เขม เขมณัฐ
จนกระทั่งรถทั้งสองขับมาถึงบ้านหลังใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งมองจากภายนอกสามารถรู้ได้เลยว่าเจ้าของบ้านมีเชื้อสายจีนเป็นแน่ เพราะมีรูปปั้นสัตว์นำโชคไม่ว่าจะเป็นมังกร เต่าและปลาคาร์ฟถูกจัดตั้งวางไว้บริเวณหน้าบ้านตามหลักฮวงจุ้ยอย่างเคร่งครัด
รถยนต์ที่ดาราหนุ่มนั่งมาถึงบันไดทางขึ้นบ้านพวกเขาก้าวขาลงจากรถยนต์ ควีนที่เพิ่งขับรถตามมาถึงก็รีบวิ่งมาตัดหน้าพวกเขาในทันทีเช่นกัน แล้วส่งเสียงดังเอะอะโวยวายใส่กลุ่มดาราหนุ่มเสียงดังเข้าไปในบ้าน ไม่นานก็มีหญิงวัยกลางคนรูปร่างขาวอวบ คิ้วโก่ง ปากแดง ใส่ชุดกี่เพ้าสีแดง ถือพัดสีขาวเดินออกมาหน้าประตูเพื่อมาดูเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น
"เหลียวๆ พวกลื๊อเป็งคายมาโวยวายหน้าบ้างอั๊วทามมาย!?..." หล่อนร้องห้ามเสียงดังลั่นจึงเป็นเหตุให้ทุกคนหยุดชะงักแล้วหันมาที่หล่อนเป็นตาเดียว
"แม่! ช่วยหนูด้วย” เสียงออเซาะหลุดออกจากปากลูกเจ้าของตลาดผิดกันกับคนละคนที่ตลาดโดยสิ้นเชิง ทุกคนที่ได้ยินควีนเรียกแทนตัวเองว่าหนูก็อุทานออกมาพร้อมกันในคำนั้นด้วยเช่นกัน
"หนู!!?"
"อาควีนลื๊อเปงราย แล้วพาคายมาบ้างของเราล่ะลูก?" เจ๊หยกเดินเข้าสวมกอดลูกชายด้วยความสงสัยแล้วสำรวจผู้มาเยือน ทันทีที่สายตาของหล่อนมองมาเห็นดาราหนุ่มอย่างทิชา หล่อนรีบปล่อยแขนออกจากลูกชายแล้ววิ่งมาหยุดยืนที่ด้านหน้าทิชาก่อนจะส่งยิ้มหวานๆ ให้แก่ดาราหนุ่มจนแก้มของหล่อนแทบแตก
"ทิชา ทิชานนท์ ทิชาจริงๆ ด้วยเจอกันอีกแล้วนะคะ พี่หยกรู้สึกโชคดีจริงๆ เลย ขอจับมือหน่อยได้ไหมคะและขอเซลฟี่ด้วยนะคะ..." สำเนียงจีนของหล่อนหายไปไหนแล้ว ทุกคนดูตกใจกับการพูดจาของหล่อนแต่ไม่ใช่ทิชา
"ได้ครับพี่หยก ผมก็ดีใจที่ได้มาหาพี่หยกถึงที่บ้านครับ"
"ถ้าพี่หยกถ่ายทอดสดบน Facebook ล่ะก็ เพื่อนๆ ของพี่ต้องอิจฉาแน่ๆ เลยค่ะน้องทิชา"
"ได้สิครับ ตามใจพี่หยกเลยครับ"
คนทั้งสองคุยกันสนุกสนานคุ้นเคยเป็นอย่าง มีเสียงหัวเราะและรอยยิ้มแต่งแต้มบนใบหน้า ก่อนที่ทิชาจะหันมายิ้มเย้ยลูกชายเจ๊หยกด้วยสีหน้าสะใจ ควีนถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกใจในพฤติกรรมของแม่ ก่อนที่เขาจะรวบรวมสติและถามคำถามกับแม่ของเขา
"แม่รู้จักมันด้วยเหรอ?" ควีนถามด้วยน้ำเสียงสงสัย
"อาควีนทามมายลูกปายเรียกอาทิชาของอั๊วแบบนั้งล่ะ ไม่น่าลักเลย อั๊วรู้จักอีมาตั้งนางแล้ว ตามอีเว๊งต่างๆ อั๊วก็ปายนะ ลื๊ออย่ามาเรียกซุปสตาร์ของอั๊วแบบนี้อีกน๊า อั๊วม่ายชอบ!" สำเนียงจีนกลับมาอีกครั้งเมื่อหล่อนหันมาพูดกับลูกชายสุดที่รัก ก่อนที่จะหันไปถามซุปสตาร์ของหล่อนอีกครั้ง
"พี่ว่าทิชาต้องมีอะไรแน่เลยถึงได้มาบ้านพี่ได้" สำเนียงจีนหายไปเรื่อยๆ เมื่อพูดกับทิชา
"พี่หยกยังรู้ใจผมเหมือนเดิมเลยนะครับ สมแล้วที่เป็นแฟนคลับอันดับ 1 ของผม คือผมมีเรื่องรบกวนพี่หน่อยน่ะครับ ผมอยากจะถามพี่ว่าครอบครัวของเขมเขาติดหนี้พี่เท่าไหร่ครับ" ดาราหนุ่มเอ่ยถามขณะที่เขาจับมือของเจ๊หยกเข้ามากุมไว้อย่างน่ารักน่าใคร่
"มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ ถึงมาถามเรื่องนี้กับพี่"
"คือวันนี้ผมเป็นต้นเหตุทำให้เขาต้องเจ็บตัวแทนผมอ่ะครับ ผมเลยอยากจะช่วยเขาให้เป็นอิสระจะได้ไม่ต้องเป็นหนี้และโดนรังแกอีก แต่พี่หยกไม่ต้องกังวลนะครับ หากเขมไม่มีงานทำ เดี๋ยวผมให้มาทำงานกับผมก็ได้ ตอนนี้ผมต้องการคนดูแลบ้านอยู่เหมือนกันครับ"
ควีนได้ฟังดาราหนุ่มร้องขอจากแม่ของเขาแบบนั้นยิ่งทำให้เขารู้สึกร้อนรนมากขึ้นไปอีก แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรหากแม่ของเขายินยอมทำตามคำขอของทิชา ในจังหวะเดียวกันที่แมคเดินเข้ามาหาดาราอยู่เพื่อบอกอะไรบางอย่างแก่ทิชา
"น้องทิชาครับคุณอานภาโทรมาอีกรอบหนึ่งแล้วใกล้จะได้เวลาแล้วนะครับ"
ก่อนที่ทิชาจะพยักหน้าให้กับพี่ชายเป็นรอบที่ 3 ตั้งแต่มาถึงบ้านของเจ๊หยก
"แม่หนูไม่ยอมให้เขมไปไหนทั้งนั้น เขาเป็นคนดูแลหนูนะถ้าเขาไปแล้วใครจะมาดูแลหนูล่ะครับ?"
น้ำเสียงของควีนแสดงออกถึงความเจ็บปวดจากความรู้สึกอะไรบางอย่างภายในใจของเขา ซึ่งทำให้คนเป็นแม่รับรู้และสัมผัสได้ถึงความรู้สึกนั้น
"อั๊วเข้าจายนายความรู้สึกของลื๊อนะอาควีน จากที่อาทิชาเล่าให้อั๊วฟังอั๊วก็ลู้แล้วว่าลื๊อต้องลงไม้ลงมือกับอาเขมชายม๊าย ลื๊อทามทามมาย ลื๊อก็ลู้ว่าอั๊วม่ายชอบความรุนแรง ตองนี้ก็ขึ้งอยู่กับอาเขมคงเดียวแล้ว อั๊วตามใจลื๊อนะอาเขม"
น้ำเสียงและท่าทางที่แสดงถึงความเมตตาของเจ๊หยกทำให้ทุกคนรู้สึกซาบซึ้งกับการมีน้ำใจและความเป็นคนใจดีของหล่อน ทุกคนต่างยืนรอคำตอบจากเขมอย่างตั้งใจ
ด้วยความรู้สึกมากมายที่รุมเร้าในจิตใจของเขาจนเกิดความลังเลอยู่นาน พลางส่งสายตามองมาทางควีนลูกเจ้าของตลาดที่เขาเคยใช้ชีวิตร่วมกันมาตั้งแต่เด็กจนโต แต่เขาก็ต้องรู้สึกเจ็บปวดทางใจและร่างกายเสมอมา เขาจึงใช้ความเด็ดเดี่ยวของตัวเองตัดสินใจอะไรบางอย่าง
"ผมพร้อมจะไปทำงานกับคุณทิชาครับคุณนาย"
ทันทีที่เขาเอ่ยปากออกไป ควีนก็รีบพูดสวนขึ้นทันควัน "ฉันไม่ให้นายไปไหนทั้งนั้น!"
"คุณห้ามผมไม่ได้หรอกคุณควีน พ่อของผมเป็นหนี้คุณนายอยู่เท่าไหร่ครับ?" เขมปฏิเสธเสียงแข็งแล้วหันไปถามเจ๊หยกถึงเรื่องหนี้สินของเขากับหล่อน
"หนึ่งล้างสองแสงบาก ทิชาจะใช้หนี้ให้เขมเลยใช่ไหมจ๊ะ?" หล่อนตอบคำถามของเขม ก่อนจะหันไปถามถึงคนที่จะใช้หนี้แทนเขม
"ครับแต่ผมไม่ได้พกเงินมามากขนาดนั้น เดี๋ยวผมออกไปเบิกให้นะครับ" ขณะที่ทิชาเตรียมจะขึ้นรถไปธนาคาร ควีนลูกเจ้าของตลาดก็พูดขึ้น
"เอาอย่างนี้ใครใช้หนี้ให้เขมได้ก่อน เขมก็ควรเป็นของคนนั้น!?"
ทุกคนดูตกใจในคำพูดของควีนก่อนจะตกใจอีกรอบเมื่อควีนเดินกลับไปหยิบเงินในรถส่วนตัวมายื่นให้แม่ของตัวเอง
"ผมไม่ใช่สิ่งของนะที่คุณจะใช้เงินฟาดหัวได้ ถึงคุณจะใช้หนี้ให้ผม ผมก็จะไม่ยอมเป็นคนของคุณอีก ผมจะไปทำงานกับคุณทิชาเพียงคนเดียวเท่านั้น"
เมื่อทิชาได้ยินเช่นนั้นก็รีบขึ้นรถยนต์แล้วขับไปยังธนาคารเพื่อเบิกเงินสดออกมา ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีเงินจำนวนหนึ่งล้านสองแสนบาทก็ถูกส่งต่อให้กับเจ๊หยกผู้เป็นเจ้าหนี้ของเขม
"ลื๊อแน่ใจแล้วช่ายม๊ายว่าจะปายทามงางกับอาทิชาของอั๊ว"
"ผมแน่ใจและมั่นใจครับ ผมลานะครับ ผมขอขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา ที่คุณนายให้โอกาสผมคอยช่วยเหลือผมมาโดยตลอด ผมขอขอบคุณคุณนายมากนะครับ"
เขมนั่งลงคุกเข่าก้มกราบหญิงวัยกลางคนด้วยความเคารพและรู้ซึ้งในน้ำใจของหล่อน โดยที่เจ๊หยกก้มตัวประคองไหล่ของเขาให้ลุกขึ้นยืนก่อนจะหันหลังให้สองคนแม่ลูกเพื่อจะเดินไปยังรถเบนซ์สปอร์ตสีดำของดาราหนุ่ม ขณะที่ควีนมีน้ำตาไหลนองหน้าด้วยความเสียใจก่อนที่จะวิ่งเข้าสวมกอดเขมจากด้านหลัง
"ฉันรักนายนะเขม นายเป็นเพียงคนเดียวที่ฉันเหลืออยู่นะ นายอย่าไปได้ไหม?"
“...” ไม่มีคำตอบจากเขมแต่สิ่งที่ทำให้ควีนต้องเจ็บปวดก็เกิดขึ้นเมื่อเขาแกะมือเล็กของควีนออกอย่างไร้ความปราณี
"ปล่อยผม ปากของคุณบอกว่ารักผมแต่คุณก็เที่ยวไล่ล่าคนอื่นไปทั่ว ตอนมีความสุขคุณเคยสนใจผมไหม ก็ไม่เคยแต่พอไม่มีใครคุณก็กลับมาหาผม ผมไม่ใช่ของเล่นของคุณนะคุณควีน ใครขัดใจอะไรคุณก็มาลงที่ผม ผมไม่ไหวแล้ว ผมเหนื่อย..."
หลังจากสิ้นคำพูดของเขมเขาก็เดินจากอีกฝ่ายไปโดยไม่หันหลังไปมอง แล้วขึ้นรถเบนซ์สปอร์ตสีดำออกไปจากบ้านนั้นทันที