Ep.2 บังเอิญ​ไป​แล้ว

1110 Words
เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ฉันมาทำอะไรที่นี่~ ณ ตอนนี้เพลงนี้กำลังกรีดร้องถามอยู่ในใจฉัน เพราะว่าฉันอยู่บนรถพี่หมีพูห์นะสิคะ หมีพูห์คือใคร ใครคือหมีพูห์น่ะเหรอ ก็คนที่ขับรถข้างๆ ฉันนี่ไง เรียกหมีพูห์ก่อนแล้วกัน มันดูเข้ากับหน้าพี่แกดี แต่นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นมันอยู่ตรงที่ หลังจากที่หมีพูห์บอกว่าจะไปส่ง ฉันจะอ้าปากปฏิเสธออกไปแต่หมีพูกลับไม่ฟัง ลากกระเป๋าเดินทางฉันไปไว้ที่รถเสร็จสรรพ พี่แกก็ลากตัวฉันไปนั่งในรถฝั่งข้างคนขับหน้าตาเฉย พอพี่แกเดินไปขึ้นฝั่งคนขับ ฉันแค่พูดว่า ไม่ต้อง พี่แกก็หันมาส่งสายตาคมดุบอกเป็นนัยๆ ว่า ‘อย่าดื้อ’ อึ้ง อึ้งสิคะ โลมาพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ตอนนี้ได้แต่นั่งตัวเกรงไม่กล้าขยับเลย “ซี” “อ... อะไรนะคะ” แกจะตะกุกตะกักทำไม ยัยโลมา “ฉันชื่อซี แล้วเธอล่ะ” “โลมาค่ะ” แล้วฉันจะไปบ้าจี้ตอบหมีพูห์ทำไมอีกเนี่ย >< “เด็ก” “โลมาไม่ใช่เด็กแล้วนะ” ได้ไงฉันไม่ใช่เด็กซะหน่อย “มาหาแฟน?” “โลมาไม่ได้มาหาแฟน ทำไมหมีพูห์ต้องคิดงั้นด้วย”เริ่มหงุดหงิดแล้วนะ “หืม? หมีพูห์” เห๊ยลืมไปเลย หงุดหงิดไปหน่อยจนเผลอเรียกชื่อที่ตั้งให้พี่เขา โอ้ยยัยโลมาแกจะแถยังไงเนี่ย “อะไรคะ ใครหมีพูห์” แถไปทำหน้าใสซื่อ เอียงขอเล็กน้อย แถไปข้างๆ คูๆ ถูไปให้ถลอกเลยฉัน “หึ ช่างเถอะ” “////” แค่...ยิ้มมุมปากทำไมฉันถึงละสายตาจากหมีพูห์ไม่ได้เลย ใบหน้าเรียวเนียนใส สายตาคม บางทีก็ดุ บางทีก็โอนโยน พี่เขาดูอบอุ่น ปากอมชมพูได้รูป จมูกที่โดดเด่นเข้ากับใบหน้าอีก หล่อแบบวัวตายความล้มอ่ะบอกเลย แม่เจ้า! ใจฉันสั่น ตึกตัก ตึกตัก “มองอะไร” ฉันเผลอจ้องหน้าพี่เขานานทำให้คนที่กำลังขับรถจอดรถแล้วหันหน้ามาถาม บ้าจริงฉันเผลอจ้องหมีพูนานขนาดนี้ได้ยังไง “ปะ... เปลา โลมาเเค่มองวิวฝั่งนู้น” ว่าจบชี้นิ้วผ่านหน้าหมีพูห์เพื่อยืนยัน “ป้อมยาม” (-__-) เพล้ง! แตกสิคะหน้าฉัน แถไม่เนียน ยังไม่ดูทางอีก รถมาจอดถึงโรงแรมฉันยังไม่รู้ตัวอีก “โอ๊ะ! ถึงโรงแรมแล้ว ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” ว่าจบ ยกมือไหว้เสร็จสรรพ รีบลงจากรถเตรียมตัวจะวิ่งเข้าโรงแรม แต่… “กระเป๋า” ผมยืนมองโลมาที่ตั้งใจเลี่ยงคำตอบอย่างขำๆ คนตัวเล็กหันกลับมาด้วยใบหน้าแดงๆ 'น่ารักชะมัด' ผมหยิบกระเป๋าเดินทางส่งให้น้อง “ขอบคุณค่ะ” “อืม” ว่าจบน้องหันหลังกลับลากกระเป๋าเดินทางวิ่งเข้าโรงแรมไป ผมเดินเข้าไปในรถหยิบของลงจากรถ ล็อกรถเสร็จสรรพเดินเข้าโรงแรม ใช่ครับ ผมพักอยู่โรงแรมเดียวกันกับน้อง ผมเดินเข้าไปเช็คอินเสร็จ กำลังเดินขึ้นลิฟต์เห็นโลมากำลังก้มหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าอยู่ “ชั้นไหน” น้องเงยหน้ามองผม “หมีพูห์” คนละคำตอบอีกแล้ว “ชั้นไหน” ผมถามน้องอีกครัง “15 ค่ะ” ชั้นเดียวกัน ตึง~ เสียงลิฟต์เปิดบ่งบอกว่าถึงที่หมาย ผมลากกระเป๋าเดินทางของน้องและของตัวเองออกจากลิฟต์ “จะเอากระเป๋าของโลมาไหนคะ” “ห้องไหน” จ้องมองคนตรงหน้าเพื่อเอาคำตอบ “156” อ่า...ห้องข้างกัน “อย่าบอกนะคะ พี่ตามโลมามาอ่ะ” (-__- ) คนตรงหน้าเบิกตากว้างเขยิบถอยห่างจากผมรีบโอบตัวเองไว้ เธอชี้นิ้วกล่าวหาผม “ฉันพักอยู่โรงแรมนี้” “ไม่เชื่อ พี่เป็นโรคจิตใช่ไหม” ร่างบางตรงหน้าผม ยกมือขวาและซ้ายกำหมัดเล็กแน่น เหมือนตั้งการ์ด ใช่ไหมวะ “เฮ้อ” ผมลากกระเป๋าเดินทางไปยังหน้าห้องของโลมาวางกระเป๋าโลมาไว้หน้าห้อง เเล้วลากกระเป๋าตัวเองไปที่ห้อง 157 หยิบคีย์การ์ดสแกนเข้าห้องตัวเอง ทิ้งเด็กเอ๋อที่ทำหน้างงไว้คนเดียว ติงต๊องจริงๆ ภายในห้องถูกคลุมโทนด้วยสีดำและขาว เฟอร์นิเจอร์สุดหรูและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมไปถึงความเด็นชัดของวิวใจกลางเมืองกรุงโตเกียว ร่างสูงว่างกระเป๋าเดินเข้าไปในห้องนอนล้มตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง …..Trrrrrrrr… “ครับม๊า” (เป็นไงบ้างทะเล ถึงที่พักหรือยัง) “ถึงแล้วครับ” (แกจะเข้าบริษัทตอนไหน) เสียงป๊าผมแทรกถามขึ้น (เอ๊ะ นี่คุณ ลูกพึ่งถึง คุณจะเร่งลูกทำไม) (ผมเปล่านะคุณ ผมถามมันเฉยๆ) (แล้วคุณจะมาแย่งฉันคุยทำไม) (ผมคุยกับลูกชายไม่ได้ไง!) เอาเเล้วครับป๊าผมกำลังท้าทายอำนาจมืดครับ (!!! คุณวัชระ!!) (อุ้ย! ขอโทษครับเมีย คุยเลยครับผมจะไม่กวนเเล้วครับ) (ไม่คุย อยากคุยก็คุยไปเลย) เอาแล้วป๊าโดนม๊างอนแล้ว (เพราะแกเลย เมียป๊าเดินไปนู่นเลย) “เกี่ยวอะไรกับผมล่ะ แม่ลูกเขาจะคุยกันป๊านั่นแหละกีดกันผมกับม๊า” (นั้นเมียป๊าไหม เดียวค่อยง้อแหละกัน สรุปแกจะเข้าบริษัทวันไหน) “อีก2 วันครับ ผมอยากเที่ยวก่อน” (เที่ยวหรือติดสาวเอาดีๆ ไอ้ลูกชาย อย่าคิดว่าป๊าไม่รู้นะ) “แย่งม๊าคุยกับผมเพราะอยากรู้เรื่องนี้เหรอครับ” (ก็เออสิวะ ยอมลงทุนให้ม๊าแกงอนเลยนะเว้ย สรุปยังไง แกจริงจัง?) “เรื่องของอนาคตน่ะป๊า”ผมตอบกวนป๊า เอาคืนหน่อยแล้วกันโทษฐานที่กีดกันผมกับม๊า (มึงอย่าตอบแบบดาราสิเว้ยยย) “ไว้กลับไทยเมื่อไร ผมจะเล่าให้ฟัง แค่นี้ก่อนนะครับ” (เห้ยยยยเดี๋ยวก่อนไอ้ทะเล ปะ…) คิดเอาไว้ไม่มีผิด ผมไม่มีทางหลบสายตาป๊าได้เลยเพราะโรงแรมที่ผมพักอยู่เป็นโรงเเรมในเครือบริษัทป๊า และที่ผมต้องมาญี่ปุ่นเพราะบ้านผมทำธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตเครื่องมือแพทย์ในไทยและต่างประเทศช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมผมเลยมาดูงานที่ญี่ปุ่นตามคำสั่งป๊า ตอนนี้ผมบริหารบริษัทยังไม่เต็มตัว ยังอยู่ภายใต้การดูแลของป๊าอยู่ ตอนแรกผมกะจะเริ่มงานวันพรุ่งนี้เลย แต่ว่าดันเจอสิ่งน่าสนใจซะก่อน “หึ บังเอิญจริงๆ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD