VIII Astrophel | ผมก็คิดถึงพี่

1836 Words
มันเป็นสิ่งที่ผมเองก็ปรารถนามาตลอดตั้งแต่วันที่ช่วยเธอให้หนีออกไปได้ ภาวนาให้เธอไม่ลืมผม ภาวนาให้เธอมีความสุขและภาวนาให้เราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ไออุ่นจากร่างเล็กที่แผ่ซ่านออกมาขับไล่ความหวาดกลัวที่อยู่ลึก ๆ ในใจออกไปจนหมด ผมซุกหน้าลงกับซอกคอของเธอแล้วร้องไห้ออกมาเงียบ ๆ ดวงดาวของผม แสงสว่างเพียงอย่างเดียวในชีวิตที่ดำมืดและโสมมของผม.... “นายหายไปไหนมา ฉัน...ฮึก ฉันนึกว่านายตายไปแล้ว” “ผมจะตายได้ยังไงครับ ก็รับปากพี่ไว้แล้วนี่น่า” ดวงตาคู่สวยแดงก่ำและเปียกชื้นด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย รอยยิ้มเล็ก ๆ ที่เธอชอบทำตั้งแต่ยังเด็กประดับอยู่บนใบหน้า “ฮึก ฉะ ฉันคิดมาตลอดว่านายตายไปแล้ว” ผมเช็ดน้ำตาออกจากสองแก้มก่อนจะจูบที่หน้าผากเกลี้ยงด้วยความคิดถึง ตอนนี้ผมสูงกว่าเธอแล้วแถมยังแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องเธออีกด้วย “ผมรอวันที่เราจะได้กลับมาเจอกันตลอดเลยรู้ไหม ตอนนี้ผมปกป้องพี่ได้แล้วนะ” “อื้อ” เราสองคนกอดกันอยู่นานสองนานกว่าเธอจะหยุดร้องไห้ ก่อนที่เธอจะจูงมือผมไปนั่งคุยกันบนเตียง “นายรู้ได้ยังไงว่าพี่อยู่ที่นี่?” อาา ให้ตายสิพออยู่หน้าเธอแล้วผมพูดอะไรไม่ออกเลย ทำไมเธอถึงได้สวยขนาดนี้กันนะ... “เอส?” “ครับ” “จะไม่ตอบคำถามพี่เหรอ?” เธอยกมือกุมแก้มผมเหมือนที่ชอบทำเมื่อสมัยก่อน ไออุ่นที่ส่งผ่านมาผ่านมือนั้นทำเอาเลือดในตัวพลุ่งพล่านไม่หยุด “ตอบครับ” เธอยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อผมพูดแบบนั้น ดูเหมือนว่าพี่เจนัสจะไม่ตกใจเลยกับรูปลักษณ์ของผมที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ “ผมจำกลิ่นพี่ได้ตอนที่ขับรถผ่านเมืองเวสเปอร์” “นายได้กลิ่นพี่ได้ยังไง....” เธอมองผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยก่อนจะยกมือจับหูที่โผล่ออกมาเบา ๆ ตรงนั้นเป็นจุดที่อ่อนไหวที่สุดในร่างกายของผมและพอเธอสัมผัสมันก็ทำให้ผมหายใจหอบแรงอย่างห้ามไม่ได้ “คานิกซ์เป็นคนทำมันใช่ไหม?” “ครับ” “.....” ไม่ใช่แค่ผมเท่านั้นที่มีรูปร่างแบบนี้ พี่เจนัสเองก็มีใบหูรูปกระต่ายด้วยเหมือนกัน มันน่ารักและเข้ากับเธอได้ดีจริง ๆ “ขอโทษนะที่ทิ้งนายไว้” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดดึงผมออกมาจากช่วงเวลาที่เลวร้ายในหัว ผมทิ้งตัวลงนอนหนุนตักพร้อมกับหันหน้าซุกท้องเธอไว้ “ผมดีใจซะอีกที่พี่รอดไปได้ อย่าเสียใจเลยนะ” “เอสโทเพล....” “เล่าให้ผมฟังหน่อยสิว่าพี่เป็นยังไงบ้างในช่วงที่ไม่ได้เจอกัน” ผมหาเรื่องมาคุยเพื่อไม่ให้เธอรู้สึกผิดและโทษตัวเอง แน่นอนว่ามันได้ผล เธอเล่าให้ผมฟังด้วยเสียงเจื้อยแจ้วว่าที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง ดูเหมือนช่วงที่ไม่ได้เจอกันเธอจะมีความสุขดีแถมตอนนี้ยังกลายเป็นนักวิจัยอีกด้วย “แล้วนายล่ะ ที่ผ่านมาไปทำอะไรที่ไหนแล้วพวกนั้นมันทำอะไรนายบ้าง” ผมลุกขึ้นนั่งทันทีพร้อมกับหันหน้าไปทางอื่นพร้อมกับทำหูตั้งด้วยความลืมตัว ก็คิดว่าอยู่แล้วว่าเธออาจจะถามเพราะพี่เจนัสก็เป็นแบบนี้เสมอห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเองตลอด “เอส?” “พี่เจนัส ผม....” “ไม่เป็นไร ถ้านายยังไม่พร้อมก็ไม่ต้องเล่าก็ได้” มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเล่าว่าตัวเองไปทำอะไรไว้บ้าง ผมฆ่าคนมานับไม่ถ้วนและทำไปอย่างไร้ปราณีด้วย “เดี๋ยวพี่ไปชงกาแฟมาให้นาย นายกินได้ใช่ไหม?” “พี่ครับ ผมไม่ได้ 3 ขวบแล้วนะ” “พี่รู้น่า ตัวโตกว่าฉันไปเยอะเลยด้วย งั้นเดี๋ยวพี่มานะ” “ครับ” น้ำเสียงเธออ่อนโยนเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด เธอยกมือยีหัวผมแล้วเดินออกไปจากห้อง จะว่าไปยิ่งโตเธอยิ่งเหมือนกระต่ายเข้าไปทุกที ทั้งนิสัยเล็ก ๆ น้อย ๆ และหูที่ใหญ่ขึ้นกว่าตอนเด็ก ๆ ด้วย ดูเหมือนว่าถึงจะไม่สมบูรณ์ดีแต่พี่เจนัสเองก็คงกลายเป็นครึ่งสัตว์ไปแล้วเหมือนกัน ผมดีใจนะที่เธอดูมีความสุขกว่าเมื่อก่อน พี่เจนัสยังเป็นคนที่ยิ้มและหัวเราะได้เสมอไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน เป็นคนที่ควรมีความสุขที่สุดในโลกด้วย “มาแล้ว ๆ” ไม่นานเธอก็กลับเข้ามาพร้อมกาแฟสองแก้ว ไม่รู้เพราะอะไรลางสังหรณ์ในตัวผมถึงบอกว่าอย่ากินมันเข้าไปเด็ดขาด.... “อ่ะ นี่ของนาย” “ขอบคุณครับ” คำแรกที่กินเข้าไปผมบอกได้เลยว่าหวานบรรลัยเลยล่ะ! นี่ผมกำลังกินกาแฟหรือน้ำตาลล้วน ๆ กันแน่ มันหวานซะจนไม่รู้รสกาแฟด้วยซ้ำ! “อร่อยไหม สูตรพิเศษของพี่เอง” “อร่อย....ครับ” ผมกล้ำกลืนซดมันทีเดียวจนหมดแก้ว ตอนนี้ในปากผมไม่มีรสอะไรเลยนอกจากหวาน หวานและหวาน พี่เจนัสกินเข้าไปได้ยังไงกัน.... “แล้วสรุปนายมาทำอะไรที่นี่ คงไม่ได้บังเอิญมาเจอพี่ใช่ไหม” “ครับ ผมมาทำภารกิจที่นี่แค่นั้นเอง” “บอกไม่ได้เหรอ?” “ครับ....” จะให้บอกได้ยังไงว่ามันคือภารกิจที่ให้มาตามล่าเธอ ตั้งแต่วันที่ได้รับคำสั่งผมก็คิดหาวิธีเอาตัวรอดจากเรื่องนี้อย่างหนักจนสุดท้ายก็เอาไปคุยกับบลูและได้คำแนะนำมาสองสามอย่าง บลูเองก็รู้จักกับเจนัสถึงจะไม่สนิทเท่าผมแต่บลูก็ติดหนี้บุญคุณเธออยู่เลยตัดสินใจช่วยในเรื่องนี้ “งั้นก็ตามใจแล้วนายพักอยู่ที่ไหนล่ะ?” “อืมม แถว ๆ นี้ครับ พี่จำบลูได้ไหม?” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อยก่อนที่เธอจะคลี่ยิ้มออกมา ดูเหมือนเธอจะยังจำเขาได้เหมือนกัน “จำได้สิ นายกับบลูสนิทกันเหรอ” “ครับ เขาคอยดูแลผมระหว่างที่อยู่ที่นั่น” บลูเป็นคนเดียวในดิสโทเปียที่เข้าใจความรู้สึกจริง ๆ ของผม เป็นคนเดียวที่ไม่มองผมด้วยสายตาเหยียดหยามและไม่ใช้ประโยชน์จากผม เขาเป็นเหมือนพี่ชายคนหนึ่งเลยล่ะ “ดีจังที่อย่างน้อยนายก็ไม่ได้ตัวคนเดียว” รอยยิ้มอบอุ่นถูกส่งมาให้พร้อมกับมือบางที่ลูบหัวผมราวกับเด็กสามขวบ ดูเหมือนว่าเธอจะยังคิดว่าผมเป็นน้องชายแน่ ๆ ผมจับมือเธอออกก่อนจะจรดริมฝีปากร้อน ๆ ลงบนหลังมือ “พี่เจนัส ผมไม่ใช่เด็กสามขวบแล้วนะ....” “อื้อ นายโตขึ้นจริง ๆ แต่ไม่ว่าจะโตแค่ไหนนายก็ยังเป็นน้องชายของฉัน เป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ยืนเกาะหน้าต่างมองท้องฟ้าด้วยกันไง” “งั้นเหรอครับ....” คิดไว้แล้วล่ะว่าถ้าเป็นเจนัสก็คงตอบแบบนี้แต่พอมาได้ยินกับหูก็แอบเจ็บเอาเรื่องเลย.... “ใช่ เป็นน้องชายคนสำคัญของพี่ไง เจ้าเด็กดื้อ” อาา ดวงดาวของผม พี่จะรู้บ้างไหมว่าในหัวผมแอบมันกระทำชำเราพี่ไปแล้วกี่รอบ? พี่คงคิดไม่ถึงแน่ว่าแต่ล่ะคืนผมเอาภาพพี่ในหัวไปทำอะไรบ้าง..... “ครับ....น้องชายก็น้องชาย” ผมพูดด้วยเสียงเจ้าเล่ห์เล็กน้อยแต่ดูท่าแล้วพี่เจนัสคงไม่ได้เอะใจเท่าไหร่ ผมเลยถือโอกาสนี้ดึงเธอเข้ามากอดแล้วแอบสูดดมกลิ่นหอมของเธอเข้าไปเต็มปอด “งั้นน้องชายขอกอดหน่อยนะครับ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน” “เอาสิ อยากกอดก็กอดเลยพี่เต็มใจอยู่แล้ว” ในเมื่อเธอพูดแบบนั้นผมเลยไม่คิดจะยั้งใจอีก เรากอดกันและหยอกกันเหมือนตอนเด็ก ๆ จนสุดท้ายก็กลิ้งลงไปบนที่นอนด้วยกัน “ฮ่า ๆ พะ พอแล้ว มันจั๊กจี้นะ! เอส” “ผมยังกอดไม่อิ่มเลย ขออีกหน่อยนะครับ” คนอะไรนุ่มนิ่มน่าบีบไปทั้งตัวเลยแถมกลิ่นก็หอมจนผมแทบบ้า อยากจะจับเธอกดเตียงให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยให้ตายเถอะ! “พอแล้วเอส นายกอดเยอะเกินไปแล้ว” “อีกนิดนะครับ เดี๋ยวผมก็ต้องไปแล้วนะ พี่ไม่สงสารผมเหรอ” “นายก็รู้ที่อยู่พี่ อยากมาก็มาสิ” “พี่พูดเองนะ งั้นผมจะหาเวลามาหาบ่อย ๆ นะครับ” “ได้สิ ถ้าเป็นนายพี่ยินดีต้อนรับเสมอ” ผมซุกหน้าอยู่กับอกอวบคงเพราะเธอคิดว่าผมไม่มีทางคิดเกินเลยกับเธอแน่ ๆ จึงไม่ได้ผลักไสผมออกแถมยังลูบหัวผมซ้ำ ๆ ให้อีกด้วย “ผมต้องไปแล้วครับ” ถึงจะอยู่นานกว่านี้อีกหน่อยแต่ดูเหมือนผมต้องรีบไปแล้วก่อนที่ผมจะทำอะไรตามอารมณ์ตัวเองและทำให้คนตรงหน้าเสียใจ “งั้นดูแลตัวเองด้วยนะ อย่าเอาตัวเองไปเสี่ยง อย่าทำอะไรบ้า ๆ เข้าใจไหม” “ครับ พี่เจนัส” ผมอ้อยอิ่งอยู่กับเธออีกพักหนึ่งถึงยอมลุกออกไปจากเตียงแล้วเดินไปที่โต๊ะทำงานของเธอ “ผมขอเจ้านี่นะ เอาไว้เผื่อคิดถึงพี่” “อื้อ เอาไปสิ” เธอตอบโดยไม่หันมามองผมเพราะมีสายโทรเข้ามาหาพอดี ผมรีบซุกมันไว้ในเสื้อก่อนจะเดินไปที่หน้าต่าง “ไว้เจอกันใหม่นะครับ” “ไว้เจอกันนะ” ดูเหมือนยังต้องใช้เวลาอีกสักพักเพื่อให้เธอมองผมในฐานะผู้ชายคนหนึ่งสินะ แต่ตอนนี้แค่ให้เธอได้รับรู้ถึงการมีตัวตนของผมก็มากพอแล้วที่เหลือค่อยหาทางทีหลังก็ได้ เพราะไม่ว่ายังไงพี่เจนัสก็ต้องเป็นของผม....คนเดียวเท่านั้น ผมไม่คิดจะปล่อยเธอไปเด็ดขาดและจะไม่ยอมให้คานิกซ์ได้ตัวเธอไปด้วย ไม่ว่าจะแลกด้วยอะไรครั้งนี้ผมก็ต้องปกป้องเธอให้ได้ แม้ว่าสุดท้ายเธออาจเกลียดผมจนเข้ากระดูกดำหรือสาปแช่งให้ผมไปตายผมก็จะน้อมรับเอาไว้ เพราะชีวิตของผมเป็นของเธอตั้งแต่แรกเจอแล้ว....
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD