ตอนที่ 6
สายตาที่คอยจับจ้อง
“สวัสดีค่ะนายหัวจะมาซื้อของเหรอคะ” พิมพ์พลอยทักทายด้วยความดีใจ
“อยากได้กาวดักหนูสักหน่อยน่ะ หนูที่สวนมันเยอะกำจัดยังไงก็ไม่หมดที่ร้านมีขายไหม” เขาพูดแล้วหันไปมองชายที่เอามือออกจากประตูและกำลังเดินคอตกกลับไปที่ร้านยาดอง
เสียงแซวเงียบสนิททำให้พิมพ์พลอยพอจะรู้ว่าคนพวกนั้นก็คงกลัวนายหัวธนธรรศอยู่บ้าง
“มีค่ะ นายหัวเอากี่กล่องดีคะ”
“เอามาสักสามกล่องนะ”
หญิงสาวเดินไปหยิบกล่องกาวดักหนูและใส่ถุงส่งให้นายหัว
“165 ค่ะ แต่พลอยลดให้นายหัวเหลือ 160 นะคะ”
“ของซื้อของขายไม่ต้องลดก็ได้” นายหัวหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโอนเงินให้กับเธอเต็มตามจำนวนก่อนลดราคา
“ขอบคุณนะคะนายหัว”
“ขอบคุณที่ซื้อของเหรอ” เขามองแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ นายหัวพอจะรู้ว่าเมื่อครู่หญิงสาวคงกลัวที่มีผู้ชายมายืนขวางขณะกำลังจะปิดร้าน
“ขอบคุณที่มาเป็นลูกค้าในเวลาที่พลอยกำลังอยากให้ใครสักคนมาช่วย”
“พวกนั้นทำอะไรคุณบ้าง”
“ไม่ได้ทำอะไรหรอกค่ะ พวกเขาเมาแล้วก็แซวไปตามประสา แต่วันนี้หนักหน่อยที่เขาเดินมาที่ร้านคงเพราะเห็นว่าพลอยอยู่คนเดียว”
“แล้วน้าอัมพรไม่มาช่วยเหรอ”
“พลอยบอกน้าอัมพรว่าไม่ต้องมาก็ได้เพราะตอนนี้พลอยขายคนเดียวคล่องแล้วพลอยเกรงใจน่ะค่ะ”
“กลัวไหม”
“ก็มีบ้างค่ะ แต่พวกเขาก็แค่เมา”
“ผมหวังว่าพวกเขาคงไม่ทำให้คุณกลัวจนกลับกรุงเทพหรอกนะ ถ้ากลับก็น่าเสียดายนะเพราะร้านคุณกำลังไปได้สวยเลย”
“ไม่หรอกค่ะ พวกเขาไม่ได้เมาทุกวัน ถ้าวันไหนเขาตั้งวงพลอยก็แค่ปิดร้านเร็วหน่อยก็แค่นั้นเองค่ะ ปัญหาแค่นี้ไม่ทำให้พลอยกลัวจนกลับหรอกนะคะ”
“เห็นหน้าสวยหวานแบบนี้ก็ใจเด็ดเหมือนกันนะครับ” นายหัวธนธรรศชมก่อนจะเดินขึ้นรถไป
พิมพ์พลอยปิดประตูร้านเรียบร้อยแล้วก็หยิบสมุดบัญชีรายรับรายจ่ายขึ้นมาเปิดออกและจดจ่ออยู่กับการคำนวณตัวเลข เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเธอก็อาบน้ำเข้านอน
นับตั้งแต่วันนั้นนายหัวธนธรรศแวะเวียนเข้ามาที่ร้านของพิมพ์พลอยบ่อยขึ้น ทุกสองสามวันเขาจะขับรถกระบะคันเดิมมาจอดหน้าร้าน แวะเข้ามาซื้อของเล็กๆ น้อยๆ อย่างน้ำดื่ม กาแฟกระป๋องหรือบางครั้งก็เบียร์เย็นๆ นายหัวหนุ่มมักจะเลือกช่วงเวลาที่ร้านไม่ค่อยมีลูกค้าอย่างช่วงบ่ายๆ หรือไม่ก็เวลาที่เธอกำลังจะปิดร้านเพื่อที่จะได้มีโอกาสพูดคุยกับหญิงสาวให้มากขึ้น
บ่ายวันหนึ่งขณะที่พิมพ์พลอยกำลังจัดของอยู่หลังเคาน์เตอร์ นายหัวธนธรรศก็เดินเข้ามาในร้าน เขาสวมเสื้อเชิ้ตลายตารางกางเกงยีนและรองเท้าผ้าใบ ดูเป็นกันเองกว่าครั้งแรกที่เจอแต่สายตาคมกริบคู่นั้นยังคงจ้องมองเธออย่างไม่วางตา
“วันนี้ลูกค้าเยอะไหมครับ” นายหัวธนธรรศทักทายก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้หินอ่อนหน้าร้าน
“ช่วงเที่ยงก็เยอะค่ะ แต่บ่ายๆ แบบนี้ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ นายหัวแวะมาทักทายหรือจะซื้ออะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวรู้สึกว่าช่วงนี้เขาจะมาที่ร้านของเธอบ่อยจนเกินไปแม้ทุกครั้งจะมาซื้อของแต่เธอก็พอมองออกว่านายหัวคนนี้กำลังสนใจเธออยู่
พิมพ์พลอยเลยพยายามจะเว้นระยะห่างไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนไม่ดีแต่เป็นเพราะตอนนี้เธอยังไม่พร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม
นายหัวธนธรรศก็รู้สึกถึงความเย็นชาที่หญิงสาวแสดงออก เขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร บางครั้งพิมพ์พลอยก็ดูยิ้มแย้มทักทายอย่างเป็นกันเองแต่บางครั้งก็เหมือนกับเธอมีอะไรอยู่ในใจ แววตาของเธอมีความเศร้าบนอยู่ที่
“เปิดร้านมานานเท่าไหร่แล้วนะ” เขาพยายามจะชวนเธอคุยให้มากขึ้น
“เกือบเดือนแล้วค่ะ” พิมพ์พลอยตอบวสั้นๆ เธอเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อยแล้วสบตากับนายหัวธนธรรศเพียงแวบเดียว ก่อนจะก้มหน้าหลบสายตาคมกริบคู่นั้น
เขามองพิมพ์พลอยด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก มุมปากของเขาหยักขึ้นเล็กน้อย คล้ายรอยยิ้มแต่ก็ไม่ใช่ เขาดูเหมือนจะสนุกกับการที่เธอพยายามรักษาระยะห่างต่างจากผู้หญิงหลายคนที่พยายามจะเข้าใกล้
“พลอยเตรียมเบียร์xxxไว้ให้ผมสองลังนะครับแล้วก็น้ำแข็งอีกสักสี่ถุงเย็นนี้ลูกน้องผมจะมาเอา”
“ได้ค่ะนายหัว”
“คุณคิดเงินเลย ผมจะจ่ายไว้ก่อน”
“1250 ค่ะสแกนใช่ไหมคะ”
“ครับ ถ้ายังไงผมขอไลน์พลอยไว้หน่อยได้ไหม เผื่อว่าลูกน้องผมจะซื้ออะไรเพิ่มพลอยก็ไลน์บอกผมจะ ผมจะได้โอนมาให้”
หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาให้เขาเพิ่มเพื่อจากนั้นเขาก็ขับรถกลับออกไป
เมื่อถึงเวลาเย็นลูกน้องของเขาก็มาเอาขอที่สั่งไว้ พวกเขาซื้อขนมไปอีกหลายอย่างแต่จ่ายเป็นเงินสดหญิงสาวจึงไม่ได้ไลน์บอกเขา
หลังจากปิดร้านแล้วพิมพ์พลอยก็เดินไปทานอาหารเย็นที่บ้านของน้าอัมพร
พิมพ์พลอยเข้าไปช่วยน้าสาวเตรียมอาหารค่ำอยู่ในครัว กลิ่นหอมของเครื่องแกงลอยคลุ้งไปทั่ว หญิงสาวยังคงคิดถึงเรื่องนายหัวธนธรรศ เธอรู้สึกแปลกๆ กับสายตาที่เขามักจะจ้องมองมาอย่างไม่ละสายตา
"น้าอัมพรคะ วันนี้นายหัวธรรศเขามาสั่งเบียร์ให้คนงานเยอะเลยค่ะ ปกติเขาซื้อจากที่ไหนคะ”
“ส่วนใหญ่ก็ซื้อมาจากในเมืองเพราะซื้อร้านแถวนี้ราคาแพงและมีไม่เยอะ ไม่เหมือนกับร้านของพลอยที่ลงของพวกนี้เยอะหน่อย พลอยมีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะก็แค่แปลกใจที่เขามาสั่งด้วยตัวเอง เขาชอบมาซื้อของอย่างอื่นด้วยนะคะ”
“นายหัวธรรศก็เป็นแบบนี้แหละลูก เขาเป็นคนชอบช่วยเหลือคนในหมู่บ้าน ใครเปิดร้านใหม่ก็มักจะมาอุดหนุน”
“ค่ะ” เธอแต่ในใจกลับไม่เชื่อคำอธิบายของน้าอัมพรเพราะสายตาของนายหัวธนธรรศมันไม่ใช่แค่มาอุดหนุนธรรมดา
“นายหัวเป็นคนจิตใจดีมีเมตตาเป็นที่รักของทุกคนที่นี่”
“น้าทำงานกับเขามานานแล้วเหรอคะ”
“น้าทำงานที่บ้านนั้นอยู่สองปีก่อนที่นายหัวจะกลับมา”
“นายหัวไปเรียนที่กรุงตั้งแต่เด็ก เขาไปอยู่กับยายที่นั่น แต่พอเรียนจบและคุณยายเสียเขาก็กลับมาช่วยงานพ่อที่นี่”
“เขาอยู่กับพ่อเหรอคะ”
“พ่อเขาเสียไปหลายปีแล้วตอนนี้นายหัวก็อยู่คนเดียว”
“แล้วครอบครัวล่ะคะ ลูกเมียไปไหน”
“ถามอะไรแบบนั้นล่ะ นายหัวธรรศแกน่ะโสดมานานแล้ว แต่ก่อนก็เคยมีแฟนนะ สวยเช้งเลยล่ะ เป็นเจ้าของร้านอาหารอยู่ในตัวเมืองชื่อคุณมัทนา”
“แล้วทำไมถึงเลิกกันล่ะคะ” เธอถามด้วยความอยากรู้
“น้าก็ไม่รู้รายละเอียดหรอกนะลูก แต่เห็นว่าเลิกกันไปนานแล้ว”
พลอยพยักหน้าช้าๆ ในใจรู้สึกคล้ายว่าเขาก็มีเรื่องราวในชีวิตที่ไม่ต่างจากคนทั่วไป และบางทีความเจ็บปวดจากความรักก็อาจจะเป็นสิ่งที่เขาเข้าใจได้ดีที่สุดเช่นกัน