บทที่ 3 ลืมแล้วลืมเลย3/4

974 Words
“อีบ้า! แกกล้าทำร้ายฉันเหรอ” ระรินทิพย์ร้องโวยวายลั่นโรงพยาบาล กระทืบเท้าเต้นเร่าๆ เหมือนเด็กอนุบาลที่โดนขัดใจ ดูแล้วน่าเกลียดและเอือมระอากับผู้คนที่ได้พบเห็น “คุณทำร้ายฉันก่อน จะให้ฉันอยู่เฉยๆ รึไงคะ ฉันเองก็เป็นคนเหมือนกับคุณ มีสิทธิ์ป้องกันตัวเท่าเทียมกัน” แสนคะนึงสวนเสียงแข็ง “อ๊าย! อย่าเอาคนระดับฉันไปเทียบกับผู้หญิงชั้นต่ำอย่างแกนะยะ แกน่ะมันเป็นแค่ผู้หญิงหิวเงินที่หวังจะรวยทางลัด ใช้เต้าไต่หวังเกาะผู้ชายรวยๆ กินไปวันๆ เชอะ...ริจะทำตัวเป็นหนูตกถึงข้าวสาร แต่อย่างดีแกมันก็เป็นได้แค่เมียน้อยหน้าด้านเท่านั้นแหละ” ทีแรกแสนคะนึงแค่หงุดหงิดนิดหน่อย แต่พอฟังยัยป้าปากคอเราะรายเหยียดหยามเหมือนจะเหยียบกันให้จมดินอย่างนี้ เธอก็สุดจะทนเหมือนกัน หญิงสาวแสยะยิ้มมองเหยียดตอบกลับ พร้อมกับสาดคำพูดที่ฟังแล้วแสบไปทรวงคนฟัง “คุณกำลังยัดเยียดตำแหน่งเมียน้อยที่ลูกสาวของคุณพยายามอยากจะเป็นให้ฉันงั้นเหรอคะ แต่ขอโทษทีนะ ฉันมีจิตสำนึกมากพอคงหน้าด้านไม่เท่ากับลูกของคุณหรอกค่ะ” “อีบ้า! อีผีเจาะปากมาพูด! ใครเป็นเมียน้อยใครห้ะ แกนั่นแหละที่เป็นมือที่สามระหว่างแทนชนม์กับยัยรัญชน์” “ตำแหน่งเมียหลวงน่ะมันไม่วัดกันที่ใครมาก่อนมาหลังหรอกนะคะ แต่วัดกันที่ใครมีทะเบียนสมรสอยู่ในมือต่างหาก ฉันจดทะเบียนอย่างถูกต้องกับสามี ส่วนลูกสาวคุณอาศัยหนังหนาๆ หน้าด้านๆ เที่ยวควงสามีของฉันร่อนไปทั่วอย่างไม่ละอาย นี่ฉันก็ยังไม่รู้เลยว่าวันดีคืนดีลูกสาวคุณจะแอบปีนขึ้นมาบนเตียงของเรา แล้วขอนอนกับสามีของฉันตอนไหน” ระรินทิพย์โกรธจนตัวสั่นเทิ้ม เกิดมาหล่อนไม่เคยอับอายขายขี้หน้าขนาดนี้มาก่อน นังเมียแต่งแทนชนม์ด่าหล่อนยังไม่พอ ยังลากลูกสาวหล่อนมาปู้ยี่ปู้ยำด้วยคำว่า ‘ชู้’ จนแปดเปื้อนมัวหมอง หล่อนไม่ยอมเด็ดขาด หล่อนจะตบสั่งสอนมันให้เลือดกบปาก หล่อนคิดแต่ยังไม่ทันได้ลงมือ แสนคะนึงก็ชูกำปั้น เอ่ยอย่างเอาเรื่องว่า “ถ้าคุณคิดตัวเองมีมืออยู่ฝ่ายเดียว...ก็ลองดู! คราวนี้ฉันจะไม่อ่อนข้อให้คุณแล้ว ถึงจะเป็นคนแก่ แต่ถ้าทำตัวน่าหมั่นไส้มากๆ ฉันก็ตบไม่เลี้ยงเหมือนกัน” ระรินทิพย์ชะงัก ไม่กล้าผลีผลามพุ่งเข้าไปให้เจ็บตัว หล่อนเลิ่กลั่กมองหาตัวช่วย ก่อนจะผุดยิ้มร้าย หันมาเอ่ยกับแสนคะนึงเสียงอ่อนราวกับผู้ใหญ่กำลังสั่งสอนเด็กด้วยความหวังดีว่า “แสนคะนึง เธอว่าฉันแล้วไม่ขอโทษก็ไม่เป็นไร แต่เธอไม่ควรพูดจาไม่ให้เกียรติฉันกับลูกสาวแบบนี้นะ การที่เธอกล่าวหาว่าลูกฉันเป็นชู้กับสามีเธอทั้งที่ไม่มีหลักฐาน