ศึกที่ยอมไม่ได้

1515 Words
“ทำไมจะไม่ได้!!” พายุตะโกนเถียงกับพี่คิงส์คอแทบแตกพร้อมกับกระทืบเท้าอย่างเด็กเอา แต่ใจ “มึงเลิกเอาแต่ใจดิไอ้พายุ กลับไปได้แล้วไปกูจะนอน” พี่คิงส์ปัดมือไล่อย่างนึกรำคาญเต็มทน “ไม่!! ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น จนกว่าไอ้ภีมจะออกไปเล่นเกมกับผม” พายุกอดอกจ้องหน้าผมนิ่ง “ไม่เป็นไรนะพายุ ค่อยเล่นด้วยกันวันจันทร์ก็ได้” เนื่องจากวันนี้เป็นวันเสาร์แก๊งผมจึงนัดเล่นเกมกันที่บ้านพายุ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าพี่คิงส์ดันไม่ยอมให้ผมออกไปไหน เขาตั้งใจเคลียร์งานจนเสร็จตั้งแต่เมื่อคืน เพราะฉะนั้นวันนี้จึงว่างทั้งวัน เห็นบอกว่าทำงานหนักหลายวันแล้ว อยากอยู่บ้านสบาย ๆ ผ่อนคลายซักวัน เป็นเหตุให้สองคนนี้มายืนทะเลาะกันเสียงดังลั่นบ้าน “ไม่ได้! มึงก็อยากไปเล่นเกมกับพวกกูใช่มั้ยล่ะ มึงเลิกเอาใจพี่คิงส์ได้แล้ว เดี๋ยวคนแก่ก็เสียคนหรอก” “ใครแก่ มึงพูดดี ๆ เดี๋ยวกูยิงกระบาลแยก กูบอกว่าไม่คือไม่ ถ้ามึงอยากเล่นมากนักก็ลากเพื่อนมาเล่นที่นี่ แต่กูไม่ให้มันออกไปไหนทั้งนั้น” เขาพูดพร้อมกับเดินเอาแขนมาคล้องคอผมไว้หลวม ๆ บอกตรง ๆ ว่าผมปวดหัวจริง ๆ ครับ สองคนนี้อยู่ด้วยกันทีไรบ้านแตกทุกที ไม่น่าล่ะเวลาสองคนนี้เจอกันทีไรพี่สายฟ้าถึงกุมขมับไว้รอ “จะเอาอย่างงี้ใช่มั้ยพี่คิงส์ ได้เลยยย!! เราจะได้เห็นดีกัน” พายุพูดอย่างเกรี้ยวกราดเมื่อถูกขัดใจ ทั้งสองต่างจ้องหน้ากันเขม็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้ออย่างไม่มีใครยอมใคร 3 ชั่วโมงผ่านไป~ ปัง ๆ ๆ “เฮ้ย!! ไอ้เฟียสระวังด้านหลัง ๆ” “แม่งเอ้ย!! พวกมันมาตอนไหนวะ ไอ้พายุมึงวิ่งมาช่วยกูดิ เลือดกูจะหมดแล้ว” ปังๆ ๆ “ไอ้ภีม มันหลบอยู่ตรงนั้น ไปยิงมันเร็ว!” ปัง ๆ ๆ เสียงยิงปืนในเกมดังระห่ำกังวานห้อง โดยมีพายุ เฟียส โอเล่ และผมนั่งเล่นเกมอยู่ที่พื้นเอาหลังพิงเตียงไว้ และมีสายตาอำมหิตของพี่คิงส์ที่จ้องพวกผมเขม็งอยู่บนเตียง “เยส!! ชนะเว้ยย!!” “วู้ววว!!” สุดท้ายพวกผมก็ชนะเป็นที่เรียบร้อย พวกผมเล่นเกมเข้าขากันดีอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เฉพาะเรื่องเกมนะครับ ส่วนเรื่องเรียนนี่มีแค่เฟียสที่เป็นเดอะแบก นอกนั้นคือลากสังขารให้จบคาบได้ก็บุญแล้ว พวกผมต่างยกแก้วเหล้าขึ้นมาชนฉลองแด่ชัยชนะที่ได้รับ เริ่มแรกพี่คิงส์ไม่อนุญาตให้ดื่มของมึนเมา แถมยังบ่นว่าพวกผมเป็นเด็กแก่แดดนิสัยไม่ดี แต่พอเฟียสเดินไปกระซิบอะไรกับเขาซักอย่าง จนกลับยอมให้พวกผมดื่มเหล้าได้ซะงั้น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็มานั่งเฝ้าผมแจ ไม่ยอมห่างไปไหน เรียกว่าไม่ให้คลาดสายตาเลยก็ว่าได้ “ไอ้ภีม ทำไมหน้ามึงแดงจังวะ” “อ่อ…เราเพิ่งเคยกินเหล้าครั้งแรกน่ะ” “ทำไมแดงเยอะขนาดนี้ ไหนดูซิ” พายุเอื้อมมือมาจะจับดูแก้มผม “มึงจับ กูยิง!” เสียงบนเตียงลอยมากระทบหูจนผมลอบกลืนน้ำลาย “นี่พี่ไม่มีการมีงานทำบ้างหรอ มานั่งเฝ้าพวกผมเล่นเกมทำไม!” พายุหันไปจ้องพี่คิงส์ตาเขียวปั๊ด “กูไม่ได้มาเฝ้าพวกมึง กูมาเฝ้าเด็กกู” “จะเฝ้าอะไรนักหนา มันก็อยู่นี่ล่ะ ไม่ได้หายไปไหนซักหน่อย” พายุสวนกลับควัน “ไอ้เด็กนี่เถียงคำไม่ตกฟาก กูน่าจะเอาขี้เถ้ายัดปากมึงตั้งแต่เด็ก” “นี่น้องนะ จะฆ่าแกงกันเลยหรอ” พายุเถียงกลับ จนพี่คิงส์ต้องมองบนถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย “เอาเหล้ามากินหน่อย” เขาว่าพร้อมกับแย่งเหล้าจากมือผมไปกระดก “อื้อ ใครชงแก้วนี้วะ กูนึกว่าเหล้าเพียว มันเพิ่งกินครั้งแรก ผสมน้อย ๆ หน่อย” เขาว่าก่อนจะส่งแก้วเปล่ามาคืนให้ผม ผมพยายามโฟกัสแก้วตรงหน้าเพื่อจะเอื้อมไปจับ แต่มันช่างยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน เพราะภาพตรงหน้าเริ่มเบลอและซ้อนกันจนตาลาย “ไอ้ภีมมึงโอเคมั้ยวะ” โอเล่เอ่ยถามขณะที่มองเห็นผมส่ายหน้าไปมาเพราะกำลังเพ่งเล็งแก้วในมือพี่คิงส์ “โอเค แค่รู้สึกว่าแก้วมันซ้อนกันหลาย ๆ ใบน่ะ” “งั้นแสดงว่ามึงเมาละ” “ก็สมควรเมาหรอก” พี่คิงส์พูดแผ่วเบาแต่ก็ดังพอให้ทุกคนได้ยิน “เอาไงต่อดีวะ ถ้าเล่นเกมต่อก็คงไม่ไหว ไอ้เฟียสมันก็เริ่มเมาแล้วเหมือนกัน” “ใครเมา!! กูไม่ได้เมาเว้ยมึง หัวใจกูมันไร้ความรู้สึก มันด้านชา แค่นี้มันยังไม่ขมขื่นเท่าความรู้สึกที่กูมีหรอก” “โอเค สรุปมึงเมา” “งั้นแยกย้ายกันเถอะว่ะ เล่นต่อก็แพ้เปล่า ๆ ตาลอยกันหมดละ” พายุเสนอ “แล้วใครสั่งใครสอนให้พวกมึงกินเหล้าตอนเล่นเกมวะ” พี่คิงส์แทรกขึ้นมาจนพายุถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะหันไปจ้องหน้าเขาเขม็ง “พี่คิงส์! พี่ชักจะเหมือนกับพี่สายฟ้าเข้าไปทุกวัน ๆ แล้วนะ ทำไมชอบพากันทำตัวเป็นคนแก่ขี้บ่นอยู่เรื่อย” เปาะ!! “โอ๊ย!! เจ็บนะ” ทันทีที่พูดจบประโยคพายุก็ต้องลูบหัวปรอย ๆ เพราะถูกพี่คิงส์ดีดนิ้วลงกลางหน้าผากจนเกิดเสียงดังฟังชัด “กลับไปได้ละ ไอ้เฟยรออยู่ด้านล่าง แล้วพวกมึงไม่ต้องสะเหล่อขับรถกลับเองด้วย ถ้ากูรู้ว่าไอ้เวรตัวไหนขัดคำสั่งมึงเจอดีแน่” เขาพูดพร้อมกับชี้หน้าเรียงตัว “ที่ขู่ก็เพราะเป็นห่วงใช่มั้ยล่ะ ถ้าเป็นห่วงก็พูดดี ๆ ดิวะไม่ใช่แค่กับพวกผมนะพี่ แต่กับไอ้ภีมด้วย” ผมเริ่มกลับมามีสติอีกครั้ง หลังจากที่ได้ยินชื่อตัวเองมาจากบทสนทนา “เลิกพูดทำร้ายจิตใจมันซักที ใครมันจะอยากเป็นของเล่นวะ ถ้ารักก็รักษาไว้ ไม่รักก็ปล่อยไป อย่ามาทำอะไรครึ่ง ๆ กลาง ๆ รู้มั้ยพี่ทำแบบนี้ไอ้ภีมมัน…อุ๊บ!” เฟียสที่เมาจนตาเยิ้มเสียงยานเริ่มพลั่งพลูออกมาอย่างขาดสติ จนโอเล่ต้องวิ่งเข้ามาปิดปากไว้ “ไอ้เฟียสมันเมาอะ อย่าถือสามันเลยนะพี่ งั้นพวกผมขอตัวกลับก่อนนะพี่คิงส์” โอเล่รีบลากเฟียสออกจากห้องไปคงกลัวระเบิดจะลงจนเจ้าตัวกระฟัดกระเฟียดด้วยความฉุนเฉียว “ภีม มึงนอนพักซะนะ ตื่นมาก็กินข้าวต้มร้อน ๆ จะได้หายแฮงค์” พายุพูดพร้อมกับเก็บข้าวของใส่กระเป๋า “ห่วงกันจังเลยนะ สรุปกูรึมึงกันแน่ที่เป็นผัวมัน!” พี่คิงส์ยังพูดประชดใส่ไม่เลิก “หึ ไม่ว่าผมหรือพี่ก็ไม่มีใครเป็นผัวมันทั้งนั้นแหละ มันเป็นเพื่อนรักผม แล้วมันก็เป็นแค่ของเล่นพี่ไม่ใช่รึไง ผมอยากเตือนสติพี่ตอนที่ยังมีโอกาสนะ มันยอมพี่ทุกอย่างเพราะอะไรรู้มั้ย ผมจะบอกให้เอาบุญ เพราะมันชอ..” “พายุ!” ผมโพล่งเรียกชื่อพายุดังลั่นเพราะรู้ว่าเขาจะพูดอะไร “เอ่อ…เดี๋ยวเฟียสกับโอเล่รอนานนะ” ผมรีบขัดจังหวะก่อนที่พายุจะพูดคำนั้นออกไป ผมกับเพื่อนสัญญากันว่าจะไม่มีความลับต่อกัน ผมจึงยอมพูดความรู้สึกตัวเองที่มีต่อพี่คิงส์ให้เพื่อนฟัง ทุกคนต่างรับรู้และหาทางช่วยให้ผมชนะใจพี่คิงส์ให้ได้ แต่ผมกลับท้อใจไปแล้วล่ะครับ เพราะยิ่งผมรู้สึกดีมาก ๆ เมื่อไหร่ พี่คิงส์ก็จะกลับไปเย็นชาเมื่อนั้น แล้วพูดย้ำกับผมว่าผมเป็นแค่ของเล่น แต่พอผมเริ่มทำใจได้ เขาก็จะคอยมาทำดีด้วยจนทำให้ผมคิดไปไกล แล้วก็วนลูบกลับมาแบบเดิมซ้ำ ๆ จนทำให้ผมสับสนไปหมด “เห้ออ!! ถ้างั้นมีอะไรโทรหากูนะภีม” พายุมองด้วยสายตาเป็นห่วงก่อนจะเดินออกจากห้องไป “เดี๋ยว!” พี่คิงส์ตะโกนบอกจนพายุชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตู “กูเข้าใจที่มึงพูดละ ไว้กูจะพิจารณาอีกที” พี่คิงส์พูดเพียงเท่านั้น ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก แต่ราวกับว่าทั้งสองได้เข้าใจสิ่งที่จะสื่อสารกันทั้งหมด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD