ตอนอายุสิบห้าปีมารดาของ ‘มธุรสา ศิรวัฒนา’ ที่เป็นญาติห่างๆ กับมาริสานั้นเสียชีวิตและเธอก็ไม่มีญาติคนไหนอีกแล้วในอเมริกา จึงทำให้ได้มาอยู่ในความดูแลของครอบครัวแมนนิ่ง แม้พวกเขาจะไม่ได้กดขี่ข่มเหงเธอ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเธอ พวกเขาทำตามหน้าที่แต่ไม่ได้มองหลานกำพร้าอย่างเธอเป็นคนในครอบครัว สถานะของเธอเทียบเท่าได้เพียงคนรับใช้คนหนึ่งในบ้าน เพียงแต่ไม่ได้ทำงานหนักมากก็เท่านั้น…
ทว่าเมื่อเธออายุได้ยี่สิบสองปีและเรียนจบจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในสาขาบัญชี ช่วงเวลาเรียนที่ได้อยู่ไกลจากที่นี่คือเวลาที่เธอได้รับอิสระ เธอเคยวาดฝันว่าตัวเองคงจะย้ายไปอยู่ที่เมืองนั้นเป็นการถาวร ความเงียบสงบของที่นั่นทำให้เธอรู้สึกว่านั่นคือที่ทางของตัวเอง และเพราะชอบทำขนมมากกว่าสาขาที่เรียนจบมา เธอจึงฝันว่าอยากจะเปิดร้านเบเกอรี่เล็กๆ ของตัวเอง ทว่าความฝันทุกอย่างของเธอก็จบลง เพราะจู่ๆ มาริสาก็เรียกให้เธอกลับบ้าน และบอกกับเธอว่าเธอจะต้องอยู่ดูแลบ้าน...
มธุรสาไม่ตอบโต้อะไร และยอมรับข้อเสนอนั้นแต่โดยดี เวลานั้นก็ผ่านมานานถึงสองปีแล้ว...และมธุรสาก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร แม้อีกฝ่ายจะผิดข้อตกลงที่เรียกเธอกลับมาด้วยการให้เธอทำหน้าที่เป็นแม่บ้านโดยไม่ได้รับเงินเดือนอะไรเลยแม้แต่เพนนีเดียวก็ตาม
แต่เธอก็ยอม...เนื่องจากคำเพียงคำเดียว… ‘บุญคุณ’
ทว่าถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว เธอเคยชินกับสภาพและยอมรับกับชีวิตของตัวเองแล้วว่าเธอจะต้องอยู่เช่นนี้ไปอีกนาน จนกว่ามาริสาและครอบครัวของผู้เป็นป้าจะปล่อยมือไปจากเธอ
เพียงแต่ว่าบางครั้ง ความอึดอัดใจก็ทำให้เธอนึกอยากให้วันเวลาเหล่านั้นมาถึงอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน
.
.
.
๐๐๐๐
.
.
.
ภายในคลับหรูในย่านมิดทาวด์ เกรซ แมนนิ่งซึ่งอยู่ในชุดเดรสของดิออร์คอลเลคชั่นซัมเมอร์ปีล่าสุด และเท้าเรียวสวยที่สวมรองเท้าของจิมมี่ ชูก็เดินนวยนาดเข้ามาในคลับตามนัดของเหล่าเพื่อนของหล่อน ซึ่งเป็นแก๊งสาวร้ายตั้งแต่ไฮสคูล ส่วนใหญ่ที่คบกันก็มีฐานะและความสนใจในระดับเดียวกัน บางครั้งบางคราหล่อนกับคนพวกนี้ก็เปลี่ยนมาเป็นศัตรูฟาดฟันกันในบ้าง ทว่าถึงอย่างนั้นเพราะผลประโยชน์ที่เอื้อให้แก่กันก็ทำให้มิตรภาพของพวกหล่อนยังคงยืนยาว
เมื่อไปถึงที่หมาย นางแบบสาวก็ทรุดลงนั่งข้างเพื่อนสนิทที่สุดของหล่อน ‘เซียร่า วิลเลียมส์’ พร้อมกับโปรยยิ้มให้กับเพื่อนอีกสามสี่คนที่นั่งกระจายกันไป ทว่ากลับไม่เห็นคนที่เป็นทั้งคู่แข่งและเพื่อนที่โดดเด่นสูสีกับหล่อนเลย
เซียร่าพอเห็นว่าหล่อนหุบรอยยิ้มลงแล้วก็โน้มตัวเข้ามาหาหล่อนแล้วกระซิบข้างหูถามด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกชัดถึงความสงสัยว่า
“ทำไมแกทำหน้าอย่างนั้นล่ะเกรซ”
เกรซที่ถูกกระตุ้นให้นึกถึงเรื่องเมื่อสองสามชั่วโมงก่อนที่ผ่านมาก็ถอนหายใจอย่างฉุนเฉียว ความพยายามฝืนตีสีหน้าแจ่มใสอันน้อยนิดของหล่อนพังทลายราบขึ้นมาทันที หล่อนตอบเซียร่าด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยวที่กดให้เบาลง
“ก็มีเรื่องให้อารมณ์เสียน่ะสิ ใครจะไปทำหน้าระรื่นออก”
ทว่าถึงอย่างนั้นเพราะอยู่ในสายตาของคนอื่นๆ หล่อนก็ไม่อาจกราดเกรี้ยวได้อย่างใจปรารถนา เพราะไม่ต้องการขึ้นไปอยู่ในข่าวซุบซิบว่านางแบบสาวอย่างเกรซ แมนนิ่งวีนเหวี่ยงอยู่ในคลับ หรือไม่พวกเขียนข่าวมั่วๆ ก็อาจจะโยงไปว่าหล่อนกำลังหัวเสียเพราะอกหัก
ซึ่งนั่นไม่เป็นความจริง...
ทว่าถึงอย่างนั้นกริยาหัวเสียของหล่อนก็ยังเห็นได้ชัดเจน เซียร่าจึงกระซิบเตือนหล่อนว่า
“อย่างน้อยแกก็ต้องเก็บอาการหน่อยเกรซ แกจะให้ยายแอชลีย์มันดูถูกหรือไง”
.
.
.
.
.
.
-----------------------------
TBC
ฝากคอมเมนต์+กดเข้าชั้น = กำลังใจจ้า ^^