เธอเคยคิดบ้างมั้ยว่าผลเสียมันจะตกอยู่ที่ใคร ไม่ใช่แค่ฉันกับยัยรัญชน์เท่านั้นนะ แต่แทนชนม์ก็จะพลอยเสียชื่อไปด้วย เธอเป็นภรรยาของเขา ควรจะคิดตระหนักให้มากกว่านี้ อย่าทำอะไรลงไปเพราะอารมณ์หรือเอาแค่ความสะใจเป็นที่ตั้งเลยนะ” แสนคะนึงงุนงงกับท่าทีที่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังเท้าของคู่กรณี แต่พอเหลือบมองไปยังทิศทางที่หล่อนปรายตาก็ค้นพบคำตอบ “ฉันกล่าวหาลูกสาวคุณรึเปล่า เธอน่าจะรู้ดีแก่ใจนะคะ ไม่มีผู้หญิงดีๆ คนไหนเอาตัวเข้ามาพัวพันกับผู้ชายที่แต่งงานแล้วหรอกค่ะ นอกเสียจากว่าเธออยากจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘เมียน้อย’ จริงมั้ยคะคุณรัญชนา” เธอหันไปเอ่ยถามหญิงสาวที่ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของสามียิ้มๆ ไม่ได้เกรงกลัวเลยว่าแทนชนม์ได้ยินแล้วจะไม่พอใจ เธอก็แค่พูดความจริง ทำไมต้องกลัว...!? “หนึ่ง! คุณพูดบ้าอะไร?” แทนชนม์ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเยียบเย็นติดลบ “ฉันแค่พูดเรื่องจริง” “แทนคะ...” รัญชนาที่ยกมือโอบรอบลำคอมองเขาน้ำตาคลอ สีหน้าเจ็บปวดช่างดูน่าเศร้าน่าสงสารจนคนทนไม่ได้ที่หล่อนถูกรังแก แทนชนม์หันมองภรรยาอีกครั้งด้วยดวงตาแข็งกร้าว สั่งเสียงเฉียบว่า “ขอโทษรัญชน์กับคุณน้าระรินทิพย์เดี๋ยวนี้ รู้มั้ยว่าเรื่องไม่เป็นเรื่องที่คุณพูดไปเรื่อยเปื่อย มันส่งผลกระทบกับคนอื่นมากแค่ไหน ผมไม่ชอบที่คุณพูดจาน่าเกลียดแบบนี้ ไปเรียนรู้มาจากที่ไหน” แสนคะนึงเป็นคนธรรมดาอาจไม่มีผลกระทบ แต่รัญชนาเป็นนางแบบที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก มีผู้คนและแฟนคลับติดตามจำนวนมาก จึงเป็นเป้าหมายที่นักข่าวต่างก็อยากจะเล่นข่าว เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ส่งผลต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงของหล่อนได้แล้ว ที่สำคัญยังส่งผลกระทบโดยตรงกับบริษัทด้วย เกิดนักข่าวมาได้ยินเข้าคงเอาไปเขียนข่าวฉาวกันสนุกมือละคราวนี้ อีกอย่างเขาเองก็รำคาญที่ต้องอยู่ท่ามกลางสงครามน้ำลายของพวกผู้หญิงเต็มกลืนแล้ว แสนคะนึงยิ้มเยาะ นี่เขาพูดแบบซอฟต์ๆ แล้วใช่ไหม ใจจริงคงอยากจะพูดว่าเธออย่าเอานิสัยต่ำๆ ตามกำพืดมาใช้กับพวกเขาเสียมากกว่า เธอส่ายหน้าพลางยิ้มเยาะ ทั้งๆ ที่เขาไม่รู้เรื่อง แถมไม่ฟังอีร้าค่าอิรมก็ด่วนตัดสินว่าเธอผิดเสียแล้ว “นิสัยน่าเกลียดพวกนี้ ฉันก็เรียนรู้มาจากพวกคุณทั้งนั้นแหละค่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD