ตอนที่ 11
แสงอาทิตย์สีทองอ่อนละมุน ราวกับพู่กันของจิตรกรเอก ค่อยๆ แต่งแต้มผืนน้ำทะเลให้ระยิบระยับในช่วงสุดท้ายของวัน เมญาดายืนเอนหลังพิงอกแกร่งของชัชชนน์ ปล่อยให้สายลมเย็นที่พัดมาจากทะเลลูบไล้เส้นผมดำขลับยาวสลวยของเธอ รอยยิ้มกว้างสดใสประดับอยู่บนใบหน้าสวย ราวกับดอกไม้ที่เบ่งบานรับแสงสุดท้ายของวัน
“คุณชอบทะเลยามใกล้พระอาทิตย์ตกมั้ยคะ?” เมญาดาหันมาถามชัชชนน์ด้วยแววตาแห่งความใคร่รู้ ราวกับเด็กน้อยที่อยากแบ่งปันความมหัศจรรย์ที่ตนเองค้นพบ เธอเงยหน้ามองเขาอย่างคาดหวัง ราวกับต้องการให้เขาเห็นความงามของช่วงเวลาที่แสงสีทองกำลังจะลาลับไปจากผืนน้ำสีครามเช่นเดียวกับเธอ
ชัชชนน์ยืนมองแสงสีทองอ่อน ๆ สาดส่องลงบนผืนน้ำทะเลกว้างใหญ่ รอยยิ้มบางๆ แต่งแต้มอยู่บนริมฝีปากหยักได้รูปของเขาอย่างนุ่มนวล ก่อนที่เสียงทุ้มนุ่มจะเอ่ยขึ้นเป็นคำตอบ
“ครับ...มันสวยมาก” น้ำเสียงของเขาแผ่วเบา ทว่าหนักแน่นและจริงจัง
คำตอบนั้นไม่ได้หมายถึงแค่ทิวทัศน์อันงดงามตรงหน้าเท่านั้น แต่สายตาคมของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่หญิงสาวผู้ยืนอยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเย็น ราวกับเธอเป็นภาพวาดที่งดงามที่สุด ความรู้สึกบางอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในใจของเขาอย่างเงียบๆ มันเป็นความรู้สึกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากความแค้นที่เคยเป็นเชื้อเพลิงในชีวิตของเขา ความรู้สึกที่ทำให้เขาสับสนพร้อม ๆ กับความหวั่นไหว มันเริ่มตั้งคำถามกับทุกสิ่งที่เขาเคยเชื่อมั่นมาก่อนหน้านี้
ใบหน้าหวานละมุนหันไปสบกับดวงตาคมกริบของผู้ชายที่เธอขนานนามในหัวใจว่าเขาคือผู้ที่ครอบครองพื้นที่ทั้งหมดของมัน ดวงตาคู่สวยยังคงจับจ้องใบหน้าอันหล่อเหลาอย่างเปิดเผย ราวกับต้องการอ่านทุกความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจ
“คุณชัช!!!...ดูคุณเงียบๆ ไป มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าคะ” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนราวกับสายลมที่พัดผ่าน ก่อนจะพยายามดึงเขาออกจากห้วงความคิดที่ดูเหมือนจะรบกวนจิตใจของเขาอยู่ไม่น้อย จนชายหนุ่มตื่นจากภวังค์และสลัดความคิดบางอย่างที่วกวนอยู่ในหัวออกไป
ชัชชนน์ละสายตาจากผืนน้ำทะเลที่กำลังเปลี่ยนสีทีละน้อย มามองใบหน้าสวยของเธอแทน ก่อนจะรีบตอบคำถามของหญิงสาว
“อ๋อ!!!..ปะ.. เปล่าครับ” เขารีบบอก น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
“คุณชอบทะเลไหมคะ?” เมญาดาถามต่ออย่างใคร่รู้
ชัชชนน์หันกลับมาสบตากับเธออีกครั้ง แววตาของเขายังคงอ่อนโยนกับเธอเสมอ
“เมื่อก่อน...ผมไม่เคยรู้สึกอะไรเป็นพิเศษกับทะเลหรอกครับ แต่ตอนนี้...” เขาเว้นจังหวะเล็กน้อย ราวกับกำลังเรียบเรียงความรู้สึกในใจ
“ผมรู้สึกว่ามันสวยงามมาก...เหมือนคุณ...ที่กำลังยืนอยู่หน้าผม...ตอนนี้” ชัชชนน์เรียบเรียงคำตอบที่ออกมาจากหัวใจของเขาอย่างแท้จริง
ใบหน้าสวยหวานของหญิงสาวแดงระเรื่อขึ้นในทันที ราวกับกลีบกุหลาบแรกแย้มต้องหยาดน้ำค้าง หัวใจของเธอเต้นระรัวในอก คำพูดที่แสนหวานออกจากชายหนุ่มตรงหน้าซึ่งเธอไม่คิดว่าจะได้ยินมันด้วยซ้ำ ราวกับสายลมที่พัดโชยมาเบาๆ แต่กลับสั่นคลอนทุกความรู้สึกในใจของเธอให้หวั่นไหว
“คุณเนี่ย!!!..ก็ปากหวานเป็นเหมือนกันเหรอคะ...” เมญาดาเอ่ยถามเสียงแผ่วราวกับกระซิบ แต่ในดวงตากลับฉายแววแห่งความสุข
ชัชชนน์ ก้าวเข้าไปใกล้เธอจนแนบชิด มือหนาของเขายกขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะใช้ปลายนิ้วสัมผัสแก้มเนียนของเธอเบาๆ ก่อนที่จะลากนิ้วสัมผัสผิวแก้มเนียนอย่างอ่อนโยน ดวงตาคมกริบจ้องมองลึกลงไปในดวงตาคู่สวย ราวกับต้องการค้นหาความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายใน
“ญาดา!!!...” เขาเรียกชื่อของเธอแผ่วเบา ราวกับเสียงกระซิบของลมทะเล
“คุณรู้มั้ย ว่าการที่ผมได้อยู่ใกล้ๆ คุณ...มันทำให้ผมลืมความทุกข์ไปเลย”
ความเงียบปกคลุมรอบกาย มีเพียงเสียงคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งเบาๆ เป็นจังหวะ ราวกับเป็นเพลงรักที่ขับกล่อมคนทั้งสอง แสงอาทิตย์สีทองค่อยๆ ลับขอบฟ้าไป ทิ้งไว้เพียงแสงสีส้มอ่อนๆ ที่ยังคงส่องสว่างบนผืนทรายและใบหน้าของคนทั้งคู่ ความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นในหัวใจของพวกเขาช่างงดงามและลึกซึ้ง ราวกับความรักที่กำลังจะเบ่งบานภายใต้แสงจันทร์ที่กำลังจะมาเยือน
เมญาดาพยายามกลั้นหายใจ เพราะตอนนี้หัวใจของเธอเต้นระรัวราวกับกลองศึก สัมผัสอบอุ่นจากปลายนิ้วของชัชชนน์ที่ลูบไล้แก้มของเธอเบาๆ นั้น ช่างอ่อนโยนและทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ดวงตาคู่สวยของเธอจับจ้องอยู่ที่ดวงตาคมของเขาอย่างแน่วแน่ ราวกับต้องมนตร์สะกด ก่อนที่หญิงสาวจะตัดสินใจเอื้อนเอ่ยความในใจออกมา
“คุณชัชคะ!!!...ถึงแม้ว่าเรื่องของเรามันอาจจะเร็วไปสักหน่อย” เธอพยายามเอ่ยคำพูดออกมา แต่เสียงของเธอกลับแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน
“แต่ญาดาก็รักคุณด้วยความจริงใจนะคะ” ชัชชนน์สบตาเธอ แต่แววตานั้นกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน
“ผมรู้ครับ แต่ว่า...” เขาเว้นจังหวะเล็กน้อย ราวกับกำลังชั่งใจ