บทที่6

1962 Words
การสัญจรในตัวเมืองยามเช้าติดขัดเข้าขั้นวุ่นวาย แต่พลขับหน้าหล่อกลับผิวปากฮัมเพลงราวไม่ยี่หระกับสถานการณ์น่าหงุดหงิดนี้ “เดือนนี้ประจำเดือนเธอใกล้มาแล้วหรือยัง” “คุณปุนถามทำไมคะหรือห่วงกลัวหญ้าจะท้อง” “ฉันให้คนเอายาคุมฉุกเฉินไปให้แล้วนี่ เธอคงไม่โง่ปฏิเสธน้ำใจฉันหรอกใช่ไหม เราเคยสัญญากันไว้ยังไงความต้องการฉันเป็นแบบไหน เธอไม่ได้ความจำสั้น เรื่องแค่นี้ไม่น่าลืม” คนใจร้ายอดไม่ได้ที่เหน็บแนมญดารินตามนิสัย หลังมีปากเสียงกันตอนเช้าพอสายๆ เขาก็ใช้ให้คนงานออกไปซื้อยาคุมฉุกเฉินนอกไร่ ทีแรกตั้งใจจะพาไปด้วยตัวเองอย่างที่บอกว่ามีเรื่องสำคัญก็เรื่องนี้นี่แหละ ทว่าท่าทางใสซื่อดันน่ารำคาญชวนให้ยุบยิบใจ “ค่ะหญ้าจำได้ ส่วนยาที่คุณให้ไม่ต้องห่วงหญ้ากินเรียบร้อย” “ดีพูดง่ายไม่มีปัญหาแบบนี้แหละถึงจะอยู่ด้วยกันได้ยาวๆ” ไม่พูดเปล่ามือข้างที่ว่างยังเอื้อมมาขยี้เรือนผมงาม แววตาระยับคล้ายเอ็นดูหญิงสาวเสียเต็มประดา แต่ความจริงคือเทคนิคหลอกล่อของปีศาจ ด้านหญิงสาวได้ฟังถึงกับแค่นยิ้มบางๆ เธอไม่หลงกลความอ่อนโยนจอมปลอมนี้หรอก เมื่อวานปุรินร้ายจนใจเจ็บวันนี้เขาทำดี ดูซิหลังจากนี้พ่อเลี้ยงหนุ่มต้องตะล่อมให้เธอยอมทำอะไรสักอย่างตามความต้องการของเขา “คุณปุนอยากได้อะไรพูดกับหญ้ามาตรงๆ เลยไม่ต้องอ้อมค้อม” เสียงเล็กถามขณะดวงตากลมหลุบมองมือชื้นเหงื่อ “คิดว่าฉันหวังผลประโยชน์” ปุรินหัวเราะพลางเหลือบตาสังเกตคนข้างกาย เห็นหญิงสาวหงิมๆ เหมือนไม่รู้อะไรแต่ก็ไม่ได้ซื่อจนโง่ เขาหนีบเธอมากรุงเทพฯ ด้วยกัน แม้อ้างว่าอยากได้ผู้ช่วยระหว่างที่ตุลการไม่อยู่แต่ตัวเลือกของปุรินไม่มีทางเป็นเธอ ญดารินคือทางเลือกสุดท้ายที่ชายหนุ่มจะนึกถึงเสมอ “โอเค เธอเข้าใจถูกทุกอย่าง ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องอ้อมค้อมให้เสียเวลา” “ค่ะ” “วันนี้ฉันจะพาเธอไปหาหมอ ปรึกษาเรื่องฉีดยาคุมแล้วไม่ต้องกังวลนะว่าเรื่องนี้จะถึงหูคุณย่า เธอมีหน้าที่แค่ทำตามคำสั่งฉันก็พอ” “แค่นี้ใช่ไหมคะที่คุณอยากพูด” ญดารินลอบกลืนน้ำลายลงคอ ปฏิเสธไม่ได้หัวใจเธอบีบรัดรุนแรงเมื่อได้ยินคำสั่งจากปากสามี แต่พอลองทบทวนดูดีๆ ทางออกนี้ก็เข้าท่าเหมือนกัน เขาไม่อยากให้ลูกกลายเป็นพันธะระหว่างเรา ฉะนั้นป้องกันแบบนี้ถือว่าดีที่สุด “ใช่ ฉันไม่อยากพลาดเด็กคนหนึ่งไม่ควรเกิดมาผูกมัดคนที่ไม่รักกัน พอหมดสัญญาเธอก็มีทางของเธอ ส่วนฉันก็มีชีวิตของฉันเราต่างคนต่างไป” “แต่หญ้าก็ยังอยู่ที่บ้านหลังนั้นในไร่ของคุณ” เพราะกระบอกตาร้อนผ่าวญดารินจึงเบี่ยงสายตาไปทางหน้าต่าง ปุรินผลักไสไล่คนที่ไม่ต้องการอย่างเลือดเย็น แต่ละบทสนทนาตอนคุยกันไม่มีสักครั้งที่อีกฝ่ายคิดรั้งเธอให้อยู่ข้างกาย แค่อาศัยในมุมเล็กๆ อย่างบ้านท้ายไร่ยังมากไปสำหรับเขา “อะไรที่ไม่ใช่ของตัวเองเธอควรปล่อยวางนะกอหญ้า หลังได้ที่ดินของน้าเอื้องเธอควรไปอยู่ในที่ที่สมควรอยู่” “ที่ที่สมควรอยู่ หมายความว่ายังไงคะคุณอยากไล่หญ้าให้ไปอยู่ที่อื่น?” “แล้วเธอคิดว่ามันไม่น่ากระดากใจบ้างเลยหรือไง ถ้าวันหนึ่งฉันแต่งงานใหม่แล้วพาผู้หญิงคนนั้นเข้าบ้าน เธอต้องคอยดูแลเมียฉันแบบนี้คนอื่นเขาจะมองความสัมพันธ์เฮงซวยนี้ว่าไง” “คุณปุนอยากแต่งงาน” สิ่งที่เขาตอบมีอานุภาพไม่ต่างกับหมัดน็อกสยบทุกคำถาม ไม่ใช่ปุรินไม่อยากแต่งงานเพียงแค่คนที่เขาจินตนาการไว้ในอนาคตไม่ใช่เธอ น่าสมเพชจริงๆ เลยนะญดาริน ผลของการอยู่ผิดที่ผิดทางคือความเจ็บปวด ดังนั้นจะเสียใจก็คงเป็นเรื่องธรรมดา “วันหนึ่งฉันต้องมีครอบครัว ตาหมอกเองก็คงอยากมีแม่” “หญ้าไม่ใช่ครอบครัวของคุณใช่ไหม” หญิงสาวสูดลมหายใจจากนั้นก็เอ่ยถาม “ถึงฉันไม่พูดเธอน่าจะรู้คำตอบดีนะกอหญ้า” สีหน้าราบเรียบยังไม่เจ็บเท่าแววตาที่สะท้อนออกมาว่าเธอคือส่วนเกิน สุดท้ายเสียงหวานจำต้องตอบกลับเหมือนเข้าใจทั้งที่ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายเบาลงจนเจ้าตัวเองก็ไม่แน่ใจว่ามันเต้นอยู่หรือเปล่า “โอเคค่ะ หลังหย่าหญ้าจะลองคิดเรื่องที่คุณหวังดี” “อืม” ปุรินรับคำเสียงขรึม นัยน์ตาคมกริบสนใจท้องถนนเบื้องหน้าทิ้งหญิงสาวไว้กับความปวดร้าวซึ่งผสมกับความเห็นแก่ตัวข้างใน หรือบางทีเธอควรปล่อยท้องเพื่อจับอีกฝ่าย ครั้นพอความคิดแย่ๆ พวกนั้นเริ่มฟุ้งซ่านประโยคหนึ่งพลันปรากฏชัดเจน ‘มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่คิดว่าการมีลูกจะหยุดผู้ชายคนหนึ่งได้’ งั้นตอนนี้ญดารินคงเป็นผู้หญิงที่โง่ที่สุดในโลก… แต่ท้ายที่สุดญดารินไม่ปล่อยให้ตัวเองโง่งมเพราะความรักเป็นครั้งที่สอง หลังได้คุยเรื่องดังกล่าวบนรถ ใช้เวลาเกือบชั่วโมงพวกเขาก็มาถึงโรงพยาบาล ปุรินนัดแนะกับสูตินารีแพทย์ที่ตัวเองรู้จัก ทั้งคู่เข้าไปพูดคุยสักพักก็ได้ข้อสรุปในการคุมกำเนิดที่เหมาะสมคือเธอต้องฉีดยาคุม ดังนั้นจึงต้องรอให้ประจำเดือนของญดารินมาก่อน เพราะการฉีดตัวยาเข้าไปนั้นสามารถทำได้หลังจากมีรอบเดือน “ฉันมีนัดคุยธุระต่อเธอจะไปไหนหรือเปล่า” เสียงทุ้มถามขณะทั้งสองกำลังจะก้าวออกนอกอาคาร “หญ้ามีนัดเหมือนกันค่ะ งั้นเราแยกกันตรงนี้เลยก็ได้” “นัด? กับใคร?” คิ้วเข้มขมวดอย่างฉงน ปกติญดารินมีเพื่อนที่ไหน คนรู้จักเธอน้อยจนแทบนับนิ้วได้อีกอย่างเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่เขามักได้ยินคุณย่าเล่าให้ฟังจนรู้จักพวกหล่อนเกือบหมด “พี่ไหมค่ะ” ปุรินพยักหน้ารับครั้งหนึ่ง ‘เหมือนไหม’ เคยทำงานต้อนรับที่ภูผาอิงดาว หญิงสาวหลบมาพักใจหลังเจอมรสุมชีวิตลูกใหญ่จากชายคนรัก หล่อนพบกับญดารินซึ่งเป็นนักศึกษาฝึกงานกระทั่งสองสาวสนิทสนมกัน ทว่าหลังจากนั้นภควัตพ่อของลูกเหมือนไหมก็กลับเข้ามา นักธุรกิจหนุ่มรูปงามตามง้อเมียนานแรมปี และแล้วอานุภาพความรักก็สามารถเอาชนะความเกลียดชังและบาดแผลในใจได้สำเร็จ ทั้งคู่กลับมาเป็นครอบครัวใหม่โดยมีโซ่ทองคล้องใจนั่นคือ ‘เต็มรัก’ และ ‘ต้องคุณ’[1] เมื่อเข้าใจตรงกันจึงแยกย้ายไปคนละทาง ญดารินใช้แอปพลิเคชันเรียกรถโดยสาร ไม่นานหญิงสาวก็ถึงห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง ทันทีที่ก้าวเข้าไปในร้านแฟรนไชส์ขนมหวานข้างๆ Kid’s zone เธอก็เห็นเหมือนไหมรออยู่ พี่สาวคนสวยโบกมือทักพอเป็นพิธี พอญดารินหย่อนตัวนั่งตรงข้ามหล่อนก็ขยับริมฝีปากยิ้มให้อย่างเอ็นดู “โอ๊ยไม่เจอนาน พี่คิดถึงหญ้ามากรู้ไหม” นัยน์ตาคู่หวานสะท้อนว่าตื่นเต้นอย่างไม่ปิดบัง เมื่อก่อนสองสาวทำงานด้วยกันแทบทุกวัน หลายครั้งยามหล่อนทุกข์ใจก็มีญดารินนี่แหละคอยให้คำปรึกษาและเคียงข้าง หญิงสาวตัวเล็กๆ คนนี้เป็นน้องสาวที่น่ารักจนทั้งหล่อนและเต็มรักติดเธอแจ “หญ้าก็เหมือนกันถึงเราคุยกันบ่อย แต่ก็ไม่เหมือนตอนพี่ไหมอยู่ที่ไร่อะ บอกตรงๆ ตั้งแต่พี่ไหมกลับมาที่นี่หญ้าเหงามาก” “เหงาอะไรย่ะ เธอพึ่งมีครอบครัวไปนี่ ขอโทษนะพี่ไม่สบายเลยไม่ได้ไปแสดงความยินดีด้วยตัวเอง” “ไม่สบายพี่เป็นอะไร” “ท้อง” “กรี๊ดจริงเหรอ คุณภาคนี่ทั้งขยันทำการบ้านแถมน้ำยายังดีอีกด้วย” หญิงสาวหรี่ตาแซว อีกไม่นานคงได้พบสมาชิกครอบครัวคนใหม่เด็กน้อยในท้องเหมือนไหมต้องน่ารักน่าชังมากแน่ๆ “แต่แค่สามคนพอแล้วนะมากกว่านี้พี่ไม่ไหวแล้ว เจ้าขาแสบเหมือนพ่อเข้าทุกวัน ส่วนเจ้าคุณก็ซนพอๆ กันเนี่ยดูอย่างวันนี้พี่มาเจอหญ้า สามคนพ่อลูกเขาก็กระเตงๆ กันมาป่วนด้วยนู้นไปคีบตุ๊กตาอยู่ตรงนู้นแน่ะ” “น่ารักอบอุ่นจะตาย” “จ้ะเธอลองมีเองดูสิ ตอนนี้พี่อุ่นจนร้อนหมดแล้ว” เสียงหวานบ่นจากนั้นก็หยิบของขวัญชิ้นใหญ่ออกจากกระเป๋าสะพาย กล้องฟิล์มยี่ห้อดังใส่ถุงผูกโบว์ลายน่ารัก พอเห็นคนรับถึงกับระบายยิ้มขำ เหมือนไหมสมกับทำงานหน้ากล้องบนโลกออนไลน์จริงๆ ดูของขวัญชิ้นนี้สิบอกตัวตนผู้เลือกได้ดี “ขอบคุณนะพี่ไหม เลือกได้ถูกใจหญ้าที่สุด” “ไม่เป็นไรพี่รู้หญ้าต้องอยากเก็บความทรงจำดีๆ ไว้แน่ แล้วเป็นไงบ้างชีวิตหลังแต่งงานโอเคไหม มีความสุขหรือเปล่า” “พี่ไหมพูดเหมือนไม่รู้จักคุณปุน” ญดารินกลั้วหัวเราะ “พี่ก็รู้ความสัมพันธ์ระหว่างหญ้ากับเขาก่อนแต่งเราเป็นยังไง พอแต่งกันไปไม่ได้จะดีกว่าเดิมนะเผลอๆ แย่ลงด้วยซ้ำ” เจ้าสาวมือใหม่พรูลมหายใจอัดอั้น “แต่หญ้ารักเขานี่ใช่ไหม พี่คิดว่าพี่มองไม่ผิดนะแววตาหญ้ามันฟ้องว่ารักมาก” เหมือนไหมเอื้อมไปลูบหลังมือน้องสาว ปลายนิ้วยาวมอบความอุ่นใจด้วยสัมผัสเบาๆ บนผิวขาวผ่อง “พี่เข้าใจนะเรื่องแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้หรอก แต่หญ้าก็ต้องรักตัวเองเยอะๆ นะรู้เปล่า” แววตาคนฟังสั่นระริก เมื่อก่อนญดารินเข้าใจว่าการตอบรับเรื่องแต่งงานถือว่าเธอเข้าใกล้ชายหนุ่มไปแล้วก้าวหนึ่ง แต่วันนี้ชัดเจนแล้วว่าความคิดพวกนั้นโง่เขลาสิ้นดี หญิงสาวไม่สามารถคว้าหัวใจแกร่งได้ดั่งหวัง เพราะปุรินตัดสิทธิ์กันตั้งแต่ยังไม่เริ่ม “จากประสบการณ์พี่ ความดีไม่เคยเอาชนะใจใครได้จริงๆ หรอก เพราะฉะนั้นถึงคุณปุนจะมีที่ดินของน้าเอื้องเอาไว้ต่อรองแต่หญ้าเองใช่ว่าจะไม่มีอะไร” “หมายความว่ายังไง พี่ไหมอยากบอกอะไรหญ้า” “หญ้าอย่าลืมนะว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในฐานะเมียเขา” น้ำเสียงจริงจังกล่าว “คนเป็นผัวต้องทำหน้าที่ผัวที่ดีคือการให้เกียรติเมีย ถ้าเรื่องง่ายๆ แค่นี้ทำไม่ได้พี่บอกเลยต่อไปหญ้าอย่าไปหวังอะไรจากผู้ชายห่วยๆ แบบนั้นเลย” ดวงตาสีน้ำตาลเจือประกายแข็งกร้าว ญดารินไม่แปลกใจเลยทำไมเหมือนไหมถึงปราบเพลย์บอยตัวฉกาจอย่างภควัตได้อยู่หมัด พี่ไหมไม่ปล่อยให้หัวใจนำทางอย่างเดียวหล่อนใช้สมองควบคู่ไปด้วย “งั้นหญ้าควรทำยังไงต่อ” “ความรักมันไม่ได้สวยงามเหมือนเทพนิยายหรอก ชีวิตจริงโหดร้ายกว่านั้นเยอะ เขาร้ายมาเราต้องหัดร้ายตอบบ้างพวกผู้ชายจะได้สำนึกว่านี่เมียไม่ใช่ที่รองมือรองตีน” [1] ติดตามเรื่องราวของภควัตและเหมือนไหมได้ใน ‘เสียแรงที่รัก’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD