“จะเดินมาขึ้นดีๆ หรือต้องให้ใช้กำลัง”
แสนคะนึงเย็นยะเยือกสะท้านไปทั้งตัว ไม่ได้กลัวว่าเขาจะตบตี แต่สายตาโลมเลียอยู่แถวๆ เนินอกลากต่ำมาที่กลางตัวบอกให้รู้ว่าคำว่า ‘ใช้กำลัง’ ที่เขาพูดถึงคือแบบไหน และจะสร้างความอับอายให้เธอชนิดที่ไม่อาจจะสู้หน้าใครได้อีก
แสนคะนึงไม่กล้าเสี่ยง ผลลัพธ์อาจเลวร้ายเกินกว่าที่เธอจะกล้าวัดใจกับผู้ชายอารมณ์แปรปรวนเช่นแทนชนม์ เลยต้องยอมเขาไปก่อนแล้วค่อยหาโอกาสหนีทีหลัง เธอแทบกลั้นหายใจเมื่ออดีตสามีเข้ามานั่งเคียงข้าง มือสั่นเทาจนเสียบล็อกเข็มขัดนิรภัยผิดๆ ถูกๆ น่าแปลกที่แทนชนม์ไม่ได้ออกรถแบบกะทันหันเหมือนขามา เขารออย่างใจเย็นให้เธอคาดเข็มขัดนิรภัยสำเร็จ แล้วจึงเหยียบคันเร่งอย่างไม่ช้าไม่เร็ว
หญิงสาวนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้เขาโดยไม่ปริปาก สายตาคอยสอดส่องสองข้างทางอย่างระแวดระวัง จากทิวทัศน์ที่เป็นตึกคอนกรีดเริ่มเปลี่ยนเป็นต้นไม้และต้นหญ้าป่ารกชัฏ ทำให้รู้ว่าเขากำลังจะออกจากเขตชานเมือง เธอไม่รู้เลยว่าแทนชนม์จะไปที่ไหน ยิ่งไม่รู้ก็ยิ่งคิดไปสารพัด อดกลัวไม่ได้ว่าเขาโกรธเธอจนถึงขั้นจะพาไปฆ่าหมกป่ารึเปล่า สุดท้ายก็ทำใจเย็นไม่ไหว เอ่ยปากถามเขาเสียงสั่นว่า
“คะ คุณจะพาฉันไปไหนคะ” แสนคะนึงนั่งกระสับกระส่าย เมื่อบริเวณรอบๆ เริ่มเปลี่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ ตรงกับความคิดด้านร้ายๆ ที่ฝังอยู่ในหัว นึกเสียใจจริงๆ ที่ตัวเองดันคิดตื้นๆ จนยอมขึ้นรถมากับผู้ชายอันตรายคนนี้ง่ายๆ
“กลัวรึไง” แทนชนม์ไม่ตอบ แต่ถามกลับเสียงขรึม
ไม่กลัวก็บ้าแล้ว!
แสนคะนึงนั่งหน้าซีดปากสั่น กลัวถึงขั้นพูดไม่ออก เมื่อจินตนาการไปถึงวิธีการตายแสนโหดเหี้ยมที่เขาจะมอบให้เธออย่างน่าสยดสยอง ทำให้แผ่นหลังของเธอเย็นวาบเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ สองมือสองเท้าเย็นเฉียบ น้ำตาคลอเบ้าคิดถึงพ่อแม่จับใจ เธอยังไม่ทันจะได้ร่ำลาพวกท่านเลยสักคำ ก็ต้องมาตายอย่างน่าอนาถโดยที่พ่อแม่ไม่รู้
“คะ คุณจะฆ่าฉันเหรอคะ...” เธอกลั้นใจถามให้รู้กันไปเลย
แทนชนม์ขมวดคิ้วมุ่น ผู้หญิงคนนี้คิดบ้าอะไรอยู่ เธอเป็นเมียเขาทั้งคน คิดว่าเขาจะใจดำอำมหิตถึงขั้นฆ่าเธอได้ลงคอเลยหรือ...
“คุณคิดไปถึงไหนเนี่ย” เขาหันมาถามอย่างไม่สบอารมณ์
“กะ ก็...คุณพาฉันมาที่เปลี่ยวๆ ...” แสนคะนึงก้มหน้างุดไม่กล้าพูดต่อ
ก็ทางจะไปหัวหินมันต้องผ่านทางนี้นี่นา...
แทนชนม์รู้สึกว่าเมื่อกี้เขาใจร้อนมากเกินไป ทีแรกก็ตั้งใจจะไปง้อเธอดีๆ แต่พอเห็นเธอกินยาคุมต่อหน้าเขาก็โมโหจนฟิวส์ขาด อารมณ์ชั่ววูบทำให้เขาด่วนตัดสินใจหย่ากับเธอ พอรู้ตัวอีกทีเขาก็เสียใจทีหลังแล้ว ไม่น่าประชดประชันกันอย่างนี้เลย ต่อให้จะทะเลาะกันสักร้อยครั้งพันครั้ง ใจเขาก็ไม่เคยมีความคิดนี้อยู่ในหัวเลยสักนิด
เขาคิดว่ามันคงจะดีหากเราได้เปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวกันบ้าง อาศัยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นใจให้สองเราได้ปรับความเข้าใจกัน เลยตั้งใจขับรถพาเธอไปที่บ้านพักตากอากาศหัวหินที่แสนคะนึงร่ำร้องอยากให้เขาพาไปเที่ยวบ่อยๆ รอตอนที่เธออารมณ์ดีใจเย็นลงแล้วมอบของขวัญให้เธอสักชิ้น แสนคะนึงก็จะกลับมาคืนดีกับเขา เลิกสร้างปัญหาและกลับมาเป็นเมียที่อ่อนหวานน่ารักของเขาตามเดิม
ใครจะคิดว่าเธอจะกลัวจัดถึงขนาดคิดว่าเขาจะพามาฆ่าหมกป่า!
คิดๆ แล้วก็น่าน้อยใจชะมัด
ในสายตาเธอเขาเป็นคนชั่วช้าที่หาดีไม่ได้เลยรึไง?
“เรากำลังจะไป...”
ยังไม่ทันจะบอกจุดหมายปลายทาง เสียงสมาร์ตโฟนก็ดังแทรกขึ้นก่อน แทนชนม์เหลือบมองแล้วถอนหายใจเบาๆ ไม่อยากรับ แต่ก็ต้องรับ เพราะปลายสายอาจจะมีเหตุด่วนหรือธุระสำคัญ
“ว่าไงครับรัญชน์”
แทนชนม์จงใจพูดให้คนนั่งข้างได้ยินด้วย เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และอยากจะเช็กปฏิกิริยาของเธอไปในตัวว่าจะหึงเขารึเปล่าที่มีผู้หญิงคนอื่นโทร. มาหา แต่แสนคะนึงเอาแต่นิ่งเงียบ นั่งก้มหน้ากุมมือที่สั่นเทาแน่น สีหน้าเผยชัดว่าอยากจะกลับบ้านเต็มที
ชายหนุ่มถอนหายใจ หงุดหงิดนิดๆ ที่เธอไม่สนใจไยดีเขาเลย เขาว่ากันว่าถ้าผู้หญิงยังทำตัวงี่เง่าเอะอะโวยวายหรือแสดงความหึงหวงออกมาเต็มที่ แปลว่าเธอยังรักเราอยู่ แต่เมื่อไรก็ตามที่เธอนิ่ง ไม่พูดไม่หือไม่อือ จงระวังตัวเอาไว้ให้ดี เพราะนั่นแปลว่าเธอหมดใจแล้ว ถ้าเป็นอย่างที่เขาว่ากัน สู้ให้แสนคะนึงประชดหรือตามอาละวาดเขาเหมือนเมื่อก่อนยังดีเสียกว่า เขาจะได้รู้สึกใจชื้นว่ายังพอมีความสำคัญอยู่ในหัวใจเธอบ้าง และคงไม่ต้องมาปวดใจอยู่อย่างนี้
“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนครับ” แทนชนม์เอ่ยถามรัญชนาที่กำลังหวาดกลัวหนัก เพราะรถเกิดยางแตกตรงทางเปลี่ยว ไม่มีบ้านคนสักหลังที่จะสามารถขอความช่วยเหลือได้
“คุณรอผมอยู่ที่นั่นนะครับ ผมจะรีบไป” เขากำชับคนในสายแล้วพร้อมกับวกรถกลับเข้าตัวเมืองทันทีไม่ได้ห่วงคนไกลมากกว่าความรู้สึกของคนใกล้ตัว เขาแค่ไม่อยากให้แสนคะนึงรู้สึกหวาดกลัวไปมากกว่านี้ ไม่อยากบีบบังคับให้เธอทำในสิ่งที่ไม่เต็มใจ แถมวันนี้ก็ฤกษ์ไม่ดีแล้ว ถึงไปเที่ยวก็คงไม่สนุก เอาไว้เขาค่อยหาทางชดเชยให้แสนคะนึงวันหลังก็แล้วกัน