คำว่ารักนี่ใช้เปลืองเหมือนตัวเลยเนอะ ฉันมองภาพตรงหน้าแล้วเบ้ปากอย่างรังเกียจ ก่อนที่รัฐมนตรีปรีชา จะกวักมือสั่งให้พวกผู้ชายที่ยืนข้างหลังพาฉันกับเอิงเอยไปนั่งที่เก้าอี้ร่วมโต๊ะ อาหารด้วย “กินข้าวเอาแรงก่อนนะสาว ๆ” แดกไม่ลง ฉันบ่นในใจ ขณะที่ตามองกับข้าวเกือบสิบอย่างด้วยสายตานิ่งเรียบ เพราะอะไรหน่ะเหรอ? เพราะฉันไม่อยากมองหน้าคนพวกนั้นให้เป็นเสนียดสายตาน่ะสิ “ทำไมไม่กินน้องนานะ” รัฐมนตรีปรีชาถาม และไล่ตามองมาที่หน้าอกฉันด้วยสายตาหื่นกาม “ไม่หิว” “นานะตอบให้มีหางเสียงหน่อยสิจ๊ะ ท่านคะ อย่าถือสานานะเลยนะ เด็กมันมาจากบ้านนอกก็แบบนี้ล่ะค่ะ” “แล้วมึงไม่มาจากบ้านนอกรึไง?” ทุกคนชะงักนิ่งแม้แต่มือตาแก่ปรีชาที่กำลังตักกับข้าวใส่จานฉันก็เช่นกัน จนพี่แนนง้างมือตบฉัน ‘เพียะ’ แล้วชี้หน้ามือ สั่นระริก “ปากดี ฉันอุตส่าห์พามาที่นี่ให้แกได้ดิบได้ดีเป็นผู้หญิงของท่าน ยังไม่สำนึกบุญคุณอีกเหรอห๊ะ!”