บทที่ 6 เจอหน้าแม่สามี6/2

873 Words
“อย่ามัวแต่ตักอาหารให้แม่อยู่เลย หนูเองก็ทานบ้างเถอะลูก ตาแทนตักกับข้าวให้น้องหน่อยสิจ๊ะ” แทนชนม์แอบกลอกตาหลายรอบ มารดาเอาแต่สั่งให้เขาคอยเอาอกเอาใจตักกับข้าวให้รัญชนาไม่ขาด สองคนพุดคุยหัวเราะเข้าขากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย แม่มองตาเขาแล้วจงใจเอ่ยหลายครั้งว่ารัญชนาดีอย่างนั่นอย่างนี้ ไม่รู้ต้องทำบุญด้วยอะไร ท่านจึงจะได้หล่อนมาเป็นศรีสะใภ้ เอาจริงๆ ท่านทำราวกับหล่อนเป็นลูกสะใภ้คนโปรดไปแล้วด้วยซ้ำ ทั้งที่สะใภ้ตัวจริงยังอยู่ทั้งคน ส่วนบิดาแม้จะไม่ร่วมผสมโรง แต่แทนชนม์รู้ว่าท่านเห็นด้วยกับผู้เป็นแม่ พ่อเขาเป็นนักธุรกิจโดยเนื้อแท้ ท่านมองเพียงผลประโยชน์มากกว่าความรู้สึกที่ชอบปรามาสว่ามันช่างไร้สาระ มีแค่รักก็รังแต่จะทำให้เรากัดก้อนเกลือกิน เงินต่างหากที่จะบันดาลทุกสิ่งให้พวกเราได้ ฉะนั้นผู้หญิงที่ท่านยินดีอ้าแขนรับมาร่วมสกุลจะต้องมีเงินมาต่อเงินของท่าน “เดี๋ยวยังมีของหวานเป็นเค้กบลูเบอร์รีไขมันต่ำให้ลองชิมด้วยนะคะ รัญชน์ได้ยินว่าคุณแม่อยากทาน รัญชน์ก็เลยลองทำดูน่ะค่ะ อยากให้คุณแม่ได้ทานของอร่อยๆ” “ลูกสาวแม่นี่น่ารักจริงๆ กตัญญูรู้ความ ไม่เหมือนกับใครบางคนที่ไม่เคยโผล่หัวมาให้เห็นหน้า วันๆ ก็ดีแต่ใช้เงินผัวกับสร้างปัญหาไม่รู้จักหยุดจักหย่อน เกิดมาเป็นลูกชาวสวนจนๆ ก็แบบนี้แหละ ความรู้ต่ำไม่ได้รับการอบรมเรื่องมารยาท สู้หนูรัญชน์ไม่ได้เลยแม้แต่ปลายขี้เล็บ” แทนชนม์ขมวดคิ้ว มองรัญชนาที่ยิ้มรับบางๆ อย่างขัดตา ต้องบอกว่าผู้หญิงคนนี้ปากหวานรู้จักประจบเอาใจคนเก่ง พูดไม่กี่คำแม่เขาก็ปลาบปลื้มแทบจะประเคนลูกชายให้หล่อนแล้ว ผิดกับภรรยาเขาที่ท่านออกจะชังน้ำหน้า ไม่ว่าจะทำอะไรก็ล้วนไม่ถูกใจท่านไปหมด ขนาดยืนหายใจเฉยๆ ยังผิดเลย แล้วดูสิ...แสนคะนึงไม่อยู่ตรงนี้แท้ๆ แต่แม่เขาก็ยังจะหาเรื่องแขวะเธอจนได้ “ผมอิ่มแล้วครับ” เขารวบช้อนส้อม สีหน้าเรียบเฉย แต่ก็รู้ได้ไม่ยากกว่าแสนจะเบื่อหน่าย “แตะไม่ได้เลยนะเมียแกเนี่ย แม่นั่นทำของใส่แกรึไง ถึงได้รักได้หลงมันนัก รักมากกว่าฉันที่เป็นแม่แท้ๆ ของแกซะอีก” เนื้อทองมองลูกชายที่ไม่ได้ดังใจแล้วของขึ้นทันตา ไม่เข้าใจจริงๆ ว่ารัญชนาที่เพียบพร้อมแสนดีไปทุกอย่าง ทำไมแทนชนม์กลับไม่มองเห็นค่า ดันไปคว้าเอาก้อนกรวดสกปรกอย่างแม่แสนคะนึงมายกย่องเชิดชูให้นางขายหน้าเสียนี่ “หนูรัญชน์แสนดีออกแบบนี้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนเหมาะสมกับแกเท่าหนูรัญชน์อีกแล้ว แกเองก็เคยรักเคยชอบพอน้องมาก่อน ก็ถือเป็นคนคุ้ยเคยกันเอง หากจะกลับมาคบหาดูใจกันอีกครั้งก็คงไม่ยากเกินไปหรอก” “เราพูดกันเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้วนะครับคุณแม่ ผมกับรัญชน์เลิกกันมานานแล้ว และตอนนี้ผมก็แต่งงานแล้วด้วย คุณแม่อย่าลืมสิครับ” “แต่งได้ก็หย่าได้” แทนชนม์ถอนใจอย่างอ่อนอกอ่อนใจ บางครั้งเขาก็เหนื่อยกับการเอาแต่ใจของมารดา เป็นเพราะท่านรู้ดีว่าตัวเองป่วยเป็นโรคหัวใจ ซ้ำยังมีอาการหอบหืดร่วมด้วย ไม่สามารถทนรับแรงกระกระเทือนใจหนักๆ ได้เลย คนในบ้านจึงไม่มีใครกล้าขัดใจคุณหญิงเนื้อทอง ท่านพูดอะไรบอกคำไหนต้องเป็นคำนั้น จนบางครั้งก็ดูจะเกินเลย ไม่เคยนึกถึงหัวจิตหัวใจของคนฟังบ้างเลย “คุณแม่ก็ออกจะไปวัด ฟังเทศน์ฟังธรรมอยู่บ่อยๆ นะครับ แต่ทำไมถึงชอบยุให้ผมทำผิดศีลข้อสามจังเลยล่ะครับ” เขาอดที่จะเหน็บท่านเบาๆ ไม่ได้ “นี่แกว่าฉันเหรอตาแทน แกเห็นเมียดีกว่าแม่ใช่มั้ย” เนื้อทองชักสีหน้าถามเสียงขุ่น ค้อนลูกชายตาเขียวปั้ด “ผมไม่เห็นใครดีกว่าคุณแม่หรอกครับ แต่คุณแม่ก็พูดอยู่ว่าผมมีเมีย คุณแม่ก็น่าจะจำได้นะครับว่าผมแต่งงานแล้ว และลูกสะใภ้ของคุณแม่ชื่อแสนคะนึง ไม่ใช่คนอื่น” แทนชนม์ตอบท่านอย่างใจเย็น ไม่ปรายตามองคนที่เขานับเป็น ‘คนอื่น’ แม้แต่หางตา “ที่ฉันทำเพราะฉันหวังดี อยากให้แกได้คนดีๆ ที่เชิดหน้าชูตาอยู่เคียงข้างกับแกได้อย่างเหมาะสมคู่ควรต่างหาก ไม่ใช่เอาลูกตาสีตาสาที่ไหนก็ไม่รู้มาชุบตัวให้คนอื่นเขานินทากันสนุกปาก สร้างความอับอายขายขี้หน้าเขาไปทั่ว” “ใครอยากจะพูดก็พูดไปสิครับ ผมไม่แคร์”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD