ะทันที ให้ตายเถอะครับ! ผมไม่น่าไปจูบตอบเขาแบบนั้นเลย เกือบจะได้พักอยู่แล้วเชียว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD