เกวลินถอยหายใจอย่างโล่งอกหลังงานวิวาห์ที่เธอมาช่วยดูแลความเรียบร้อยในฐานะ sales catering ที่ขายแพ็กเกจงานแต่งให้บ่าวสาวเสร็จสิ้นลงอย่างเรียบร้อย หญิงสาวยิ้มรับคำขอบคุณและคำชมจากครอบครัวบ่าวสาวด้วยความยินดี แต่ใครเลยจะรู้ว่าภายใต้รอยยิ้มสดใสนั้นภายในเธอน้ำตาตกอกกลัดหนองเพียงใด หลังเลิกกันชั่วข้ามคืนวันรุ่งขึ้นเขมิกาก็เปิดตัวคบหากับแทนไท อดีตคนรักของเธออย่างหน้าชื่นตาบานโดยไม่แคร์สายตาใคร ส่วนหนึ่งที่เด็กสาวคนนั้นกล้าคงเพราะถือว่าตัวเองเป็นหลานสาวผู้อำนวยการฝ่ายขาย ที่พนักงานหลายคนต้องเกรงใจ ไม่กล้าว่าหรือพูดอะไรออกมาตรงๆ วันรุ่งขึ้นที่มาทำงานเธอจึงเจอทั้งสายตาสงสัยใคร่รู้เห็นอกเห็นใจและเยาะเย้ยถากถาง เกวลินสงสัยว่าเธอไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้สวรรค์ถึงได้ใจร้ายถึงเพียงนี้
นอกจากเธอจะอกหักแล้วยังต้องมาดูแลงานแต่งงานที่เต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่นของบ่าวสาว ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เธอเจ็บปวดจนแทบแดดิ้น นอกจากนี้ยังต้องทนดูศัตรูหัวใจลอยหน้าลอยตาเยาะเย้ยที่แย่งคนรักของเธอไปได้ หญิงสาวทั้งเจ็บทั้งแค้นจนอยากจะจิกหัวเด็กนั่นมาตบให้หายแค้น แต่เพราะเธอเป็นคนมีการศึกษาและมีศักดิ์ศรีมากพอที่จะไม่ตบตีกันเพียงเพราะผู้ชายเลวๆ เพียงคนเดียว ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะเชิดหน้ากล้ำกลืนความเจ็บช้ำเอาไว้ข้างในและรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด หลังจากนี้เธอจะได้พักยาวถึงหนึ่งอาทิตย์เพราะใช้สิทธิ์ยื่นพักร้อนที่ไม่เคยได้ใช้ หญิงสาวหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นคล้องไหล่และเดินออกจากโต๊ะทำงานไปยังลานจอดรถเพื่อเดินทางกลับคอนโด
“อุ๊ยต๊าย ดูสิคะพี่แทนว่าเราเจอใคร” เกวลินคิดว่าวันนี้คงไม่ใช่วันของเธอจริงๆ นอกจากนอนร้องไห้เกือบทั้งคืนแล้วต้องตื่นมาโบกรองพื้นหนาสามกิโลกลบรอยช้ำใต้ตาเพื่อมาดูแลงานแต่งงานของลูกค้า แล้วยังส่งท้ายวันด้วยการเจอกับหญิงร้ายชายเลวที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ไม่ใช่เพราะกลัวแต่เป็นเพราะเธอรังเกียจเกินกว่าจะเสวนากับคนทั้งคู่ คิดได้ดังนั้นหญิงสาวจึงเดินผ่านคนทั้งคู่ไปยังรถยนต์ที่จอดอยู่ถัดไปอีกสองเสา
“เดี๋ยวสิคะ ไม่คิดจะทักทายกันหน่อยเหรอคะ หรือทนเห็นภาพบาดตาบาดใจไม่ได้ เขมว่าพี่เกลต้องทำใจให้ชินนะคะ เพราะเราทำงานที่เดียวกัน ยังไงพี่เกลก็ต้องเห็นภาพบาดตาบาดใจแบบนี้ไปตลอด เพราะว่าเราสองคนรักกัน” เขมิกากล่าวด้วยน้ำเสียงเยาเย้ย
“เขม” แทนไทปรามคนรักสาวแต่แทนที่เขมิกาจะฟังกลับยิ่งหมั่นไส้เกวลิน เพราะเข้าใจว่าแทนไทต้องการปกป้องอีกฝ่าย เธอหมั่นไส้หญิงสาวตั้งแต่เข้ามาใหม่ๆ เพราะใครๆ ต่างพากันชื่นชมว่าเกวลินทั้งสวยทั้งเก่ง ทำงานดีแถมยังได้รางวัลพนักงานดีเด่นหลายปีซ้อน ยิ่งกว่านั้นพนักงานชายหลายคนในโรงแรมที่เธอหมายตาก็พากันปลื้มเกวลินทั้งนั้น นั่นทำให้เธอที่เคยเป็นดาวเด่นมาตลอดในฐานะดาวคณะรับไม่ได้และรู้สึกอิจฉาอย่างรุนแรง ยิ่งเมื่อได้รู้ว่าแฟนหนุ่มของ เกวลินคือแทนไทผู้จัดการแผนกไอทีรูปหล่อมีอนาคตไฟริษยาก็ยิ่งรุนแรง ประกอบกับเธอรู้สึกชอบแทนไทชายหนุ่มรุ่นพี่ตั้งแต่แรกเห็น จึงใช้เสน่ห์มารยาและร่างกายเข้าแลกแบบที่ใช้ได้ผลทุกครั้ง และแน่นอนว่าครั้งนี้ก็ไม่พลาดเช่นกัน ชายหนุ่มถึงกับยอมบอกเลิกกับเกวลินทั้งที่คบมาหลายปีเพราะหลงใหลในรสเสน่หาที่เธอปรนเปรอ
“เขมคิดว่าพี่เกลจะแน่กว่านี้ ที่ไหนได้ก็เอาแต่หนีหัวซุกหัวซุน” เขมิกาตะโกนไล่หลังเกวลินที่เดินตรงไปยังรถยนต์ที่จอดไว้ ในขณะที่มือทั้งสองข้างกำแน่นอย่างพยายามระงับอารมณ์ แต่เมื่อได้ยินประโยคล่าสุดที่ดังไล่หลังมาก็ทำให้เท้าทั้งสองหยุดชะงักก่อนจะเดินกลับไปหาคนทั้งคู่ แทนไทรีบก้าวมาบังเอาไว้เพราะกลัวว่าอดีตคนรักจะทำร้ายเขมิกา
“อย่านะเกล ถือว่าพี่ขอ”
“เกลไม่ได้จะทำอะไรรุนแรงหรอกค่ะ พี่แทนไม่ต้องกลัว แต่เกลแค่จะตอบคำถามน้องเขาหน่อยว่าที่เกลเดินหนีไม่ใช่เพราะกลัว แต่รังเกียจ” เกวลินเน้นคำหลังและปรายตามองเขมิกาตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างดูแคลน จนอีกฝ่ายเต้นเร่าราวถูกน้ำร้อนลวก
“พี่เกล” เขมิกาตะคอกเรียกเกวลินใบหน้าสวยบิดเบี้ยวอย่างโกรธจัด
“ฉันจะบอกอะไรเธอไว้อย่างนะเขมิกา ผู้ชายที่มันทิ้งผู้หญิงที่คบกันมานานหลายปีเพราะผู้หญิงที่เพิ่งเจอกันแค่เดือนเดียวได้ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่อีกไม่นานมันจะทิ้งเธอไปหาคนใหม่อีก เพราะฉะนั้นเอาเวลาที่มาหาเรื่องฉันไปใช้เวลากับผู้ชายของเธอให้เต็มที่เถอะ เผื่อวันไหนเขาเจอผู้หญิงที่สวยกว่า เร้าใจกว่าเธอ เธอจะได้ไม่เต้นแร้งเต้นกาเหมือนผีเข้าเพราะโดนผู้ชายทิ้ง อ้อ อีกอย่างนะ เธอจงรู้ไว้ว่าฉันไม่เคยคิดจะแย่งผู้ชายที่ไม่ซื่อสัตย์กลับเข้ามาในชีวิตฉันอีกอย่างแน่นอน เพราะผู้ชายแบบนี้มันเฮงซวยเกินกว่าจะคู่ควรกับฉัน” เกวลินส่งยิ้มเยาะหยันให้เขมิกาก่อนจะสะบัดหน้าเดินจากไป หูเธอได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนดังมาจากด้านหลังจึงยิ้มออกมาอย่างสาแก่ใจ และนึกขอบคุณตัวเองที่เข้มแข็งพอที่จะเผชิญหน้ากับชายหญิงทั้งสองได้อย่างทระนงและไม่แสดงอาการอ่อนแอให้คนทั้งสองได้เห็น