บนนั้นจะมีพ่อกับแม่ผมอยู่มั้ยนะ?
พวกเขาสบายดีหรือเปล่า ผมคิดถึงพวกเขาจัง การมีชีวิตอยู่ลำพังแบบนี้ไม่ง่ายเลย พ่อกับแม่จะรู้มั้ยว่าผมต้องเจออะไรบ้าง แล้วพวกเขาจะโกรธผมมั้ย ที่ผมทำตัวแบบนี้…
ผมนั่งเหม่อมองไปบนฟ้า ตอนนี้บนนั้นมืดสนิท มีเพียงดวงจันทร์เล็ก ๆ และแสงไฟจากทั่วพื้นดินเท่านั้น ความเงียบปกคลุมจนรู้สึกเหงาขึ้นมาในใจ
เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วผมพยายามข่มตานอนแต่นอนเท่าไหร่ก็นอนไม่หลับ จึงตัดสินใจมานอนรับลมเย็น ๆ ที่ดาดฟ้า
“มาทำอะไรที่นี่”
“พี่คิงส์!”
ผมตกใจจนสะดุ้ง เมื่อพี่คิงส์เดินเข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง
“ว่าไง มาทำอะไร ทำไมไม่นอน”
“ผมนอนไม่หลับน่ะครับ เลยขึ้นมานั่งเล่น พี่คิงส์มาหาผมมีอะไรรึเปล่าครับ รึว่า…พี่คิงส์อยากได้ งั้นเราลงไปเอาที่ห้องผมเลยก็ได้ครับ”
ผมพูดพร้อมกับลุกพรวดจากพื้น
“หึ เห็นฉันเป็นคนยังไง ฉันไม่ได้เ****นตลอดเวลาหรอกนะ อยากให้ฉันเอาทุกครั้งที่เจอหน้าเลยรึไง”
เขาว่าก่อนจะนั่งลงที่พื้น
“นั่งลงสิ”
เขาหันมาบอกผมที่ยืนแข็งทื่อเป็นท่อนไม้
จนผมต้องรีบนั่งลงข้าง ๆ อย่างว่าง่าย
บรรยากาศเริ่มกลับมาเงียบอีกครั้ง ทั้งเขาและผมไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาจากปากจนผมเริ่มรู้สึกอึดอัด
“คิดอะไรอยู่”
อยู่ ๆ เขาก็ถามแทรกกลางความเงียบขึ้นมา
“เอ่อ… คิดว่าบนนั้นจะมีพ่อกับแม่ผมรึเปล่าน่ะครับ”
ผมชี้ขึ้นไปบนฟ้าที่มืดสนิท
“มืดสนิทเชียว บอกพ่อกับแม่นายเปิดไฟหน่อยฉันมองไม่เห็น”
“ห้ะ!? ยังไงหรอครับ”
ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดจนต้องขอให้เขาอธิบายซ้ำ
“เห้ออ! ช่างมันเถอะ”
เขาปัดป่ายอย่างเอือมระอา
“แล้ว…พี่คิงส์คิดอะไรอยู่หรอครับ”
“ลองทายดูสิ ว่าฉันคิดอะไร”
ผมหันไปจ้องหน้าเขานิ่งเพื่อคิดหาคำตอบ เขาเองก็หันมาสบตาผมนิ่งเพื่อให้ผมหาคำตอบเช่นกัน
“คิดว่าคงเ****นมั้งครับ”
“หึหึ ในหัวนายมันคิดได้แต่เรื่องนี้รึไง”
เขากลั้วหัวเราะในลำคอ
“ก็พายุบอกว่าพี่คิงส์เป็นคนหมกมุ่นนี่ครับ ชอบคิดแต่เรื่องเซ็กส์ตลอดเวลา”
“เหอะ ไอ้เด็กเวรนั่นอีกแล้วหรอ จะยึดเกมคืนให้หมดเลย!”
เขาพูดด้วยสีหน้าเคียดแค้น ก่อนจะเอนตัวนอนลง
“พี่คิงส์อย่าเพิ่งครับ”
ผมดึงตัวเขาไว้ก่อนที่ตัวเขาจะถึงพื้น จนเขาทำหน้างุนงง
ผมรีบเอื้อมมือไปที่พื้นแล้วปัดป่ายเศษฝุ่นออกจากตรงที่เขาจะนอน เพราะกลัวว่าเสื้อราคาแพงของเขาอาจจะเปื้อนได้
“เดี๋ยวเสื้อเปื้อนครับ”
พูดจบผมก็หันมาปัดที่ด้านหลังตัวเองออกก่อนจะนอนลงพื้นเช่นกัน
พี่คิงส์ไม่ได้เอนตัวนอนลงตามที่คิด แต่เขากลับนั่งจ้องหน้าผมนิ่ง
“พี่คิงส์นอนลงสิครับ”
ผมนอนจ้องหน้าเขาปริบ ๆ อย่างสงสัย ตอนแรกเขาบอกจะนอนไม่ใช่ หรือไงกัน
แล้วทำไมถึงจ้องผมแบบนั้น สายตาที่ยากจะเดาแบบนี้ผมแปลมันไม่ออกเลย
พี่คิงส์ค่อย ๆ เอนตัวลงข้าง ๆ ผมแผ่วเบา ก่อนจะยื่นแขนมาสอดลอดด้านล่างคอผม แล้วรั้งหัวผมไปวางไว้บนแขนแกร่งของเขา
“อยู่ที่นี่เหงามั้ย”
“ไม่เหงาครับ อยู่ที่นี่สนุกดี พี่เฟยใจดีมาก มีมุกตลก ๆ มาเล่นตลอดเลย แม่ครัวก็ทำอาหารอร่อยมาก แม่บ้านก็ใจดีพูดเพราะ บอดี้การ์ดก็เป็นกันเอง” ผมพูดพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง
“แล้วฉันล่ะ?”
“เอ่อ… พี่คิงส์ก็ดีครับ ใจดีกับผมมาก พี่คิงส์ช่วยให้ผมมีที่อยู่ ช่วยให้ผมได้เรียน ผมมีชีวิตอยู่ต่อได้เพราะพี่คิงส์เลยนะครับ”
“แค่นั้นหรอ?”
ใจจริงผมก็อยากพูดอะไรอีกมากมาย แต่มันคงจะไม่เหมาะสม ผมสามารถพูดออกไปได้มั้ยล่ะครับ ว่ารู้สึกดีกับเขา มันคงจะทำให้เขาอึดอัดแย่เลยสินะถ้าพูดแบบนั้นออกไป
“ครับ…แค่นั้น พี่คิงส์เป็นผู้มีพระคุณกับผม ไว้ในอนาคตข้างหน้าถ้าผมได้ดี ผมจะกลับมาตอบแทนให้นะครับ”
ผมหันไปจ้องหน้าเขาพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเขาจ้องกลับมาในขณะที่ใบหน้าเราอยู่ใกล้กันไม่ถึงคืบ
พี่คิงส์จ้องผมนิ่งก่อนจะเลื่อนใบหน้าเขามาประกบจูบผมแผ่วเบา จูบครั้งที่มันต่างกับทุกครั้งที่ผ่านมา มันเป็นเพียงการแตะริมฝีปากแผ่วเบา ไม่ได้มีการล่วงล้ำเข้ามา ผมวางมือเล็กลงบนอกเขาก็ต้องตกใจ เมื่อหัวใจเขากำลังเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาด้านนอก พี่คิงส์ประคองใบหน้าผมไว้ก่อนจะรั้งเข้าไปซุกไว้ที่อกแกร่ง
“สับสนว่ะ”
“……..”
ผมไม่รู้ว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร ไม่เข้าใจความหมายแต่รู้แค่ว่าเขาคงกำลังคิดมากกับอะไรซักอย่าง ผมจึงทำได้เพียงแค่โอบกอดเขาไว้แผ่วเบา ไม่รู้ว่าเขาเจออะไรมา แต่อยากจะรองรับทุกความเศร้าหมองใจของเขา ให้เขาได้สบายใจ ในฐานะของเล่นคนหนึ่ง…