ทิชา ทิชานนท์
หลังจากที่ทุกคนในบ้านทราบเรื่องว่าควีนกำลังเดินทางมาบ้านของทิชาเพื่อที่จะตามตัวเขมกลับไป พวกเขารู้สึกตกใจและหวาดระแวงกับเรื่องที่ทิชาเล่าถึงอาการของควีนให้ฟัง
โดยที่ดาราหนุ่มคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกชายเจ้าของตลาดซึ่งเป็นแฟนคลับตัวยงของเขาในเวลานี้ พวกเขารอจนเวลาล่วงเลยไปเกือบชั่วโมงก็ไรวี่แววว่าจะมีรถยนต์ของใครหรือจะมีคนแปลกหน้าเข้ามาในบ้านเลยแม้แต่คนเดียว ทิชาจึงโทรกลับไปหาเจ๊หยก เพราะก่อนหน้านั้นเกือบครึ่งชั่วโมง เจ๊หยกได้เดินทางมาถึงบ้านของเขาเป็นที่เรียบร้อยก็ไม่พบกับลูกชายแต่อย่างใด เธอจึงขับรถออกไปตามหาลูกยังสถานที่ต่างๆ ที่คิดว่าควีนจะไป ทุกคนดูโกลาหลกันทั้งบ้านกับการตามตัวควีนไม่รู้ว่าเขาไปอยู่ที่ใดแล้วในตอนนี้
ทิชารู้สึกผิดสังเกตกับคนใช้ในบ้านอยู่คนหนึ่ง แต่เขาก็ไม่ได้เรียกตัวคนใช้คนนั้นเข้ามาถาม แต่กับยกโทรศัพท์บ้านโทรหาหัวหน้าคนใช้ ที่เป็นผู้ดูแลคนรับใช้ในบ้านทั้งหมด
"ป้าแมวไม่ต้องพูดอะไรนะครับ ผมจะถามแล้วให้ป้าตอบว่าใช่หรือไม่แค่นั้นพอ เพราะผมกำลังคิดว่าคนที่พวกผมตามหาอยู่นั้นได้ปะปนอยู่ในกลุ่มคนรับใช้ของบ้านเราครับ วันนี้ป้าได้รับคนใช้เข้ามาใหม่หรือเปล่าครับ"
"ไม่"
"แล้ววันนี้คนที่ทำครัวมีกี่คน ใช่ 2 คนไหมครับ"
"ใช่"
"เป็นผู้หญิงทั้งสองคนใช่ไหมครับ"
"ใช่"
"ถ้าอย่างนั้นป้าช่วยไปเดินดูหน่อยสิครับว่าตอนนี้ในบ้านของเรามีคนรับใช้ที่สวมหมวกคลุมศีรษะและใส่หน้ากากอนามัยอยู่หรือเปล่า ถ้ามีให้ป้าโทรมาหาผมนะครับ แล้วผมจะรีบวาง เพื่อไม่ให้ใครคนนั้นจะไหวตัวทัน ตามนี้นะครับช่วยผมหน่อยนะครับ"
"ใช่"
จากนั้นดาราหนุ่มก็บอกทุกคนในบ้านกับพฤติกรรมที่เขาจับผิดสังเกตได้จากคนรับใช้อยู่คนหนึ่งแต่ทุกคนต้องไม่ทำตัวเป็นที่น่าสงสัย เหมือนกับว่าพวกเขาทุกคนไม่รู้ว่ามีใครแฝงตัวอยู่ภายในบ้านด้วย ทุกคนปฏิบัติตามคำบอกของทิชาอย่างเคร่งครัดและไม่มีพิรุธออกมา
ท้ายที่สุดป้าแมวหัวหน้าคนรับใช้ก็โทรกลับมาหาทิชาจริงๆ จึงทำให้รู้ว่าควีนอยู่ในบ้านของเขาแล้ว ซึ่งเป็นที่คาดเดาได้ยากว่าควีนกำลังคิดจะทำอะไรต่อไป
เขม ชายหนุ่มที่ควีนกำลังต้องการตัวได้เสนอความเห็นว่าให้เขาเป็นคนแก้สถานการณ์นี้ด้วยตัวเอง ชายหนุ่มไม่ต้องการให้ใครมาเดือดร้อนเพราะตัวของเขาซึ่งเขมเป็นคนที่รู้ใจควีนที่สุดว่าอดีตเจ้านายของเขาเป็นคนยังไง หากควีนได้เจ้าคิดเจ้าแค้นขึ้นมาไม่มีวันที่จะเลิกราแน่นอน ควีนสามารถทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองเป็นผู้ชนะ ทุกคนเห็นด้วยกับข้อเสนอของเขมจึงปล่อยให้ชายหนุ่มไปทำตามข้อเสนอที่คิดว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดและเพื่อความปลอดภัยสำหรับทุกคนในบ้าน
เขม เขมณัฐ
ชายหนุ่มถามตำแหน่งห้องพักของคนรับใช้ภายในบ้านกับป้าแมว ที่คาดว่าน่าจะเป็นห้องนอนของควีน เพราะมีรองเท้าถอดไว้หน้าห้อง เขมไม่รอช้ารีบเดินตามหาห้องที่คิดว่าเป็นห้องนอนของควีนทันที จนเดินมาพบหน้าห้องๆ หนึ่งก็เห็นรองเท้าที่ถูกถอดวางอยู่หน้าประตูอย่างที่ป้าแมวบอก เขาจำได้ว่ารองเท้าคู่นี้เป็นของอดีตเจ้านายเขานั่นเอง เขมรีบบิดลูกบิดประตูแล้วผลักเข้าไปภายในห้องนอนก่อนจะรีบปิดประตูนั้นลง ก็พบว่าคนที่นอนหลับอยู่เป็นอดีตนายของเขาตามที่ทุกคนคาดการณ์ไว้จริงๆ
เขมค่อยๆ นั่งลงข้างเตียงด้านหนึ่งที่มีคนกำลังนอนหลับ ในเวลาที่ควีนหลับจะดูน่ารักเหมือนเด็กไร้เดียงสา ก่อนที่เขาจะเผลอยกมือขึ้นไปลูบปอยผมที่ปิดใบหน้าด้วยความเบามือ แต่ไม่ทันที่จะดึงมือกลับก็ถูกมือเล็กของคนหลับจับข้อมือของเขาอย่างไว จึงทำให้เขมรู้สึกตกใจแล้วอุทานเรียกชื่อของควีนด้วยความตกใจ
"คุณควีน!"
"นายมาหาฉันแล้วเขม นายมาหาฉันจริงๆ ด้วย ฉันคิดถึงนายเหลือเกิน.."
ควีนลุกขึ้นนั่งสวมกอดเขมด้วยความคิดถึง พยายามหอมแก้มของเขมสลับข้างไปมาอย่างโหยหาทั้งที่ฝ่ามือเรียวเล็กก็พยายามกอดรั้งลูบไล้แผ่นหลังกว้างเป็นระวิง
"คุณควีนอย่าทำแบบนี้ครับที่นี่ไม่ใช่ที่บ้านของคุณ คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้ แล้วอีกอย่างผมก็ไม่ใช่คนที่อยู่ใต้อำนาจของคุณอีกแล้วด้วย คุณหยุดการกระทำแบบนี้เถอะครับ"
ควีนได้ฟังเช่นนั้นก็กรีดร้องขึ้นมาด้วยความไม่พอใจดังลั่นห้องนอนคนใช้
ทิชา พร้อมกับผู้จัดการส่วนตัวอย่างแมค รวมถึงคุณนภาที่รอจังหวะเพื่อจะมาอธิบายถึงเหตุผลอยู่หน้าห้องนอนต้องรีบผลักประตูเข้ามาด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้อง
"คุณควีน...คุณควีนหยุดครับ...ฟังผมก่อน"
เด็กหนุ่มกรี๊ดร้องดิ้นทุรนทุรายด้วยความโกรธและไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาร่ำไห้อยู่ภายในอ้อมกอดของเขมที่พยายามกอดรั้งไม่ให้ร่างเล็กต้องเจ็บตัวโดยการฟาดมือตัวเองเพื่อหวังระบายความโกรธกับสิ่งของภายในห้อง
ก่อนที่ควีนจะสงบลงเฉยๆ แล้วมองตาขวางไปที่ดาราหนุ่มอย่างเจ้าคิดเจ้าแค้นด้วยสายตาดุดันที่แสดงออกถึงความพยาบาทอย่างตั้งใจ
"แกคงคาดไม่ถึงล่ะสิว่าฉันคิดจะทำอะไร แกเลยให้เขมมาเกลี้ยกล่อมฉันใช่ไหม อีนางมารร้าย แกพรากทุกอย่างไปจากฉัน ทำเป็นใสซื่อบริสุทธิ์แท้ที่จริงแล้วแกก็อยากจะครอบครองเขมของฉัน รวมถึงพี่จันทร์ด้วย แกก็เอาเขาไปจากฉัน ทั้งที่เขารู้จักกับฉันมาตั้งแต่เด็กๆ เราเล่นด้วยกัน เราพูดคุยสนิทกันมาก พอแกเข้ามาในชีวิตเขาพี่จันทร์ก็เปลี่ยนไป เขาให้ความสนใจแกมากกว่าฉัน แกมันเลว เลวที่สุด อย่าฝันว่าแกจะมีชีวิตอยู่ในวงการบันเทิงได้อย่างสงบสุข!!" ควีนพูดด้วยความอาฆาตพยาบาทที่มีต่อทิชา
"คุณควีนหยุดนะ คุณจะพูดแบบนี้กับคนที่มีพระคุณกับผมไม่ได้!"
"ทำไมล่ะเขม นายไม่รักฉันแล้วเหรอ ทำไมพูดแบบนี้?"
ควีนดูสงบลงอีกครั้งเมื่อได้ยินคำสั่งจากเขมก่อนที่ควีนจะหันไปตัดพ้ออีกฝ่ายด้วยความเสียใจ
"คุณต้องการอะไรจากผม เพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยนไม่ให้คุณคิดทำร้ายคุณทิชาและคนที่บ้านนี้ คุณต้องการอะไร?"
เขมถามอดีตเจ้านายด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน โดยมีสายตาของคนทั้ง 3 คอยส่งกำลังใจให้อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สถานการณ์ที่ตึงเครียดดีขึ้น
"นายถามว่าฉันต้องการอะไรอย่างนั้นใช่ไหม แต่ความรู้สึกของนายก็ยังแคร์อีดาราคนนั้นมากกว่าฉันเหมือนกับพี่จันทร์ไม่มีผิด นี่มันร่ายมนต์บทไหนใส่นาย ทำไมนายถึงหลงมันขนาดนี้ บอกฉันหน่อยได้ไหมเขม ฉันไม่ดีตรงไหน ฉันรักนาย ฉันทำทุกอย่างเพื่อนายได้แต่ทำไมนายทำกับฉันแบบนี้?"
คนตัวเล็กในอ้อมแขนของเขมยังคงพูดจาตัดพ้อความรู้สึกของตนต่อชายหนุ่มไม่ขาดปากด้วยความรู้สึกเสียใจ
"แล้วคุณต้องการอะไรบอกผมตรงๆ ผมพร้อมจะทำตามคำขอของคุณ"
"ฉันต้องการให้นายกลับไปอยู่กับฉัน ในฐานะคนรักที่ไม่ใช่ลูกน้องเหมือนที่ผ่านมา จะได้ไหม?"
"ได้ครับ แล้วคุณจันทร์ล่ะคุณจะทำยังไง?" อดีตลูกจ้างย้อนถามอีกฝ่ายอย่างอยากรู้กับคำถามสำคัญของเขม ควีนรู้สึกตกใจและมีสีหน้าอ้ำอึ้งขึ้นมาทันที
"พี่จันทร์เหรอ? ก็เหมือนเดิมนะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ฉันขอนายได้ไหม ขอให้ฉันได้รักพี่จันทร์อีกคนนอกจากนาย ฉันขอนายแค่นี้แหละ นายก็รู้ดีว่าฉันรักนายแต่ฉันก็ขาดพี่จันทร์ไม่ได้ กลับกันทั้งที่ใจฉันรักพี่จันทร์มากขนาดไหนแต่ร่างกายของฉันก็ขาดนายไม่ได้อีกเช่นกัน ถ้าเป็นนาย นายจะทำยังไงเขม?"
"ถ้าความต้องการของคุณเป็นแบบนี้ ผมคงให้คุณไม่ได้หรอก คุณควรจะเลือกใครหนึ่งคนที่สำคัญกับใจของคุณจริงๆ คุณควีน ชีวิตคนเราไม่สามารถ..."
ไม่ทันที่เขมจะพูดจบ ควีนก็ตวาดเสียงใส่เขาด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราดอีกครั้งและรุนแรงมากกว่าเดิม
"ไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้นฉันไม่อยากฟัง ฉันถามเป็นครั้งสุดท้ายจะกลับบ้านไปกับฉันไหม ถ้าไม่!!...ชีวิตและชื่อเสียงผู้มีพระคุณของนายไม่มีวันสงบสุขแน่หรือจะให้ฉันลงมือตอนนี้เลยก็ได้!!"
"หยุดเดี๋ยวนี้นะควีน กลับบ้านกับแม่เดี๋ยวนี้ แม่ไม่คิดเลยว่าลูกคนที่แม่เลี้ยงดูมากับมือจะมีจิตใจโหดร้ายแบบนี้ ทุกอย่างที่ลูกว่าทิชาลูกของแม่นั้นเป็นหมดเลย ตั้งแต่แม่รู้จักทิชามาเขาไม่เคยทำพฤติกรรมอย่างที่ลูกพูดเลยสักนิดแต่ลูกของแม่กลับเป็นทุกอย่างที่ลูกว่าเขา แม่ไม่เคยดุ ไม่เคยว่าแม้จะพูดให้กระทบกระเทือนจิตใจเพียงเล็กน้อยก็ไม่เคย แม่คงจะตามใจลูกเกินไป กลับบ้านกับแม่นะ ส่วนเขมเขาควรจะมีชีวิตอิสระที่ไม่ต้องมาแปดเปื้อนกับคนจิตใจโหดร้ายอย่างลูกหรอกนะ กลับไปอยู่ด้วยกัน กลับไปอยู่กับแม่ ผู้ชายลูกอยากได้กี่คน จะเอาหล่อแค่ไหนเดี๋ยวแม่หาให้ลูกเอง กลับบ้านกันนะลูก..." เจ๊หยกพยายามเกลี้ยกล่อมลูกชายตัวเองด้วยน้ำเสียงสั่นเครือที่ปนอยู่กับความเสียใจในสิ่งที่ลูกทำ
ควีนลูกชายคนเดียวของเจ๊หยกถึงกับตกตะลึงในคำพูดของแม่ที่ยืนปรามเขาอยู่ที่หน้าประตูห้องนอนทั้งที่มีน้ำตารินไหลเป็นสาย ก่อนที่เธอจะก้าวเข้ามาภายในห้องแล้วอ้าแขนรอรับลูกชายด้วยหัวใจแสนเศร้ากับการกระทำของลูกชายของเธอ
"แม่! หนูจะไม่กลับบ้านเด็ดขาด ถ้ายังไม่ได้ตัวเขมกลับไปด้วย ผู้ชายสักกี่ร้อยคน จะหล่อแค่ไหนหรือดีแค่ไหนหนูไม่ต้องการหรอกแม่ หนูต้องการเพียงแค่เขมและพี่จันทร์ สองคนนี้เท่านั้นที่หนูต้องการ ว่าไงตกลงนายจะกลับไปกับฉันไหม ทุกอย่างขึ้นอยู่กับนายคนเดียวนะ!?”
ควีนไม่เลิกล้มความตั้งใจโดยปฏิเสธความหวังดีของแม่แล้วหันไปถามถึงคำยืนยันจากปากของเขมอีกครั้ง ที่จะพาตัวชายหนุ่มที่เขาต้องการกลับไปบ้านให้ได้ซึ่งเป็นความต้องการที่สร้างความเจ็บปวดให้กับเขมมาก เพราะเขาเป็นเพียงตัวเลือกหนึ่งของควีนเท่านั้น