หนิงเฉิงประคองจือลู่กลับเรือน เมื่อพ้นสายตาของคนอื่นจือลู่ก็จัดผม จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่แล้วรับเดินกลับเรือน เพราะทั้งคู่ยังไม่ได้กินอะไรกันเลยหลังจากที่ลงจากเขา นางกงซื่อก็เข้ามาหาเรื่องที่เรือนเสียก่อน
จือลู่กลับถึงเรือนก็รีบต้มน้ำ เพื่ออาบน้ำ ระหว่างที่ต้มน้ำ นางก็พาหนิงเฉิงเข้าไปกินอาหารในห้องของนาง นางมองน้องชายอย่างเอ็นดู เพราะต้องการปกป้องนางน้องชายถึงยอมตัดขาดจากตระกูลแล้วเปลี่ยนมาใช้แซ่ของท่านแม่
ท่านพ่อพาท่านแม่กลับมาจากเมืองหลวงเพื่อมาอยู่ที่บ้านเดิมของเขา ตอนนั้นก็มีนางแล้ว ในท้องของมารดายังมีหนิงเฉิงแล้วด้วย เพียงความทรงจำของนางจำได้เลือนลางเท่านั้น
แม้แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงว่าเหตุใดบิดามารดาถึงกลับมาอยู่เป้ยหาน นางก็จำไม่ได้เสียแล้ว
หมู่บ้านที่พวกนางอยู่ก็ห่างจากตัวเมืองเป่ยหานถึงยี่สิบลี้ หากจะเข้าเมืองต้องนั่งเกวียนถึงสองชั่วยาม ถ้าเดินเข้าเมืองคงจะต้องพักที่เมืองเสียหนึ่งคืนไม่เช่นนั้นไปกลับก็คงมืดระหว่างทาง
นางก็ไม่คิดที่จะอยู่หมู่บ้านนี้ไปตลอด หากขายถังเช่าได้ราคาดีนางคงจะพาหนิงเฉิงไปอยู่ที่ในเมืองเพื่อให้เขาได้กลับไปเรียนอีกครั้ง และนางจะได้ค้าขายหรือทำงานเพื่อหาเงินด้วย
"เฉิงเออร์ พรุ่งนี้ขึ้นเขาอีกรอบ พวกเราเก็บมาทั้งหมดเลยจะได้เข้าเมืองไปขาย ถ้าได้ราคาดีข้าจะหาซื้อเรือนในเมือง ต่อไปเจ้าก็กลับไปเรียน" จือลู่ยกมือขึ้นห้ามเพื่อไม่ให้หนิงเฉิงขัดนาง
"เจ้าไม่ต้องห่วง เรื่องทุกอย่างต่อไปข้าจะจัดการเอง เจ้าเพียงตั้งใจเรียน ข้าจะไม่ให้เจ้าได้รับความอยุติธรรมเช่นในวันนี้อีกแล้ว"
เมื่อจือลู่พูดจบหนิงเฉิงก็เงยหน้ามองนาง ดวงตาของเขาแดงกลำไปทั้งดวงเพราะกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา
"พี่หญิง" พูดได้เพียงเท่านั้นหนิงเฉิงก็พุ่งตัวเข้ามากอดจือลู่ไว้แน่น แล้วปล่อยโฮออกมาเสียงดัง ต่อให้เก่งหรือฉลาดเพียงใด แต่เขาก็ยังเป็นเด็กที่อายุเพียงสิบสองหนาวเท่านั้น ย่อมเกิดความหวาดกลัวอยู่ในใจ
ทั้งสองเมื่อปลอบประโลมกันแล้วก็แยกย้ายไปอาบน้ำเพราะพรุ่งนี้ยังต้องรีบขึ้นเขาก่อนฟ้าสว่าง จือลู่ล้มตัวลงนอน นางจ้องมองเพดานอย่างครุ่นคิด เหตุใดทะลุมิติมาถึงได้เจอแต่เรื่องวุ่นวายเช่นนี้ เหตุใดไม่ไปเกิดในวังหลวงมีทาสรับใช้ให้สบายไปเสียเลย คิดได้เพียงเท่านั้นก็นอนหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า
ฟ้ายังไม่ทันสว่างสองพี่น้องก็รีบกินอาหารในกล่องของจือลู่ แล้วนำติดตัวไปด้วยเช่นเดิม ตอนที่ทั้งสองถึงชายเขายังไม่มีชาวบ้านออกมาเลยสักคน หนิงเฉิงจึงถือไม้ไว้ในมือแล้วตีไล่สัตว์เลื้อยคลานเดินออกหน้านำจือลู่ไปที่ที่เก็บถังเช่าเมื่อวาน
ทั้งคู่เดินคลำทางมาจนถึงที่เดิมต่างก็รีบลงมือถางเอาเศษใบไม้ออกจากพื้นดินแล้วลงมือขุดถังเช่าทันที นับว่าพื้นที่ตรงนั้นมีถังเช่าให้สองพี่น้องเก็บมากมาย เพียงครึ่งวันเช้าก่อนจะหยุดพักกินมื้อกลางวันทั้งคู่ก็ขุดมาได้เต็มหนึ่งตะกร้า
จือลู่กินอาหารไปนั่งมองชื่นชมไป เงินทั้งนั้นในตะกร้าจะไม่ให้นางยิ้มเหมือนคนบ้าได้อย่างไร
"พรุ่งนี้พี่สาวจะพาเจ้าไปกินของอร่อย" จือลู่มองของกินในมือแล้วพูดกับหนิงเฉิง น้องชายของนางยังกินพวกฟาสต์ฟู้ดอย่างเอร็ดอร่อยทำให้นางกินอร่อยไปด้วย
"พี่หญิงหากขายได้ราคาดี ท่านจะซื้อเรือนในเมืองจริงหรือ" หนิงเฉิงถามขึ้นทั้งที่ในปากยังเต็มไปด้วยของกิน
"จริง ข้าไม่ให้เจ้าลำบากอีกแล้วน้องข้า" จือลู่ขยี้หัวหนิงเฉิงอย่างเอ็นดู
"ผมข้ายุ่งหมดแล้ว" สองพี่น้องเล่นกันจนหายเหนื่อยก็เริ่มลงมือขุดอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าในตะกร้าของทั้งคู่มีเยอะแล้วก็พากันลงจากเขา เพราะเวลาก็ใกล้จะมืดแล้ว
เมื่อมาถึงด้านล่างก็ไม่พบใครเช่นเดียวกับตอนที่ขึ้นเขามา ทั้งคู่จึงเร่งฝีเท้าเพื่อนำถังเช่ากลับไปล้างและยังต้องผึ่งลมอีก พรุ่งนี้ทั้งคู่จะลองนำไปขายในเมือง
กว่าที่ทั้งคู่จะล้างทั้งหมดเสร็จเรี่ยวแรงก็แทบไม่เหลือ จือลู่รีบอาบน้ำเพื่อจะเข้านอน แต่ก็ถูกหนิงเฉิงรั้งไว้ให้กินข้าวต้มเสียก่อน ทั้งคู่รีบกิยเพื่อจะได้รีบเข้านอน จือลู่ท่องไว้ตลอดเวลา เหนื่อยเท่ากับรวย เหนื่อยเท่ากับรวย
ฟ้าใกล้สาง หนิงเฉิงที่ยังไม่ได้ยินเสียงพี่สาวลุกขึ้นจัดแจงก็ไปเคาะประตูห้องของจือลู่ จือลู่พี่เพิ่งรู้สึกตัวตื่นก็รีบร้อนเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปหาหนิงเฉิงที่เตรียมอาหารไว้ให้นางแล้ว
"ข้าตื่นสายใช่หรือไม่" จือลู่นั่งลงเพื่อกินข้าว
"พี่หญิงท่านไม่ต้องรีบยังพอมีเวลา เกวียนยังไม่ออกขอรับ ข้าเตรียมของเสร็จเรียบร้อยแล้ว" จือลู่พยักหน้าให้น้องชาย
และก็เป็นเช่นที่หนิงเฉิงว่า เขานำถังเช่าใส่ถุงผ้าเก่าๆจนเต็มสองตะกร้า ด้านบนยังนำผักป่าที่เก็บมาเมื่อวานวางไว้เพื่อบังจากสายตาของคนอื่น เมื่อมาถึงเกวียนวัว หนิงเฉิงเดินไปจ่ายเงิน เกวียนวัวก็ออกเดินทางทันที ตอนที่พวกเขามาถึงก็เหลือเพียงสองที่นั่งพอดี
สองชั่วยามที่นั่งโขยกเขยกมาตลอดทาง จือลู่กับหนิงเฉิงที่ต้องยืนนิ่งๆเสียก่อนเมื่อลงจากเกวียนวัว ก็เริ่มออกเดินสอบถามชาวเมืองว่าร้านขายยาที่ให้ราคายุติธรรมคือร้านใด
"แม่นางน้อย เจ้านำสมุนไพรไปขายที่ร้านยาฉือกัง ท่านหมอโยวให้ราคายุติธรรมกับเจ้าแน่นอน" แม่ค้าขายผักป่าบอกสองพี่น้อง
ทั้งคู่จึงรีบแบกตะกร้าเดินไปทางที่แม่ค้าชี้บอก เสี่ยวเอ้อหน้าร้านก็ไม่ได้ดูถูกทั้งคู่ที่สวมเสื้อผ้าเก่าๆ มีแต่รอยปะชุน แถมยังยิ้มรับพูดคุยสอบถามอย่างดี
"ไม่ทราบว่าพวกเจ้าต้องการขายสมุนไพรหรือซื้อยา"
"พี่ชาย ข้ามีสมุนไพรมาขายไม่ทราบว่าร้านท่านจะซื้อหรือไม่ขอรับ" หนิงเฉิงหยิบถังเช่าขึ้นมาหนึ่งกำมือ แล้วส่งไปให้เสี่ยวเอ้อ
"พวกเจ้ารอประเดี๋ยว ข้าต้องไปถามท่านหลงจู๊เสียก่อน" เพราะเขาไม่เคยเห็นสิ่งที่ทั้งคู่นำมา แต่ก็ไม่อาจไล่ไปได้ เพราะท่านหมอเคยสั่งไว้ หากพบสมุนไพรที่ไม่รู้จักให้มาสอบถามเสียก่อน จึงได้รีบเดินไปหาหลงจู๊ที่อยู่ภายในร้าน