“เลว ทำไมเลวอย่างนี้!!!” เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลุงเดชแสนใจดีจะกลายเป็นไอ้โรคจิตสุดทรามไปได้ เธอมองไม่ออกเลยว่าคนสุภาพอย่างเขาจะเป็นคนสันดานเสียขนาดนี้ เธอตอบกลับเขาไปด้วยความโกรธแค้นว่า...
“อรจะแจ้งความ ถ้าลุงปล่อยคลิปอร”
“คิดว่าผมกลัวเหรอ”
อรวิภากุมขมับ คิดภาพตัวเองไม่ออกเลยว่าจะทำงานท่ามกลางสายตาของผู้คนที่เคยเห็นคลิปนี้ได้ยังไง
“ลุงจะเอายังไง”
“ก็ให้ผมเอาสิ รับรองว่าคุณอรติดใจจนลืมไม่ลงแน่”
“นี่เมียลุงรู้รึเปล่าว่าลุงเป็นคนแบบนี้”
“เมียผมอยู่ต่างจังหวัดโน่น คุณอรไม่ต้องห่วงหรอกนะ ผมแค่อยากทำให้คุณอรหายเ****นเท่านั้น”
เธออยากจะบ้ากับข้อเสนอของตาแก่มากตัณหา อายก็อายที่มีคนเห็นความลับของเธอ แถมยังเครียดจนหัวจะระเบิดเมื่อคิดถึงหน้าพ่อแม่และญาติพี่น้องที่อาจได้เห็นคลิปของเธอกระจายไปตามโซเชี่ยล เธอเพิ่งรู้ในวินาทีนี้เองว่าการอยากฆ่าคนตายมันเป็นยังไง เธอล่ะอยากจะฆ่าลุงเดชนัก
“แล้วถ้าอร...ยอม...ลุงจะลบคลิปใช่มั้ย”
“ลบสิ ผมลบอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง”
ถึงเขาไม่ลบ เธอก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อจะลบคลิปนั้นให้ได้ เธอไม่ต้องการให้ใครเห็นเธอในสภาพนั้น โดยเฉพาะเจ้านายของเธอ ที่ชื่นชมความสามารถของเธอมาตลอด ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องส่วนตัวก็ตาม แต่เธอก็ไม่ควรทำในห้องน้ำของบริษัท เพราะมันหมายถึงความมักง่าย ไม่รู้จักกาลเทศะ
“ไม่น่าเลยเรา...บ้าจริง!”
อรวิภาลงจากรถเมย์ก่อนจะถึงป้ายหน้าปากซอยคอนโดมิเนียม แล้วยืนเคว้งอยู่ตรงป้ายรถเมย์เหมือนคนหาทางออกไม่เจอ เธอจะทำอย่างไรดี เธอจะแก้ปัญหานี้ยังไง?
“โอ๊ย! เอาไงดี คิดสิคิด” เธอคิดวนอยู่หลายตลบ ก่อนจะตัดสินใจโทรไปหาแฟนทอม แต่โทรเท่าไหร่เขาก็ไม่ยอมรับสาย จนครั้งสุดท้ายกลายเป็นเสียงตอบรับอัตโนมัติว่าไม่สามารถติดต่อได้ “โอ๊ยหมู! ทำอะไรอยู่เนี่ย ไม่รู้รึไงว่าเค้ากำลังจะบ้าแล้ว ฮือ....ทำไงดี???”
แล้วเธอก็นึกขึ้นได้ “ยัยสุ! โทรไปหายัยสุดีกว่า เผื่อมันมีทางออกที่ดีให้เรา”
อรวิภาจึงโทรไปหาสุภาวดีด้วยใจเต้นรัว แต่สุภาวดีกลับไม่ยอมรับสายของเธอเช่นกัน
“โอย ทำไงดี ทำไมไม่มีใครรับสายเราเลยเนี่ย??”
เธอกังวลสับสนและวุ่นวายใจไปหมดแล้ว โดยเฉพาะเมื่อได้รับข้อความข่มขู่จากเดชาอีกครั้ง
“ผมรออยู่ที่ออฟฟิศนะ...ผมจะรอจนถึงเที่ยงคืน ทันทีที่ตึกปิด ผมจะอัพคลิปลงในกลุ่มไลน์ของบริษัท”
เธอโมโหจนอยากจะขว้างโทรศัพท์ทิ้งให้รู้แล้วรู้รอด หากไม่ใช่เพราะต้องใช้มันติดต่อสื่อสารกับไอ้ยามหื่นโรคจิต เธอรีบพิมพ์ตอบลงไปด้วยมืออันสั่นเทา และใจที่เจ็บปวด
“กำลังจะไปเดี๋ยวนี้แหละ อีกครึ่งชั่วโมงเจอกัน”
หากเป็นไปได้ เธออยากจะไปฆ่ามันให้ตายคามือ มากกว่าจะไปเพื่อเป็นเครื่องบรรณาการความเ****นหื่นของมัน แต่เธอคงทำอย่างที่ใจคิดไม่ได้ เธอไม่ใช่ซุปเปอร์วูเม่น เธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น
อรวิภาตัดสินใจเรียกรถแท็กซี่ แล้วเดินทางกลับไปยังออฟฟิศในช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่มเศษ มันคงเป็นเรื่องแปลกมากหากมีการตรวจกล้องวงจรปิดของบริษัท แล้วพบว่าเธอกลับมาที่ทำงานในยามวิกาลเช่นนี้
แต่เธอคงทำอะไรไม่ได้แล้ว นอกจากไปหาเขาตามข้อเสนอ เพราะสิ่งที่เธอยอมไม่ได้ก็คือ การถูกประจานในอินเทอร์เน็ตและกลายเป็นตัวตลกต่อหน้าทุกคน ภาพลักษณ์งดงามที่สร้างขึ้นมา อาจถูกทำลายป่นปี้จนหมดสิ้น เพียงแค่คลิปเดียวเท่านั้น