บทที่ 5

1166 Words
หนิงเฉิงที่วิ่งไปตะโกนเรียกให้ชาวบ้านมาช่วยพี่สาว ทุกหลังที่มีคนอยู่ในบ้านก็รีบออกมาดูที่เรือนของจือลู่ แต่เจอนางที่สภาพเละเทะระหว่างทางเสียก่อน จือลู่เห็นชาวบ้านเริ่มออกมาจากเรือนก็แสร้งล้มลงไปนั่งกับพื้น นางกงซื่อที่ตามมาทันก็ลงมือทุบตีต่อหน้าชาวบ้านทั้งหลาย "โอวโยว ฆ่าคนแล้ว นางกงซื่อจะฆ่าลู่เออร์แล้ว" ชาวบ้านที่เห็นก็รีบตะโกนร้องขึ้น "ข้ายังไม่ได้ทำอันใดนางทั้งนั้น" "ถุย ทุกคนเห็นกับตาว่าเจ้าทุบตีลู่เออร์จนมีสภาพเช่นนี้" ชาวบ้านชี้มือไปที่จือลู่ที่นั่งอยู่ที่พื้น หนิงเฉิงที่วิ่งนำผู้นำหมู่บ้านมาก็รีบฝ่าฝูงคนเข้ามาหาพี่สาว หนิงเฉิงที่เห็นสภาพของจือลู่เข้ายังต้องตกใจ เพราะไม่คิดว่าพี่สาวจะเละเทะเช่นนี้ จือลู่อาศัยตอนที่ชาวบ้านกำลังด่าทอนางเกาซื่อแล้วเล่าให้หนิงเฉิงฟังว่านางทึ้งผมตนเอง ไม่ได้รับบาดเจ็บมากเพื่อให้เขาเบาใจ เมื่อได้ยินเช่นนั้นหนิงเฉิงจึงได้เบาใจ "นางกงซื่อเจ้าคงลืมไปเสียแล้วว่าเด็กทั้งสองไม่ได้เกี่ยวอันใดกับเจ้าอีก" ผู้นำหมู่บ้านพูดขึ้นอย่างโมโห "เหอะ นางแซ่จาง จะไม่เกี่ยวกับเรือนข้าได้อย่างไร อีกอย่างพ่อหม้ายจงก็มารอรับตัวนางแล้ว" เพราะนางกงซื่อรับเงินจากพ่อหม้ายจงมาแล้ว อย่างไรวันนี้นางก็ต้องพาตัวจือลู่ไปให้ได้ "รับเงินมาแล้วอย่างไร เจ้าก็คืนเงินพ่อหม้ายจงไปเสียก็สิ้นเรื่อง" ชาวบ้านพูดขึ้น "เรื่องภายในครอบครัวของข้าพวกเจ้ายุ่งอันใดด้วย" นางกงซื่อเถียงขึ้นอย่างไม่ยินยอม "ท่านปู่ผู้นำได้โปรดช่วยพวกข้าสองคนพี่น้องด้วยขอรับ" หนิงเฉิงคุกเข่าลงต่อหน้าผู้นำหมู่บ้าน "หากท่านป้าสะใภ้ยังต้องการขายพี่สาวข้าให้พ่อหม้ายจง เช่นนั้นพวกข้าขอออกจากตระกูลจางและจะเปลี่ยนไปใช้แซ่จ้าวของท่านแม่แทนขอรับ" จือลู่เงยหน้ามามองน้องชายอย่างตกใจ มิใช่แค่นางทุกคนก็ตกใจ เพราะไม่คิดว่าหนิงเฉิงจะกล้าพูดเรื่องออกจากตระกูลขึ้นมา อาจจะเป็นเพราะเขาอดทนมามากพอแล้ว หรือสงสารที่พี่สาวต้องได้รับความอยุติธรรมจากคนในครอบครัว "เจ้าคิดดีแล้วหรือเฉิงเออร์" ผู้นำหมู่บ้านถามเขาอย่างจริงจัง เพราะไม่รู้ว่าจะช่วยเหลือทั้งคู่ด้วยวิธีใด หากพูดถึงเรื่องแต่งงานก็สมควรจะเป็นผู้อาวุโสในเรือนเป็นคนจัดการ แต่นางกงซื่อก็ทำกับหลานเกินไปที่เลือกคนเช่นพ่อหม้ายให้นาง "ข้าคิดดีแล้วขอรับ" หนิงเฉิงกัดฟันแน่นก่อนที่จะเอ่ยออกมา เขายอมให้พี่สาวแต่งออกไปกับพ่อหม้ายไม่ได้ "ได้ ไปเรียกต้าอู๋มา" นางกงซื่อจะเอ่ยแย้งก็ไม่กล้า เพราะสายตาที่เอาจริงของผู้นำหมู่บ้านคอยมองปรามนางไว้ หนิงเฉิงลุกขึ้นไปประคองจือลู่ แล้วเดินตามผู้นำหมู่บ้านไปที่เรือนของเขา เพื่อเขียนหนังสือตัดขาดจากครอบครัว ต้าอู๋ก็รีบร้อนมาทันทีเมื่อนางกงซื่อไปแจ้งเรื่องทั้งหมดให้ฟัง "เจ้าจะออกจากตระกูลจริงหรือเฉิงเออร์" ต้าอู๋ถามหลานชายอย่างไม่อยากเชื่อ "จริงขอรับ" หนิงเฉิงจ้องตาต้าอู๋อย่างจริงจัง "แต่ข้าจะไม่แบ่งที่นาให้พวกเจ้าสองพี่น้องเด็ดขาด" นางกงซื่อตะโกนเสียงดังอยู่ด้านข้าง ตอนนี้ที่นาของบิดาก็ยังอยู่ในส่วนของบ้านใหญ่ยังไม่มีการแบ่งออกมา แม้จะแบ่งแยกกันทำแต่ก็ยังเป็นส่วนของบ้านใหญ่อยู่ดี "ไม่เป็นไรขอรับ ขอเพียงพวกท่านอย่าได้มายุ่งเกี่ยวกับข้าสองพี่น้องอีกก็พอ" หนิงเฉิงพูดขึ้นอย่างไม่หลบสายตา ที่นาเพียงน้อยนิดเขาจะต้องการไปเพื่อสิ่งใด ที่อยากได้คือท่านลุงท่านป้าสะใภ้เลิกยุ่งกับพวกเขาสองพี่น้องเท่านั้น "เช่นนั้นก็ได้" ต้าอู๋รีบรับคำ เพราะเขาไม่ต้องการจะแบ่งที่นาทำกินตั้งแต่แรก ในเมื่อสองพี่น้องต้องการออกจากตระกูลเขาจะรั้งไว้เพื่อสิ่งใด ผู้นำหมู่บ้านเขียนหนังสือตัดขาดขึ้นมาสามฉบับ ตอนที่บิดามารดายังมีชีวิตอยู่หนิงเฉิงยังได้ร่ำเรียนมาตั้งแต่เล็ก เพราะมารดาของเขาต้องการให้เขาสองพี่น้องรู้ตำรา เขาเพิ่งหยุดเรียนเมื่อไม่กี่เดือนที่บิดามารดาเสียนี้เอง ทำให้หนิงเฉิงระบุลงไปอย่างละเอียด ว่าตระกูลจางไม่มีความเกี่ยวข้องกับพวกเขาสองคนพี่น้อง แม้จะยากดีมีจนก็ไม่อาจจะมาขอความช่วยเหลือต่อกันได้ นับว่าเรื่องนี้ต้าอู๋กับนางกงซื่อก็ต้องการเช่นกัน "หากพวกเจ้ายังวุ่นวายกับสองพี่น้องอีกต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงินสามร้อยตำลึง พวกเจ้าสองพี่น้องก็เช่นกันหากไปขอความช่วยเหลือท่านลุงของเจ้าก็ต้องเสียค่าปรับ พวกเจ้าทั้งหมดเข้าใจใช่หรือไม่"ผู้นำหมู่บ้านพูดทวนให้ทั้งหมดเข้าใจอีกครั้ง "ข้าเข้าใจขอรับ/เจ้าค่ะ" หนิงเฉิงกับจือลู่พูดขึ้น "ต้องเป็นเช่นนั้น" ต้าอู๋พูดขึ้นอย่างได้ใจ เพราะเขาคิดว่าสองพี่น้องจะเอาตัวรอดไปได้เช่นไร อย่างไรก็ต้องมาขอความช่วยเหลือจากตน เมื่อถึงตอนนั้นตนจะเรียกค่าปรับให้ทั้งคู่เป็นวัวเป็นม้าไปตลอดชีวิต นางกงซื่อก็เห็นดีเห็นงามตามไปด้วย เมื่อเป็นตามที่ตกลง ผู้นำหมู่บ้านก็ส่งหนังสือสัญญาให้ครอบครัวละหนึ่งฉบับเขาเก็บไว้เองหนึ่งฉบับ และยังรับปากสองพี่น้องว่าจะช่วยจัดการเรื่องเปลี่ยนแซ่ให้พวกเขาในวันพรุ่งนี้อีกด้วย โดนหนิงเฉิงต้องรับเป็นเจ้าบ้านในวัยเพียงสิบสองหนาวเท่านั้น ชาวบ้านที่ติดตามาดูเรื่องสนุก และบางคนที่ตามมาช่วยสองพี่น้อง เห็นเรื่องจบลงด้วยดีต่างก็แยกย้ายกันกลับ คงมีแต่พ่อหม้ายจงที่ยังโวยวายกับหมู่นำหมู่บ้านไม่เลิก เรื่องที่เขาจ่ายเงินซื้อตัวจือลู่ไว้แล้วแต่ไม่ได้คนกลับไป ผู้นำหมู่บ้านจึงให้ต้าอู๋กับนางกงซื่อนำเงินที่รับมาคืนไป แต่พ่อหม้ายจงกับขอค่าเสียเวลาเพิ่มจากต้าอู๋อีกสองตำลึง นางกงซื่อจะไม่ยอมคืนก็ไม่ได้มิเช่นนั้นต้องให้บุตรสาวของตนที่วัยเดียวกันกับจือลู่แต่งออกไปแทน แล้วนางจะยอมได้เช่นใด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD