ไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหน แสนคะนึงงัวเงียตื่นขึ้นมาอีกครั้งตอนที่มีคนมาสะกิดปลุกเธอเสียงดังว่า
“คุณ! คุณ! ออกไปได้แล้ว มีคนมาประกันตัวแล้ว”
ใคร?
หญิงสาวนิ่วหน้าสงสัย ขณะยันกายลุกขึ้นเดินตามนายตำรวจออกมาจากห้องขัง มองไปยังคนที่ยืนรอเธออยู่แล้วก็นึกแปลกใจไม่น้อย
ไรวินท์?
เจ้าตัวเอ่ยอะไรบางอย่างกับนายตำรวจยศใหญ่อีกสองสามคำ ก่อนจะค้อมศรีษะลงอย่างสุภาพ แล้วเดินเข้ามาหาเธอที่ยืนนิ่งไม่ไหวติง เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า
“กลับบ้านได้แล้วครับ”
แสนคะนึงอยากจะถามเขา แต่ที่นี่ตรงนี้ดูจะไม่เหมาะ เธอจึงเดินตามเขาไปขึ้นรถยุโรปคันหรูที่มีคนพลขับเปิดประตูรอรับอยู่ก่อนแล้ว หลังนั่งประจำที่เรียบร้อย
“เจ้านายคุณนึกยังไงคะ ถึงได้ส่งให้คุณมาประกันตัวฉัน” ทั้งๆ ที่เธอทำร้ายคนรักของเขาเฉียดความตาย โอกาสเหมาะแบบนี้เขาน่าจะจับเธอยัดตะรางติดคุกให้หัวโต ส่วนตัวเองก็มีข้ออ้างหย่าขาดกับเธอ แล้วไปแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นแทน
ไรวินท์ไม่ได้ตอบเธอทันที เขาหยิบซองเอกสารที่เธอเห็นก่อนหน้านี้ขึ้นมาวางบนตัก สายตามองตรงไปข้างหน้าไม่เหลือบมองเธอ ขณะเอ่ยว่า
“เห็นแก่ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา บอสจึงยอมช่วยคุณเป็นครั้งสุดท้าย คุณรัญชนาและครอบครัวจะไม่ติดใจเอาเรื่องคุณอีก แต่แลกกับการที่คุณจะต้องเซ็นชื่อลงในข้อตกลงการหย่าฉบับนี้ ถ้าคุณยอมเข้าใจอะไรง่ายๆ และไม่สร้างเรื่องวุ่นวายอีก บอสจะยกคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้คุณอีกห้องหนึ่งด้วย” เขายื่นเอกสารมาให้เธอพร้อมกับเอ่ยด้วยความหวังดีว่า
“นี่เป็นสิ่งที่บอสทำเพื่อคุณอย่างมากที่สุดแล้ว อย่าดื้ออีกเลยครับ เซ็นชื่อซะเถอะ ก่อนที่คุณจะไม่เหลืออะไรเลย”
แสนคะนึงเลิกคิ้วมองคนโฆษณาเชิญชวนที่สวมบทนักขายมือทอง ก่อนหลุบตามองเอกสารแล้วรับมาโดยไม่ลังเล มือของเธอสั่นน้อยๆ ไม่ใช่เพราะความเสียใจ แต่กำลังตื่นเต้นดีใจจนเก็บทรงไม่อยู่
ทั้งเงินเอย... บ้านเอย... คอนโดเอย...
นี่เธอกำลังจะรวยแล้วใช่ไหม?
แค่เซ็นชื่อคลิกเดียวเธอก็จะกลายเป็นเศรษฐีนีทันที กรี๊ดดดด! จะมีอะไรที่น่าดีใจไปมากกว่านี้อีกล่ะ...
แต่งงานมาสามปี ถึงไม่ได้ความรัก แต่ก็ได้ข้าวของเงินทองจากว่าที่สามีเก่ามาช่วยเยียวยาหัวใจ ถือว่าคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม แม้ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาเราอยู่ด้วยกันอย่างไร แต่ตอนนี้ถึงไม่มีเขาเธอก็อยู่ได้สบายๆ โดยที่ไม่มี ผลกระทบอะไรเลย
เธอจำสามีไม่ได้...
แต่เธอจำทุกอย่างนอกจากเขาได้หมด จำพ่อแม่พี่น้องและเพื่อนสนิทได้ จำการใช้ชีวิตประจำของตัวเองได้ดี หน้าที่การงานของเธอก็ไม่เลว แค่ลืมเขาไปสักคนคงไม่เป็นไรหรอก สามีคนนี้จะมีหรือไม่มีก็ไม่จำเป็นสำหรับเธอ ใครที่อยากเซ้งต่อผัวห่วยๆ ของเธอก็เอาไป เธอไม่เสียใจหรือเสียดายเลยสักนิด ออกจะยินดีจนอยากควักผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา แล้วแถมอาหารหมาสักสองสามกระสอบให้ผู้หญิงโชคร้ายรายต่อไปเสียด้วยซ้ำ
แสนคะนึงรับปากกาจากเลขาหนุ่มตวัดลายเซ็นลงท้ายกระดาษอย่างรวดเร็ว ยื่นคืนพร้อมรอยยิ้มเบิกบานให้เขา เอ่ยย้ำชัดๆ ว่า
“เรียบร้อยแล้วค่ะ ช่วยจัดการเรื่องหย่าของฉันให้เร็วที่สุดด้วยนะคะ” เธออยากจะนอนนับเงินก้อนโตใจจะขาดแล้ว
ไรวิทน์ตะลึงจนเกือบอ้าปากค้าง เขาพลิกกระดาษเพ่งมองลายชื่อของหญิงสาวอยู่นานแทบทะลุ ไม่อยากจะเชื่อจริงๆ ว่าทุกอย่างจะง่ายยิ่งกว่าผายลมเสียอีก ทีแรกยังคิดว่าตัวเองรับบทหนัก ต้องชักแม่น้ำทั้งโลกมาพูดจาหว่านล้อมให้แสนคะนึงยินยอมเสียอีก แต่ยังไม่ทันจะอ้าปากทุกอย่างก็จบลงเรียบร้อยแล้ว
เลขาหนุ่มนั่งอึ้งอยู่นานกระทั่งแสนคะนึงส่งเสียงทัก ไรวินท์จึงกระแอมเบาๆ เอ่ยกับเธอด้วยสีหน้านิ่งขรึมว่า
“ผมจะรีบจัดการทุกอย่างโดยเร็วที่สุดครับ”
“ขอบคุณค่ะ” แสนคะนึงยิ้มรับอย่างพอใจ
เมื่อเสร็จธุระรถยนต์ก็ขับเคลื่อนมุ่งตรงไปยังเรือนหอที่แสนคะนึงพักอยู่ คล้อยหลังพอส่งเธอปุ๊บ ไรวินท์ก็ต่อสายตรงถึงเจ้านาย
“คุณแสนคะนึงยอมเซ็นแล้วครับ”
หัวคิ้วของแทนชนม์ขมวดมุ่นเป็นร่องลึกทันที ถามย้ำเสียงขุ่นเข้มอย่างคาดไม่ถึง
“ว่าไงนะ!?”