อาการที่ปิดไม่มิด

1941 Words
@คณะนิเทศศาสตร์ พริ้งพลอยเดินออกมาจากห้องเรียนด้วยท่าทีเหนื่อยล้า บ่าไหล่ตก มือข้างหนึ่งถือกล้อง อีกข้างหิ้วกระเป๋าใบโตที่แทบจะหล่นลงพื้น ร่างบางเดินทอดน่องช้า ๆ ไปตามทางเดินของคณะ ท่ามกลางแสงแดดยามบ่ายที่เริ่มแผดจ้าแต่กลับทำให้เธอรู้สึกหนาวในอก—เหนื่อยจนใจหวิว สองวันเต็ม ๆ ที่เธอต้องถ่ายงานทั้งในคณะและนอกคณะ ทั้งโปรเจกต์กลุ่ม ทั้งงานพิเศษช่วยรุ่นพี่ งานที่แพลนไว้แค่วันเดียวกลับยืดเยื้อจนกินเวลาเกินกำหนด เธอถอนหายใจแรง ก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบา ๆ แต่เต็มไปด้วยความคิดถึงที่ปิดไม่มิด "นี่ก็สองวันแล้วนะที่ไม่ได้ไปหาพี่เสือ ทูลหัวของพริ้ง...คิดถึงจะแย่แล้วอะ" ยังไม่ทันเดินพ้นระเบียงทางเดิน ก็มีเสียงเพื่อนสาวทักขึ้นมา พร้อมสีหน้าตกใจระคนเวทนา "หน้ามึงแบบ...ล้าสุด ๆ อ่ะ" พริกแกงมองเพื่อนสาวอย่างจริงจัง แล้วทำหน้าราวกับจะเข้าไปประคองไว้เดี๋ยวนั้น พริ้งพลอยแค่นหัวเราะทั้งที่ตาแทบจะปิด "กูยังไม่ได้นอนเลยเนี่ย เร่งงานให้อาจารย์อยู่ ทั้งแต่งภาพ ตัดต่อ ไหนจะทำโปสเตอร์ให้อีก...กูเรียนนิเทศสายการถ่ายภาพนะเว้ย แต่แม่งใช้งานกูรอบด้านเหมือนเป็นฝ่ายโปรดักชันทั้งคณะอ่ะ" พริกแกงหัวเราะแห้ง ๆ เดินเข้ามาเทียบข้าง บ่นไปหัวเราะไป "เออ กูก็เรียนเหมือนมึงนะ แต่แม่งไม่มีใครใช้กูเท่ามึงเลยว่ะ สงสัยจะเห็นมึงเป็นฟรีแลนซ์ประจำคณะ" ทั้งสองหัวเราะอย่างเหนื่อยล้า พร้อมเดินทอดน่องไปด้วยกัน เสียงรองเท้ากระทบพื้นคอนกรีตดังสม่ำเสมอ บรรยากาศรอบตัวเงียบสงบแต่แฝงกลิ่นอายของความรีบเร่งตามแบบชีวิตมหา'ลัย และถึงแม้ร่างกายจะล้าแค่ไหน แต่ในใจของพริ้งพลอยกลับอบอุ่น เมื่อภาพใบหน้าคมเข้มของพี่เสือลอยขึ้นมาในหัว...แค่ได้คิดถึงก็เหมือนได้พักแล้วครึ่งหนึ่ง "กูก็อดจะสงสารมึงไม่ได้...เกิดมาเก่งรอบด้านก็แบบนี้แหละ แต่กูว่าการที่งานมึงยุ่งๆขนาดนี้ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีนะ...ผู้ช่วยของมึงเดินมาโน่นแล้ว : มะนาวโบ้ยหน้าไปทางผู้มาใหม่ที่กำลังมุ่งหน้าเดินตรงมาหาพริ้งพลอย "พี่ม่อน "ครับ...😊 "มาตรงเวลาจังเลยนะคะ ไม่ขาดสักนาที สงสัยจะมีแรงบันดาลใจในการทำงาน 😊 : มะนาวเอ่ยแซวออกไป สองวันนี้เห็นหนุ่มบริหาร สาขาคอมพิวเตอร์ มาวอแวเพื่อนรักอย่างพริ้งพลอยไม่หยุด ด้วยว่าพริ้งพลอยบังเอิญได้ร่วมงานกับเขา อาจารย์ต่างสาขาให้โดม่อนมาช่วยในการออกแบบโปสเตอร์โปรโมทคณะให้ จึงทำให้ทั้งสองได้พูดคุยกัน สนิทสนมกันมากขึ้น ถ้าจะให้เลือกระหว่างพี่เสือร้ายหน้านิ่ง กับพี่โดม่อน แมวน้อยขี้อ้อน ขอเลือกเชียร์พี่ม่อนดีกว่า "อย่าไปสนใจมะนาวเลยค่ะ ว่าแต่พี่ม่อนเลิกคาสแล้วเหรอคะ ไหนบอกเลิกบ่ายไง นี่พึ่งจะห้าโมงเช้าเอง "อาจารย์งดคาสน่ะ พี่เลยรีบมาช่วยพริ้ง เมื่อวานเห็นพริ้งดูเพลียๆ รีบทำงานให้เสร็จ..พริ้งจะได้รีบกลับไปพักไง "😊 ขอบคุณนะคะ แล้วนี่ทานข้าวเที่ยงหรือยังคะ พริ้งกับเพื่อนๆกำลังจะออกไปทานที่โรงอาหารพอดี ไปด้วยกันไหม "เอาสิ..พี่ก็ว่าจะชวนพริ้งอยู่พอดี "แหม...ชวนแต่พริ้งเหรอคะ นาวกับพริกก็น้อยใจแย่เลยสิ : มะนาวกับพริกแกงเย้ารุ่นพี่สุดหล่อเล่น ก่อนจะทำท่าทีรู้กัน "ก็ชวนทุกคนแหละครับ 😊 "ไปกันก่อนเลยค่ะ..เดี๋ยวนาวกับพริกขอตัวเอาเอกสารไปส่งอาจารย์ที่ตึกวิทย์ก่อน จะตามไปทีหลังนะคะ : มะนาวขยิบตาให้โดม่อน ก่อนจะดึงแขนพริกแกงออกไปจากพื้นที่ดังกล่าว ทิ้งให้พริ้งพลอยยืนหน้าเหวอ งุนงงกับการกระทำของเพื่อน กล้าทิ้งเธอไว้กับผู้ชายสองต่อสองเนี้ยนะ..ดีจริงๆเลยเพื่อนกู "อีเพื่อนชั่ว ทิ้งกันเห็นๆ "ขอโทษพี่ม่อนด้วยนะคะ "ไม่เป็นไรครับ เราไปกันเถอะ โดม่อนเดินไปโรงอาหารพร้อมกันกับพริ้งพลอย ตลอดทางเดินมีเสียงซุบซิบจากนักศึกษาไม่ขาด ส่วนใหญ่เห็นว่าทั้งคู่เหมาะสมกันดี คนหนึ่งหล่อ คนหนึ่งสวย สมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก ทันทีที่เดินมาถึงโรงอาหารก็พบเข้ากับสายตาคมที่จ้องมองมายังทั้งสองไม่วางตา พริ้งพลอยยิ้มแป้นเมื่อเห็นหน้าคนที่ไม่เจอมาตลอดระยะเวลาสองวันเต็ม คิดถึงจะแย่ เลยปรี่เข้าไปทัก “พี่เสือ 😊😊 คิดถึงจะเลยค่ะ ไม่เจอกันตั้งสองวัน…หล่อขึ้นนะเนี่ย~” น้ำเสียงใสแจ๋วของพริ้งพลอยดังขึ้นทันทีที่เธอเห็นชายหนุ่มในชุดเสื้อช็อปวิศวะสีเข้มเดินสวนมา ร่างสูงโปร่ง หน้าคมจัดแบบที่เห็นครั้งแรกใครก็ต้องเหลียว ทุกอย่างในตัวเขายังคงเหมือนเดิม นิ่ง เงียบ เท่ และโคตรจะน่าแกล้ง พริ้งพลอยรีบวิ่งเข้าไปหาด้วยท่าทางเริงร่า ดวงตาเป็นประกายและริมฝีปากคลี่ยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มทั้งสองข้าง เธอหยุดยืนตรงหน้าเขา เหมือนจะรอคำตอบหรือแค่ต้องการจะเห็นเขาชัดๆก็ไม่รู้ พริ้งพลอยก็ยังคงเป็นพริ้งพลอยคนเดิม เฟรนลี่ สดใส ร่าเริงเหมือนดวงอาทิตย์ตอนสาย ทำให้คนที่เดินมาด้วยอย่าง “โดม่อน” ถึงกับหน้าเจื่อนลงเล็กน้อยเมื่อเห็นเธอเดินเข้าไปหาเพื่อนต่างคณะของเขาแบบไม่ลังเล ไม่สนใจเลยว่าเขาจะยืนอยู่ข้างๆ “หวัดดีเสือ…” โดม่อนเอ่ยทักออกไปตามมารยาท ถึงจะพยายามทำเสียงให้เป็นปกติ แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความหงุดหงิดแปลก ๆ ที่ไม่กล้าพูดออกมา เสือใต้ เงยหน้าขึ้นมามองเพียงนิดก่อนจะตอบกลับอย่างเรียบเฉยตามนิสัย “อืม…” คำตอบสั้น ๆ ที่แทบไม่มีอารมณ์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเย็นชาเสียทีเดียว มันเป็นแบบเขา—พูดน้อย ตอบน้อย และมีเสน่ห์ในแบบคนไม่ต้องพยายามอะไรเลย พริ้งพลอยหัวเราะคิกออกมาเบา ๆ อย่างไม่ใส่ใจคำตอบนั่นแม้แต่น้อย เธอรู้จักเขาดีพอจะเข้าใจว่านี่แหละคือสไตล์ของ “พี่เสือ” ผู้ไม่เคยตามเกมใคร แต่กลับทำให้คนรอบข้างต้องหมุนตามโดยไม่รู้ตัว เธอยักคิ้วให้เขาอย่างอารมณ์ดี แล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ยังเต็มไปด้วยความขี้อ้อน “คิดถึงจริง ๆ นะคะ ขนาดยุ่งยังหล่อได้แบบไม่พักเลย พี่เสือมีเคล็ดลับอะไรอะ บอกพริ้งหน่อยสิ” "ไร้สาระ" เสือใต้ตอบหวนๆ ทำทีเป็นไม่สนใจ "นั่งด้วยกันสิครับน้องพริ้ง โต๊ะอื่นเต็มหมดแล้ว : จอมทัพ "ได้เหรอคะ 😊 คนเป็นน้องรีบถามคนเป็นพี่ออกไปทันที แต่ที่ถามไม่ใช่จอมทัพหรอกนะ เป็นเสือใต้ที่นั่งหน้านิ่งอยู่ต่างหาก "เพล้ง !!!! เสียงช้อนกับซ้อมกระทบลงที่จานกระเบื้อง บ่งบอกว่าคนเป็นพี่ไม่พอใจ พริ้งพลอยได้แต่มอง ก่อนจะเอ่ยประโยคปฏิเสธออกไป "ขอบคุณนะคะพี่จอม แต่พริ้งว่าพริ้งไปหาที่นั่งที่อื่นดีกว่าค่ะ ขืนพริ้งนั่งด้วย พี่เสือคงกลืนข้าวไม่ลง "งั้นเราไปนั่งโต๊ะโน่นดีไหม ม้าหินอ่อนข้างโรงอาหาร ใต้ร่มไม้นั่น : โดม่อนเสนอพื้นที่ คนตัวเล็กพยักหน้ารับ แล้วเดินออกไปจากโต๊ะของเสือใต้ ใบหน้าหมองลงไปกว่าเดิมเยอะ "ปั้ก !! กูอิ่มแล้ว..... "อะไรกันวะ พึ่งจะนั่งยังกินไม่ถึงสามคำเลย อิ่มเร็วอะไรขนาดนั้น.. : จอมทัพ "หึ...ดิ้นจะตายอยู่แล้วยังบอกว่าไม่ชอบเขาอีก : ขุนศึกหัวเราะออกมา ก่อนจะทำท่าทีไม่สนใจ ตักข้าวเข้าปากต่อ เคี้ยวมันลงคออย่างอารมณ์ดี "กูไปรอที่ห้องเรียนนะ อิ่มแล้วก็ตามมา คนหงุดหงิดลุกพรวดพราดออกจากเก้าอี้ ก่อนจะเดินตรงไปที่คณะของตนเอง ระหว่างทางเดินเขาทำหน้าบึ้ง คิ้วขมวดชนกันไม่หยุด อาการที่ปิดไม่มิด หงุดหงิด ไม่พอใจอย่างไม่รู้สาเหตุ เล่นเอาเขาเรียนไม่รู้เรื่องตลอดทั้งวัน มัวแต่นึกถึงคนที่บอกว่าชอบเขาสุดหัวใจ แต่ดันหายไปกับผู้ชายคนอื่น แถมยังควงกันมาหาเขาถึงที่ @หลังเลิกคาสเรียน “เป็นอะไรไปวะ มึงดูรวนๆ นะวันนี้” จอมทัพเอ่ยถามขึ้นหลังจากคาบเรียนจบลง ขณะที่ทั้งสามคนกำลังเก็บของกลับ เสียงของเขาฟังดูขำๆ ตามสไตล์ แต่แฝงด้วยความสังเกต เขาเห็นมาตลอดทั้งคาบ ว่าเพื่อนรักอย่างเสือใต้เอาแต่นั่งเหม่อ ตอบคำถามอาจารย์ก็หลุดๆ ไม่มีสมาธิเอาซะเลย ต่างจากปกติที่ไม่ว่าจะเรื่องไหนเสือใต้ก็โฟกัสเต็มร้อย “เปล่า…” เสือใต้ตอบพลางจัดแฟ้มลงกระเป๋าโดยไม่เงยหน้าขึ้น น้ำเสียงเรียบเหมือนเดิม แต่กลับฟังดูอึดอัดยังไงก็ไม่รู้ “ปากแข็ง…” เสียงหัวเราะหึดังขึ้นจากข้างโต๊ะ ก่อนที่ขุนศึกจะพูดขึ้นแทนแบบไม่อ้อมค้อม “จะอะไรซะอีก มันกำลังคิดมากเรื่องพริ้งพลอยกับไอ้ม่อนอยู่ไง” ประโยคนั้นเหมือนฟันเข้าเป้า เสือใต้ตวัดตามองเพื่อนนิดๆ แต่ไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไปทันที “ทำไมกูต้องคิดเรื่องสองคนนั้นด้วย จะไปทำอะไร ที่ไหน กูไม่สนใจอยู่แล้ว” เขาพูดออกมารวดเดียวด้วยน้ำเสียงติดแข็ง ทั้งที่ตัวเองก็รู้ดีว่าไม่ใช่ความจริงทั้งหมด หัวใจมันไม่ได้เงียบเหมือนปากที่พูดหรอก ความรู้สึกมันร้อนรุ่มจนแทบนั่งไม่ติด “หึ...ให้มันเก่งเหมือนปากแล้วกัน มึงอ่ะลีลาอยู่ได้ ถ้ากูเป็นพริ้ง กูถอดใจไปนานแล้ว เล่นตัวมากๆ ระวังไอ้ม่อนมันจะคาบไปกินซะก่อน” ขุนศึกยักไหล่พูดพลางลุกขึ้นยืน คำพูดของเขาฟังดูเหมือนล้อ แต่ในน้ำเสียงก็ปนความจริงจังอยู่ไม่น้อย เสือใต้เป็นพวกปากหนัก ขี้ระแวง และโคตรจะไม่ยอมรับความรู้สึกตัวเองสักที “เอาๆ เลิกพูดเรื่องนี้กันได้แล้ว คืนนี้ไปปลดปล่อยกันไหม ผับ K เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง” จอมทัพรีบเบรกบรรยากาศตึงเครียดก่อนจะลุกขึ้นบิดตัวแล้วสะพายกระเป๋า “…” เสือใต้ยังคงเงียบ ไม่มีคำตอบกลับมา แต่แววตาเขาก็ดูโล่งใจนิดๆ ราวกับดีที่เปลี่ยนเรื่อง “ไม่ตอบ…แปลว่าตกลงนะ เจอกันสองทุ่ม ห้ามเลส!” จอมทัพสรุปแทน แล้วเดินนำออกจากห้องไป “อืม…” คำตอบเบาๆ ของเสือใต้ดังตามหลังไปในที่สุด ความจริงพวกเขาก็รวมตัวไปดื่มกันอยู่บ่อยๆ สลับกันเป็นเจ้ามือ แต่สำหรับคืนนี้มันไม่เหมือนทุกครั้ง อารมณ์ของเสือใต้อ่อนไหวเกินควบคุม ความรู้สึกมันขึ้นๆ ลงๆ จนเจ้าตัวเองก็นั่งไม่ติด เหมือนกำลังหาทางหนีจากบางอย่างในหัวใจ เขาต้องหาอะไรทำ…หาอะไรสักอย่าง เพื่อจะได้ไม่ต้องคิดถึงยัยเด็กเฟรนลี่คนนั้น คนที่ยิ้มที…ก็ทำให้หัวใจของเขาโคตรจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD