บทที่5

1819 Words
เมื่อคืนปุรินปล่อยเธอไว้ในห้องหอส่วนตนไปนอนกับภูหมอก ญดารินจมดิ่งกับความสับสนเพราะอีกฝ่ายไม่พูดแถมการกระทำยังทำให้เธอคิดไกล ทั้งคู่มีเซ็กซ์กันในห้องน้ำก่อนชายหนุ่มจะกระเตงร่างบางมาต่อบนเตียง พอเสร็จกิจรอบสุดท้ายเขาสะบัดผ้าห่มทิ้งคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันรอบเอว ชำระร่างกายเสร็จพ่อเลี้ยงหน้าโหดออกคำสั่งนิ่งๆ ใบหน้าเรียบเฉยเหมือนอย่างเคยไม่มีทีท่าเปลี่ยนแปลง ‘พรุ่งนี้ตื่นมาแต่งตัวให้เรียบร้อยแปดโมงฉันจะพาเธอไปทำธุระข้างนอก’ เมื่อประตูปิดลงคนตัวเล็กกัดริมฝีปากซุกหน้ากอดหมอนที่เปียกชุ่มรอยน้ำตา มือสัมผัสฟูกนอนพอไร้ไออุ่นที่ปรารถนา เธอก็เปล่งเสียงร้องไห้ออกมาสุดเสียง ความเย็นชาที่ปุรินยื่นให้เหมือนมีดเล่มใหญ่ปักลงหัวใจญดาริน ชายหนุ่มเก่งเสมอเรื่องทำเธอเจ็บปวด เขาเหยียบย่ำความรู้สึกคนแอบรักข้างเดียวซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่แคร์ว่าหญิงสาวจะช้ำเจียนตาย สมรภูมิน้ำตาจบลงเมื่อพระอาทิตย์ที่ขอบฟ้าส่องสว่างผ่านหน้าต่างมูลี่ ร่างบางลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวและออกมาเตรียมเสื้อผ้าให้คนเป็นสามี ถึงปุรินไม่สั่งแต่หน้าที่ภรรยาญดารินยินดีดูแลเขาจนกว่าพันธะระหว่างเราจะสิ้นสุด ชายหนุ่มกลับมาในห้องตอนหกโมงกว่า ดวงตาคมเหลือบมองเธอด้วยหางตาก่อนตรงไปทำธุระส่วนตัว สักพักคนตัวสูงก้าวเท้าออกจากห้องน้ำไปยืนหน้ากระจก ภาพปุรินเสยผมลวกๆ แผ่นอกพราวหยาดน้ำทำหญิงสาวต้องสะบัดศีรษะขับไล่ความรู้สึกที่ปั่นป่วนในช่องท้อง เพราะเหตุการณ์เมื่อคืนยังติดตรึงในหัวสมอง แม้เสียใจแต่ญดารินจำได้ดีว่าอีกฝ่ายร้อนแรงแค่ไหน บทรักครั้งแรกหลังมีสถานะสามีภรรยาใครจะไปลืมง่ายๆ “หญ้าช่วยค่ะ” เชิ้ตสีขาวถูกยื่นให้ชายหนุ่มผู้เย็นชา เสียงหวานขันอาสาไม่พอยังระบายยิ้มอ่อนๆ เหมือนไม่สะทกสะท้านกับท่าทางหมางเมิน “อยากช่วยเหรอ เอาดิ” ครั้งนี้นอกจากไม่ปฏิเสธปุรินยังหมุนกลับมาเผชิญหน้าพ่อเลี้ยงหนุ่มเขยิบเข้าหาสาวน้อย นัยน์ตาคมที่ปกติให้ความรู้สึกเหมือนมีดพร้อมบาดลึกหัวใจผู้จ้องมองเวลานี้กลับต่างออกไป มันมีประกายระยับเหมือนต้องการเร่งปฏิกิริยาให้ใบหน้าหวานร้อนวูบ “นิ่งทำไมเธออยากช่วยไม่ใช่เหรอ ฉันมีเวลาไม่มากถอดกระโปรงแล้วรีบทำตรงนี้เพราะบนเตียงคงไม่ทัน” “หญ้าอยากช่วยแต่งตัวไม่ได้หมายถึงอย่างอื่น” ญดารินตอบเสียงแข็ง รู้สึกพลาดที่มองความสัมพันธ์ของเราดีกว่าความเป็นจริง เพราะนอกจากไม่รักปุรินยังใจร้ายไม่เปลี่ยนแปลง สิ่งที่อีกฝ่ายถนัดคือการทำร้ายหัวใจเธอในแต่ละวัน “อ้าวโทษทีฉันเข้าใจผิดไปเอง ก็เมียอย่างเธอฉันไม่เห็นประโยชน์อะไรสักอย่างนอกจากเซ็กซ์” เขาหัวเราะร่วนขณะเลื่อนสายตาจ้องร่างอรชรคล้ายต้องการปลดปราการทุกชิ้น คำพูดร้ายกาจรุนแรงเกินกว่าหญิงสาวต้องทนฟัง ดังนั้นหญิงสาวจึงเบือนหน้าหนีเมื่อคุยกันดีๆ ไม่ได้สู้เงียบไปเลยยังถนอมหัวใจเธอมากกว่า “ไปไหนทำไมแค่นี้ทนฟังไม่ได้ทีตอนอยากได้ผัวไม่เห็นเธอหน้าบาง” “ใช่ค่ะหญ้าหน้าบาง ถ้ารู้แล้วรบกวนคุณปุนปล่อยมือหญ้าด้วย” ไม่พูดเปล่าญดารินพยายามบิดข้อมือห่างจากสัมผัสปุริน ส่วนชายหนุ่มเมื่อได้ยินถึงกับหน้าสั่น ความโกรธครอบงำจนเผลอลงน้ำหนักบีบข้อมือบางแรงขึ้น ตั้งแต่ยึดครองสถานะเมียนับวันญดารินยิ่งทำตัวแข็งข้อ สงสัยเขาต้องสั่งสอนให้เธอรู้จักเจียมตัว “รู้หรือเปล่าตอนนี้เธอกำลังหาเรื่องให้ฉันไม่ชอบมากกว่าเดิม” หว่างคิ้วชายหนุ่มกระตุกเล็กน้อยยามได้ยินคำตอบแสนอวดดี “ก็ปกติไม่ใช่เหรอคะที่ผ่านมาคุณไม่เคยชอบหญ้าอยู่แล้ว” “เธอดูเข้าใจทุกอย่างนี่” ปุรินคลายแรงบีบตรงข้อมือจากนั้นก็โน้มหน้ากระซิบข้างใบหู ประโยคหลังจากนั้นกระชากหัวใจดวงน้อยจนขาดหลุดลุ่ย น้ำเสียงคนใจร้ายแทงลงไปในจุดที่เฉือนใจหญิงสาวมากที่สุด “เข้าใจว่าไม่รักทำไมถึงไม่ไปให้พ้นหน้าสักที” หลังได้ยินคำว่าไม่รักเต็มสองหูญดารินจำไม่ได้ว่าพาตัวเองออกมาอย่างไร เมื่อปลายเท้าพ้นเขตประตูคนไม่เจียมจ้ำอ้าวลงบันไดและตรงไปทางบ้านหลังเล็กท้ายไร่ ญดารินเปิดประตูสองเท้าเดินไปเรื่อยๆ กระทั่งหยุดหน้ารูปใครบางคน นัยน์ตาแดงก่ำหญิงสาวกัดริมฝีปากกลั้นสะอื้นจากนั้นเธอก็ทรุดตัวลงอย่างหมดแรง ร่างบางทิ้งตัวบนพื้นไม้ก่อนปิดเปลือกตาลง บ้านหลังนี้ถือเป็นหลุมหลบภัยของเธอ ไม่ว่าจะเศร้าหรือเจอเรื่องผิดหวังแค่ไหนการนอนกลิ้งโง่ๆ นั้นสามารถแบ่งเบาความรู้สึกแย่ไปมากกว่าครึ่ง ภาพความทรงจำดีๆ ระหว่างเธอและแม่สามารถขจัดความโดดเดี่ยวในใจญดารินได้ แม้เอื้องงามจากไปหลายปีแต่การกลับมาอาศัยที่บ้านหลังนี้คือน้ำทิพย์ชโลมหัวใจเหี่ยวเฉาของหญิงสาวให้ผ่านพ้นไปแต่ละวัน “ทำไมการเลิกรักใครสักคนมันยากอย่างนี้ละจ๊ะแม่… ฮึก แม่บอกหญ้าทีได้ไหม หญ้าต้องทำยังไงหญ้าไม่อยากเจ็บแบบนี้อีกแล้ว” ญดารินเปล่งเสียงถามมารดาด้วยหัวใจแตกสลาย หยาดน้ำตาไหลเปื้อนกรอบหน้าตามมาด้วยภาพเหตุการณ์ซึ่งตัวเองไม่เป็นที่ต้องการ ก่อนหน้าเคยคิดว่าตัวเองเข้มแข็งพอจะรับมือได้ แต่พอชายหนุ่มสะกิดแผลเก่าให้เจ็บช้ำนิดๆ หน่อยๆ ความอ่อนแอในวันวานพลันหวนคืนกลับมา คืนนั้นเคยแพ้คำว่าเขารักคนอื่นอย่างไรวันนี้ก็แพ้คำว่า ‘ไม่รัก’ อย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง “ฮึก… หรือควรทนให้เขาทำร้ายแบบนี้ บางทีสักวันหญ้าคงหมดรักไปเอง” นอกจากการรักอีกฝ่ายหญิงสาวคิดไม่ออกว่าตัวเองสามารถทำอะไรได้ไปมากกว่านี้ หรือบางทีผู้หญิงคนนี้อาจมีค่าแค่ระบายความใคร่อย่างที่ปุรินปรามาส ดังนั้นทนเจ็บอีกหน่อยแล้วเดินออกมาเพื่อจบปัญหาอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ของเรา ถ้าปุรินมีความสุขต่อให้ตัวเธอทุกข์ก็ไม่เป็นไร… Atv สีแดงแจ๋กระชากจอดหน้าเรือนไม้หลังใหญ่ สายลมและแสงแดดยามบ่ายอบอ้าวจนผู้ขับขี่ต้องยกหลังมือปาดเหงื่อที่ไหลโชกตามขมับ ร่างผึ่งผายก้าวไวๆ ตรงไปทางห้องนั่งเล่น นัยน์ตาคมกริบตวัดมองหญิงสาวที่นั่งนวดแขนพรรณนาราย เห็นญดารินเสนอหน้าเอาใจผู้เป็นย่าชายหนุ่มถึงกับแสยะยิ้มแผ่รังสีอำมหิตทันที เรื่องประจบสอพลอไม่มีใครเกินหน้าเธอ เช่นนี้พรรณนารายจึงรักจึงหลงญดารินยิ่งกว่าหลานในไส้ “จมูกไวดีเนอะ” “ปากแกก็ไวเหมือนกัน” พรรณนารายพ่นลมหายใจเหนื่อยหน่าย นางระอากับอคติของหลานชายหัวแข็ง ญดารินปรนนิบัติผัวทรพีอย่างมันไม่ขาดตกบกพร่อง แต่ไอ้ตาบอดนี่ยังไม่เห็นคุณงามความดีแถมยังขยันหาเรื่องเมียวันเว้นวัน ถ้ารู้ว่าโตมาจะทำตัวพาลกัดไม่เลี้ยงนิสัยเสียอย่างนี้นางน่าจะเอาขี้เถ้ายัดปากตั้งแต่เด็ก “ย่าได้ข่าวว่าแกไล่คนงานออก ทำแบบนั้นทำไมฮะปุน ย่าเคยเตือนหลายรอบแล้วไม่ใช่เหรอไอ้อารมณ์ร้อนๆ น่ะหัดเบาลงซะบ้าง นี่แกเล่นไล่เขาออกไม่ให้โอกาสแก้ตัวอย่างนี้ลูกน้องที่ไหนจะอยากทำงานด้วยนานๆ” “คนของคุณย่ารายงานข่าวรวดเร็วคุ้มค่าแรงดีนะครับ เธอแม่งยอดเมียจริงๆ ฉันนับถือชอบหาเรื่องให้ผัวโดนด่าสินะถึงได้เล่าเรื่องนี้ให้ย่าฉันฟัง” พ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยยียวนก่อนยกนิ้วโป้ง พรรณนารายเห็นท่าทางกวนประสาทจึงอดรนทนไม่ไหว นางนั่งนิ่งๆ ปล่อยให้ปุรินแดกดันญดารินทั้งที่อีกฝ่ายไม่ผิดไม่ได้หรอกขอสั่งสอนหน่อยแล้วกัน “ย่าหูไวตาไวเหมือนสับปะรด คนที่ดีแต่ใช้อารมณ์แก้ปัญหาอย่างแกตามไม่ทันย่าหรอก ถ้าไม่มีอะไรดีๆ จะพูดทีหลังแกหุบปากไปเลยยังจะเข้าท่าเสียกว่า ปากหมาๆ แบบนี้ระวังเถอะสักวันย่าจะถวายน้ำยาล้างจานให้” “ย่าเรียกผมมาด่าแค่นี้ใช่ไหมครับ” ปุรินถอนหายใจ “ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมจะได้ไปทำงาน ส่วนเธอก็นั่งนอนๆ ประจบย่าฉันต่อไปแล้วกันเนอะสบายดี” รอยยิ้มหยันผุดบนริมฝีปากก่อนก้มดูนาฬิกา ปุรินกำลังจะพาตัวเองออกนอกวงสนทนาแต่เสียงเข้มข้างหลังตะโกนสั่งทำให้สองเท้าหยุดทันที “ไม่ใช่! ย่าเรียกแกมาเพราะอยากให้แกไปหาหมอ” “ไปหาหมอ หาทำไมครับผมไม่ได้ป่วย” ปุรินหันขวับกลับมา คิ้วเข้มขมวดมุ่นเพราะไม่เข้าใจความปรารถนาของพรรณนาราย เขาสบายดีแถมยังออกกำลังกายทุกวันจากงานในไร่ อวัยวะทั้งภายนอกและภายในถือว่าแข็งแรงขั้นเทพ ฉะนั้นไม่มีเหตุผลให้ต้องไปพบแพทย์ตอนนี้ หรือญดารินจะใส่ไข่อะไรให้ท่านกังวล “ย่ารู้ว่าแกไม่ได้ป่วยแต่หมอที่ย่าหมายถึงคือหมอสูติต่างหาก ย่าจัดการทุกอย่างให้แกเรียบร้อยเหลือแค่แกพาหนูหญ้าเข้าไปปรึกษาเขานิดๆ หน่อยๆ หลังจากนั้นก็เตรียมมีลูกได้เลย” พรรณนารายวางโบชัวร์รายละเอียดลงบนโต๊ะก่อนมองใบหน้าหลานชายด้วยสายตาคาดหวัง ปุรินเพียงกำหมัดถ้าเป็นคนอื่นชายหนุ่มคงขย้ำไอ้เศษกระดาษระยำนี่ทิ้งแล้วโยนลงถังขยะอย่างไม่ลังเล แต่หญิงตรงหน้าคือผู้เป็นย่าที่รักและเคารพ การกระทำห่ามๆ แบบนั้นจึงต้องถูกพับไว้ที่เดิม ใบหน้าคร้ามเข้มมองเมียปลอมๆ แววตาเขาคุกรุ่นไม่ถึงเสี้ยววินาทีจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นราบเรียบเข้าขั้นหยาบกระด้าง พ่อเลี้ยงหนุ่มแย้มยิ้มมุมปากนิดๆ แล้วเสียงทุ้มพลันเอ่ยออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ได้ครับย่า ผมไม่ปฏิเสธ” เมื่อเธอแผนสูงเล่นนอกกติกาอยากทำลายสัญญาด้วยการใช้เด็กมัดมือชกจากนี้เขาก็จะร้ายให้ตายกันไปข้างหนึ่ง เตรียมตัวรับมือได้เลย!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD