'ต้องเรียกว่าข่าวนี้มาแรงจนทำเอาทุกช่องไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้ ข่าวที่เจ้าพ่อวงการสื่อที่กำลังดังและเป็นนักธุรกิจที่หล่อแซ่บที่สุดในตอนนี้ได้ฟ้องพนักงานอาวุโสเหตุเพราะจับได้ว่ามีการโกงบริษัทมายาวนานถึงห้าปี ห้าปีกับเงินที่ถูกยักยอกมากถึงห้าสิบล้าน'
"ห้าสิบล้าน.."
'แต่ตอนนี้พนักงานคนนั้นได้หนีออกนอกประเทศไปแล้วโดยได้ทิ้งภรรยาไว้ให้รับกรรมแต่ทางเราไปสืบมาจนทราบว่าพนักงานคนนั้นมีลูกสาวด้วยอันนี้ต้องรอดูกันว่าพนักงานคนที่โกงได้หนีออกนอกประเทศเพื่อไปหาลูกสาวไหม'
ฟึ้บ..
ถึงฉันไม่ได้เห็นหน้าตัวเองฉันก็พอรู้ว่าตอนนี้หน้าฉันมันชีดขนาดไหน มือที่กำลังกำรีโมทกดปิดทันทีก่อนฉันจะหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรหาพ่ออีกครั้งแต่กลับเป็นเช่นเดิม พ่อปิดเครื่องตั้งแต่สองวันก่อนและ...ตอนนี้ฉันก็ยังติดต่อแม่ไม่ได้
ติ๊ดๆ
ฉันรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกครั้งนึงทันทีเพราะคิดว่าไม่พ่อก็แม่จะโทรมาแต่ไม่ใช่ เป็นเพื่อนของฉันที่โทรมาจากไทย
"ฮัลโหลตาล"
(ไอรีนมึงต้องกลับไทยเดี๋ยวนี้)
"ทำไม เจอแม่กูแล้วใช่ไหม?"
(เจอแล้วตอนนี้แม่มึงเข้าโรงบาล)
"..อะไรนะ"
(ที่มึงติดต่อแม่มึงไม่ได้เพราะโรคหัวใจกำเริบตอนนี้กูอยู่กับแม่มึงที่โรงบาล!)
"ละแล้วตอนนี้แม่เป็นไงบ้าง" น้ำเสียงฉันเริ่มสั่นเครือพร้อมกับความรู้สึกผิดที่ถาโถม
(ตอนนี้ยังตออบอะไรไม่ได้เพราะยังไม่ตื่น เอาไงจะกลับรึยังจะรอพ่อมึงอยู่นู้น)
"ไม่รอแล้วกูจะกลับ ขอบคุณที่โทรบอก"
ว่าจบก็รีบวางโทรศัพท์พร้อมกับพยายามประคองตัวเองไม่ให้สติแตก ที่ฉันรออยู่ที่นี่เพราะฉันคิดว่าพ่ออาจจะหนีมาหาแล้วเราจะได้คุยว่าจะเอายังไงต่อฉันไม่เห็นด้วยที่พ่อไปทำแบบนั้นกับบริษัทที่ตัวเองทำงานมาหลายปีแต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้วฉันก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรับมัน แต่ตอนนี้ฉันต้องกลับไทย..ฉันต้องกลับไปหาแม่
.
.
---ประเทศไทย---
"แม่คะ!"
ตาลที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ข้างเตียงภายในห้องรวมในโรงบาลหันมองฉันรวมถึงแม่ เธอฟื้นแล้วหลังจากที่หลับไปถึงสามวันส่วนฉันเพิ่งมาถึงไทยเมื่อเช้านี้หลังจากจัดการเรื่องต่างๆของตัวเองให้เสร็จภายในเวลาแค่สามวัน
"ไอรีน.."
ฟึ้บ..!
"ฮึก แม่ไอรีนขอโทษหนูน่าจะกลับมาเร็วกว่านี้"
"หนูไม่ควรกลับมาไอรีน"
ฉันค่อยๆคลายอ้อมกอดจากแม่และมองเธออย่างไม่เข้าใจ
"ทำไมล่ะคะ?"
"เรากำลังถูกฟ้องนะพ่อของหนูเขากำลังหนีคดี"
"แม่ แต่..แต่เราไม่ได้รู้เรื่องนะคะ"
แม่หลบสายตาฉันซึ่งนั้นมันทำเอาฉันพูดอะไรไม่ออก ฉันมองหน้าแม่อย่างไม่เชื่อสายตา...
"นี่แม่รู้เรื่องด้วยหรอคะ?"
"ไอรีน.."
"แม่รู้แต่แม่ไม่ได้ห้ามพ่อ.." แม่ถอนหายใจออกมาเบาๆและยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเองออกช้าๆขณะที่ฉันก็กำลังร้องไห้อยู่เช่นกัน
"ที่แม่ไปไหนไม่ได้เพราะแม่ไม่อยากหนี แม่ทำเรื่องที่แย่ไปแล้วและแม่ยอมรับมัน"
"แต่แม่คะนั้นมันเท่ากับว่าแม่ต้องเข้าคุกเลยนะ!"
"มันเป็นสิ่งที่แม่ควรได้รับ"
"มะ..ไม่ๆ"
"ใจเย็นๆไอรีน"
ตาลที่นั่งอยู่ลุกขึ้นมาจับฉันที่กำลังสติแตกไว้ทันที เรื่องนี้มันทำเอาฉันช็อคจนแทบจะล้มทั้งยืน..แม่หันมองไปทางอื่นไม่ยอมสบตาฉันนั้นมันแปลว่าแม่ได้ยอมรับมันแล้ว
"ให้แม่มึงอยู่คนเดียวก่อนเถอะ" ตาลกระซิบและดึงฉันออกมาจากห้องรวมทันที ฉันเช็ดน้ำตาและหันมองตาลอย่างทำอะไรไม่ถูก "ตั้งแต่แม่มึงฟื้นแม่มึงก็พูดแต่เรื่องนี้ แล้ววันก่อนก็มีพวกตำรวจมาหาแล้วบอกว่าถ้าจะสู้ก็ต้องมีทนาย..แต่มึงเงินตั้งห้าสิบล้านนะแถมตอนนี้พ่อมึงก็ไปไหนแล้วก็ไม่รู้"
"แล้วจะให้กูทำยังไง กูให้แม่กูเข้าคุกไม่ได้นะตาล"
ฉันว่าอย่างจนปัญญาพร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้อย่างไร้ทางเลือก พ่อฉันมีปัญหากับบริษัทใช่สิ..
"ตาลคนที่จะฟ้องพ่อกูคือใครนะ ใช่ประธานบริษัทไหม?"
"ใช่ซะที่ไหน" ตาลตอบและหยิบโทรศัพท์ออกมากดหาอะไรสักอย่างก่อนส่งมันมาให้ฉัน "คนที่จับได้ว่าพ่อมึงโกงคือรองประธานเขาชื่อคุณสายฟ้า"
โพสต์ทูเดย์ -ได้เพิ่มรูปภาพ - เมื่อสามวันก่อน
วันนี้เราได้มีโอกาสสัมภาษณ์และถ่ายภาพของบุคคลที่เป็นที่จับตามองสุดๆในเวลานี้ เขาเรียกได้ว่าจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมดจนตอนนี้หันมาเข้าวงการสื่อและได้กลายเป็นเจ้าพ่อสื่อคนใหม่ในเวลาไม่ถึงปี ซึ่งเขาอายุเพียง 25 แต่กลับสามารถขึ้นมายืนเป็นแนวหน้าของนักธุรกิจได้แถมยังสามารถทำยอดการส่งออกสินค้าของบริษัทตัวเองจนขึ้นเป็นบริษัทส่งออกได้เป็นอันดับต้นๆของเอเชีย อวยมาขนาดนี้จะพูดถึงใครเป็นไม่ได้หากไม่ใช่คุณสายฟ้า วารหารพิทยะวงค์ !!
ผู้สัมฯ : คุณมีความรู้สึกยังไงในการขึ้นมาเป็นนักธุรกิจแนวหน้าแม้อายุยังน้อยอยู่คะคุณสายฟ้า
สายฟ้า : ก็ท้าทายดีมั้ง อันที่จริงผมไม่ได้มีความรู้สึกไหนมากเป็นพิเศษ
ผู้สัมฯ : แต่ได้พูดแล้วว่าท้าทาย ท้าทายยังไงคะ?
สายฟ้า : มันท้าทายตรงที่ได้เจอผู้คนมากหน้าหลายตาโดยส่วนมากผมรู้สึกสนุกนะเวลาที่ได้ไหลลื่นไปกับพวกเขา
ผู้สัมฯ : แปลว่าคุณรู้สึกสนุกที่ได้รู้จักผู้คน
สายฟ้า : จะว่ายังงั้นก็ได้แต่ผมรู้สึกสนุกตรงได้รู้นิสัยคนมากกว่า มันท้าทายดีไม่ใช่หรอเวลาเจอคนที่พยายามเข้าหาเราด้วยเหตุผลต่างๆ
"เขาดูเป็นไงล่ะ"
ตาลที่ยืนมองฉันอ่านบทสัมภาษณ์ของคุณสายฟ้าถามขึ้นขณะที่ฉันก็นั่งนิ่งอยู่ มันคล้ายกับว่าฉันเคยเจอเขาที่ไหนแต่ฉันนึกไม่ออก..
"ไอรีน"
"อืม ว่าไง?"
"มึงจะเอาไงต่อ?"
"กูต้องไปเจอเขาอย่างน้อยกูอยากจะขอคุยก่อน"
"ฮะๆ" ตาลหัวเราะเบาๆพร้อมกับสายหน้าไปมา "นี่มึงคิดว่านักธุรกิจอย่างเขาจะไปเจอได้ง่ายๆหรอ?"
"ก็..ก็ลองไปดูก่อนอย่างน้อยกูขอนัดก็ได้ดีกว่าไม่ได้คุยไหมล่ะ"
ตาลมองฉันอย่างเอือมๆและมันคงจะเอือมกับความคิดโง่ๆของฉัน แต่...อะไรที่ฉันทำได้ตอนนี้ฉันก็จะทำเพราะฉันยอมให้แม่ต้องเข้าคุกไม่ได้ อย่างน้อยฉันก็หวังนะหวังว่าเขาจะใจดีสักหน่อย
วันต่อมา
"กูส่งมึงได้แค่นี้นะกูต้องรีบไปเรียน"
ฉันหันมองตาลที่อยู่ในชุดนักศึกษาก่อนจะยิ้มให้เธอและลงจากรถ จริงๆฉันก็ยังเรียนอยู่เช่นกันแต่มันเกิดเรื่องก่อนฉันเลยตัดสินใจดรอป..และะจนถึงวันนี้พ่อก็ยังไม่ติดต่อมาเช่นเคย เขาคงหนีไปและทิ้งฉันกับแม่จริงๆ ฉันเงยหน้ามองตึกสูงระฟ้าตรงหน้าพร้อมสูดหายใจเข้าปอดช้าๆ
"ขอโทษนะคะ" พนักงานที่กำลังนั่งตรงหน้าเคาน์เตอร์ภายในบริษัทมองฉันก่อนจะยิ้มให้
"ติดต่ออะไรคะ?"
"เอ่อ..พอดีฉันอยากขอพบรองประธานบริษัทน่ะค่ะ"
"รองประธาน คุณสายฟ้าน่ะหรอคะ?"
"ใช่ค่ะ" พนักงานหันมองฉันก่อนจะยิ้มนิดๆเหมือนจะขำฉันที่พูดอะไรออกไปแบบนั้นก่อนเธอจะหันมองฉันอีกครั้ง
"ได้นัดไว้รึป่าวคะ?"
"ไม่ค่ะ เอ่อฉันอยากคุยด้วยเรื่องคดี..ของพ่อฉัน"
"คดี..ช่วยลงรายละเอียดหน่อยได้ไหมคะ" ฉันมองพนักงานตรงหน้าก่อนจะกำมือแน่น
"คดีที่โกงห้าสิบล้านน่ะค่ะ"
พนักงานตรงหน้าเบิกตากว้างทันทีก่อนเธอจะเปลี่ยนสายตาที่มองฉันแทบจะทันทีที่ฉันบอกไปแบบนั้น เธอเหยียดยิ้มก่อนจะยกโทรศัพท์มากดโทรออกและพูดอะไรไม่รู้
"ไปนั่งรอตรงนั้นก่อนนะเดี๋ยวไปบอกอีกทีว่าคุณสายฟ้าจะให้พบไหม"
"ค่ะ ขอบคุณนะคะ"
ฉันพยักหน้าขอบคุณก่อนจะเดินมานั่งรอที่โซฟาของบริษัทอย่างเกร็งๆ..ฉันมองไปรอบๆบริษัทใหญ่ที่มองไปมุมไหนก็ดูจะทันสมัยไปหมดเป็นบริษัทที่น่าอยู่มากและผู้คนก็ดูมีระดับกันไปหมด
"เชิญค่ะ"
ฉันเงยหน้ามองพนักงานคนเดิมที่เดินมาเรียกก่อนจะรีบลุกตามเธอเข้าไปด้านในเธอบอกชั้นและให้ฉันเข้าไปหาเลขาคุณสายฟ้าก่อนเพราะตอนนี้คุณสายฟ้ามีประชุม ฉันเดินออกมาจากลิฟท์ในชั้นบนสุดของบริษัทซึ่งเป็นชั้นยี่สิบและดูเหมือนชั้นนี้จะเป็นชั้นของคุณสายฟ้าคนเดียว เลขาที่ว่าเดินเข้ามาหาฉันพร้อมก้มหัวให้ซึ่งนั้นทำเอาฉันต้องรีบก้มหัวตอบ
"สะสวัสดีค่ะฉันมาพบคุณสายฟ้า"
"รู้แล้วล่ะค่ะ" เธอว่าพร้อมยิ้มให้บางๆซึ่งนั้นมันทำเอาฉันแปลกใจในท่าทีที่เธอมีต่อฉัน เธอดู..มารยาทดีจัง เธอเป็นผู้หญิงมีอายุแต่ยังสวย "นั่งรอตรงนี้ก่อนนะคะเดี๋ยวท่านรองก็มา"
"ค่ะ ขอบคุณนะคะ"
เธอยิ้มให้บางๆก่อนจะหันมองฉันอีกครั้งด้วยสายตาแปลกๆก่อนเดินออกไปทำเอาฉันทำตัวไม่ถูก
ติ๊ดๆ
ฉันหยิบโทรศัพท์ออกมากดรับทันทีเมื่อเห็นชื่อของตาล
"ว่าไงตาล"
(เป็นไงบ้าง?)
"ตอนนี้กำลังรอเขาประชุมเสร็จน่ะ"
(เขาให้เจอหรอ!?)
"อืม สงสัยเพราะพ่อโกงเยอะน่ะ"
(ให้เจอทั้งที่เป็นลูกของคนโกงเนี้ยนะ...แปลกๆแฮะ)
"ก็ดีแล้วล่ะ"
(อืมๆ โอเคๆงั้นค่อยคุยกัน)
"จ้า ตั้งใจเรียนนะ"
ฉันว่าก่อนจะวางสายจากตาล ตาลเป็นเพื่อนที่ฉันรู้จักตอนอยู่อิตาลีฉันอยู่ที่นู้นส่วนเธอหลงทาง เราเจอกันโดยบังเอินจนเราเป็นเพื่อนกันในที่สุด
ครืน..
ประตูเลื่อนเลือนเปิดออกพร้อมกับร่างสูงสมาร์ทที่เดินเข้ามา เขา..คุณสายฟ้าตัวเป็นๆดูดีกว่าในรูปเป็นไหนๆเขาอยูในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มซึ่งมันทั้งเข้ากับส่วนสูงและใบหน้าที่หล่อไร้ที่ติของเขาเอามากๆ คุณสายฟ้ามองฉันด้วยสายตานิ่งเรียบจนฉันรู้สึกตัวฉันถึงยกมือไหว้
"สวัสดีค่ะ"
ฉันลอบกลืนน้ำลายเพราะเขาเอาแต่มองฉันด้วยสายตาแปลกๆ คุณสายฟ้ามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะเบนสายตาขึ้นมาสบตากับฉันอีก เขายกยิ้มและล้วงกระเป๋าหันมายืนเผชิญหน้ากันตรงๆ
"ห่างเหินจังนะ"
"คะ...เอ่อ ขอโทษค่ะเราเคยเจอกันมาก่อนหรอคะ" คนตรงหน้าขมวดคิ้วพลางเอียงใบหน้ามองฉันซึ่งนั้นมันทำเอาฉันหลบสายตาเพราะความกลัว "ขอโทษค่ะที่ถามอะไรแบบนั้นออกไป"
"ก็ถูกแล้วนิ ผมถามว่าทำไมเธอดูห่างเหินจังทั้งๆที่พ่อเธอเล่นผมไปซะยับขนาดนั้น"
ฉันเงยหน้าขึ้นมองคุณสายฟ้าทันทีขณะที่เขาก็หัวเราะพร้อมเหยียดยิ้ม ฉันเม้มปากก่อนจะก้าวเข้าหาแต่เขาถอยหนีก่อน
"เธอไม่ควรจะเข้าใกล้ผมมากนะเพราะผมไม่แน่ใจว่าเธอมีแผนอะไรไหม"
"มะ ไม่นะคะฉันไม่ได้มีแผนอะไรเลยฉันมาคุยกับคุณด้วยความสัตย์จริง"
คุณสายฟ้าเลิกคิ้วก่อนจะพยักหน้าและหันหลังเดินเข้าไปในห้องตรงหน้าทิ้งฉันไว้ ฉันหันมองเลขาเขาทันทีซึ่งเธอก็เดินผ่านหน้าฉันมาเปิดประตูให้
"เชิญค่ะคุณไอรีน"
"ขอบคุณค่ะ"
ฉันคิดว่าฉันยังไม่ได้แนะนำตัวนะ ฉันคิดอย่างงงๆแต่ก็เดินเข้ามาภายในห้องใหญ่ซึ่งมันคงเป็นห้องทำงานของคุณสายฟ้าเขายืนล้วงกระเป๋ารอที่ข้างๆโต๊ะทำงานก่อนเลขาจะเดินไปปลดเนคไทดให้ ฉันยืนก้มหน้าอยู่อย่างนั้นเพราะไม่รู้จะทำอะไร
"ออกไปก่อน"
"ค่ะ"
เลขาคุณสายฟ้ารับคำและเดินออกไปทิ้งฉันให้อยู่กับคุณสายฟ้าสองคน เขานั่งลงที่เก้าอี้ตัวเองและผายมือให้ฉันนั่งตรงที่เก้าอี้ตรงหน้าฉันจึงเดินไปนั่งและมองเขา
"คือฉันมาคุยเรื่อง.."
"ผมยังไม่อนุญาตให้เธอพูดเลย"
"ขอโทษค่ะ" ฉันกำมือตัวเองแน่นขณะที่เขาก็มองฉันด้วยสายตานิ่งเรียบและหยิบเอกสารในลิ้นชักตัวเองออกมาวางตรงหน้าฉัน
"นี่คือข้อมูลทั้งหมดในการยักยอกทรัพย์ของพ่อเธอ"
ฟึ้บ..
ฉันหยิบมันมาเปิดดูก่อนด้วยมือที่กำลังสั่นและยิ่งสั่นมากขึ้นเมื่อเห็นตัวเลขเงินที่พ่อโกงและข้อมูลของพ่อ
"ตอนนี้แม่คุณสารภาพแล้วว่าเธอรู้เห็นด้วยและถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ร่วมกระทำแต่เธอก็รู้เห็นเป็นใจ"
"แต่.."
"ผมยังไม่ได้ให้เธอพูด"
คุณสายฟ้าขัดอีกครั้งพร้อมกับไขว้ห้างเอนหลังไปกับเก้าอี้และมองฉันด้วยสายตาหยันๆ เขานี่มัน...ให้ตายสิ!