พวงมาลัยดอกไม้สดถูกโยนบนเตียงตามความหงุดหงิดของเจ้าตัว ปุรินถอดสูททิ้งลงตะกร้าจากนั้นก็ปลดกระดุมเชิ้ตเผยแผงอกและกล้ามหน้าท้อง ร่างบึกบึนคว้าผ้าเช็ดตัวเตรียมเข้าห้อง แต่ท่าทางที่เหมือนลูกกวางหลงฝูงน่าหงุดหงิดจนต้องตวัดตามอง ชายหนุ่มแค่นยิ้มพลางย่างกรายเข้าใกล้คนขี้กลัว ทีตอบตกลงยอมเป็นเมียละง่ายเชียว พอตอนเข้าหอด้วยกันละมาทำเป็นขวัญอ่อนคิดว่าเขาจะเชื่อจริตมารยาปลอมๆ อย่างนี้หรือ
“น่ารำคาญว่ะ” ปุรินถามขณะพาดแขนกักขังร่างเล็กบนโซฟา
“ฉันไม่จับทำเมียหรอกคืนนี้ เธอหน้าซีดเหมือนผี เห็นแล้วหมดอารมณ์”
“หมายความว่าไงคะ คืนนี้…” คิ้วพาดเรียงขมวดมุ่นอย่างไม่เข้าใจ เรามีสถานะเป็นสามีภรรยาก็จริงแต่ชายหนุ่มตั้งกฎห้ามเธอท้องเด็ดขาดนั่นจึงทำให้ญดารินวางใจว่าความสัมพันธ์ทางกายไม่มีทางเกิดขึ้น
“เธอซื่อหรือแกล้งโง่กันแน่กอหญ้า คิดว่าอยู่ด้วยกันตั้งนานฉันจะไม่แตะต้องเธอเลย” ปุรินหัวเราะในลำคอ ยายเด็กนี่ทำตัวเหมือนมีชีวิตอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ เวลาตั้งสองปีเขาไม่ใช่คนดีขนาดจะยอมทรมานเพื่อใคร ในเมื่อมีสถานะสามีของเธอค้ำคอ ญดารินควรตอบแทนอิสรภาพเขาให้สมน้ำสมเนื้อเช่นกัน และปุรินก็นึกไม่ออกนอกจากหน้าที่เมียคั่นเวลา ยายเด็กนี่จะเหลือประโยชน์อะไร
“เขารู้กันทั้งจังหวัดว่าฉันแต่งงานมีเมียเป็นตัวเป็นตนไม่ใช่หนุ่มโสดเหมือนเมื่อก่อน ฉันจะทำตัวระยำไปเอากับคนอื่นทั้งที่มีทะเบียนสมรสคาอยู่ได้ยังไง เธอเป็นเมียก็ต้องทำหน้าที่เมีย”
“แต่คุณปุนไม่ได้รักหญ้า”
“อย่าเรื่องมากแค่มีเซ็กซ์ไม่จำเป็นต้องรัก” น้ำเสียงเรียบเฉยจงใจเฉือนหัวใจคนฟัง เจ็บยิ่งกว่าไม่รักคือปุรินแสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่คิดแบ่งใจให้เธอ เขาไม่ให้ค่าเธอมากกว่าฐานะคู่นอนที่มีทะเบียน
“แล้วถ้าหญ้าท้อง…”
“พูดจาไร้สาระญดาริน เธอกินยาคุมส่วนฉันใส่ถุงยางมันจะไปท้องได้ยังไงวะ” ชายหนุ่มดันลิ้นเข้ากระพุ้งแก้มยามหมดความอดทนกับคำถามเพ้อเจ้อ
“นอกจากเธออยากใช้โอกาสนี้หาทางให้ตัวเองสบาย เพราะฉันไม่พลาดกับเรื่องง่ายๆ เธอก็น่าจะรู้” ปุรินทาบหลังมือสัมผัสเสี้ยวหน้าหวานก่อนเชยคางและก้มหน้าลงไปสบตาเจ้าสาวชัดๆ
“ขอเตือนไว้อย่างนะ มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่คิดว่าการมีลูกจะหยุดผู้ชายคนหนึ่งได้” คนมองโลกสีเทาเล่าตามประสบการณ์ที่เคยเจอ
“เธอไม่ดื้อไม่มีปากเสียงนั่นเป็นข้อดีที่สุดนะกอหญ้า เพราะงั้นอย่าถามเยอะขี้เกียจตอบเป็นเมียที่ดีต้องเชื่อฟังผัวเข้าใจ๊” ญดารินสบตาผู้พูดสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แววตาเลื่อนลอยมองคนใจร้ายกล่าวคำขู่จนจบ หลังจากนั้นเขาก็สะบัดตูดหนีเดินเข้าห้องน้ำ
การตัดสินใจล้ำเส้นเข้ามาในพื้นที่ต้องห้ามถ้าไม่เจียมตัวเธอก็ควรเตรียมรับความบอบช้ำตั้งแต่เนิ่น หญิงสาวชันเข่าทั้งสองข้างพลางซุกหน้าระบายความเสียใจเงียบๆ ริมฝีปากอมชมพูกลั้นเสียงสะอื้น
“ฮึก…” ญดารินหอบหายใจคล้ายกำลังขาดอากาศ รูจมูกรัดตึงเหมือนคนจมน้ำต่างกันตรงที่เธอจมกองน้ำตา การแอบรักใครสักคนแต่ไม่สมหวังสุดท้ายแค่ต้องมูฟออน
และเธอเองก็เคยพยายามทำมาแล้วครั้งหนึ่ง หลายปีก่อนคนอ่อนแอถึงขนาดหอบหัวใจช้ำๆ ไปเรียนต่อยังเมืองกรุง แต่ไม่นานญดารินก็ถูกผลักกลับมาที่เดิม กลับเข้ากรงขังสังเวยความรักที่มีให้เขาเหมือนดั่งอดีต
ติ๊ด! ติ๊ด!
เสียงสั่นของสมาร์ตโฟนปลุกหญิงสาวหลุดภวังค์ เธอใช้หลังมือเช็ดน้ำตาและลุกขึ้นเดินไปทางโต๊ะหัวเตียง ไม่ทันหยิบโทรศัพท์ฝ่ามือเปียกชื้นกลับชะงักค้างกลางอากาศ
ญดารินแค่นยิ้มทั้งที่กระบอกตาร้อนผ่าวการเห็นเจ้าบ่าวเก็บความทรงจำเกี่ยวกับรักแรกในคืนเข้าหอช่างน่าประทับใจจริงๆ
เหอะ!
แม้อีกฝ่ายทำให้เจ็บช้ำแทบเสียผู้เสียคน แต่ชายหนุ่มยังลืมเธอคนนั้นไม่ได้ เขาตัด ‘รสริน’ ไม่เคยขาดหรือทำใจตัดไม่ลงกันแน่ ญดารินอยากรู้จริงๆ หญิงสาวในกรอบรูปคือไฮโซหน้าสวยที่ครอบครองหัวใจพ่อเลี้ยงหนุ่มนานหลายปี แต่สุดท้ายเธอดันหนีไปแต่งงานกับผู้ดีตาน้ำข้าวและย้ายไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ
หลายปีก่อน…
บริเวณห้องรับแขกยามค่ำเหลือแค่ไฟสลัวให้แสงสว่างเพียงน้อยนิด ร่างอรชรในชุดนอนแขนยาวไม่ทันก้าวขึ้นบันได เสียงโอ้กอ้ากในห้องครัวก็ดึงความสนใจให้ฉงน พอเธอตรงเข้าไปจึงพบคนเมาหมดสภาพเกาะซิงค์ล้างจาน
“คุณปุน” เสียงสั่นแสดงความเป็นห่วงขณะค่อยๆ พยุงร่างสูง
“คุณปุนได้ยินหญ้าไหม” เธอถามพลางลอบสังเกตใบหน้าหล่อที่แดงก่ำเพราะฤทธิ์ของน้ำเมา
“ฮึก…เอาเหล้ามา!” พ่อเลี้ยงหนุ่มทำจมูกฟุดฟิด ตอนนี้เนื้อตัวเขาอบอวลไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์และของเหลวที่สำรอกออกมา
“อย่ามายุ่ง…จากินเหล้า”
“ค่ะๆ เดี๋ยวหญ้าเอาเหล้าให้กิน” ญดารินรับปากอย่างขอไปที มือกระชับเอวสอบแม้อีกฝ่ายจะเลอะแค่ไหนแต่เวลานี้สิ่งเดียวที่เธอให้ความสำคัญคือต้องพาปุรินขึ้นห้อง พรรณนารายจะมาเห็นภาพหลานชายเมาเละเหมือนหมาไม่ได้เด็ดขาด เพราะเท่าที่เป็นอยู่ท่านก็เจ็บช้ำมามากพอ
เธอประคองชายหนุ่มที่เอาแต่ร้องหาเหล้าอย่างเงอะงะ เมื่อพ้นอาณาเขตบันไดเดินต่ออีกไม่กี่ก้าวก็ถึงห้องเขา ญดารินเปิดประตูจากนั้นก็ทิ้งปุรินลงบนเตียง
“คุณปุนคะ…” เสียงเล็กเอ่ยพลางตบแก้มสากเบาๆ เมื่อไร้สัญญาณตอบกลับคนหวังดีจึงปลดกระดุมเชิ้ตออกทุกเม็ด เธออยากให้ชายหนุ่มหลับสบายแต่หารู้ไม่สิ่งที่ทำตอนนี้อีกไม่นานจะสร้างหายนะให้ตนเอง
หญิงสาวยังไม่ทันหยิบผ้าเช็ดตัวคนข้างหลังกลับกระชากร่างบางจนปลิวหวือ ข้อมือถูกกดจมเตียงจากนั้นร่างแข็งแกร่งก็พลิกมาขึ้นคร่อมเธอ
“โรส…อย่าทิ้ง อย่าทิ้งผมไป” ใบหน้าเปื้อนหยาดน้ำตาซุกไซ้ซอกคอขาว เสียงสะอื้นของคนผิดหวังฉายชัดอณูความปวดร้าวยามเรียกชื่อคนรัก
“ปล่อย… นี่หญ้าไม่ใช่คุณโรส” พอได้ยินเช่นนั้นคนใต้ร่างพลันเจ็บปวดเช่นเดียวกับเขา เธอเข้าใจความรู้สึกปุรินอย่างถ่องแท้ การรักใครสักคนแต่ไม่ถูกเลือกมันทั้งขื่นขมและทุกข์ทรมานแค่ไหนญดารินรู้ดี
“คุณปุน อย่าทำหญ้า!”
“โรส… ฮึก… คุณใจร้าย” รสรินใจร้ายแต่สิ่งปุรินทำตอนนี้กลับเลือดเย็นยิ่งกว่า ไรฟันคมขบเม้มฝากรอยรักและรอยมลทินในเวลาเดียวกัน
“ฮึก… อย่า” มือแกร่งดึงกางเกงผ้าซาตินจากนั้นก็ตะโบมจูบปิดปากคนที่เอาแต่ร่ำร้อง แม้รสจูบที่เฝ้ารอหวานปานน้ำผึ้งแต่ช่างน่าอดสูเพราะตนเป็นได้แค่ตัวสำรองระบายความใคร่ หญิงสาวที่เขาถวิลหาไม่ใช่เธอแต่กลับเป็นใครอีกคนซึ่งอยู่ในทุกลมหายใจเข้าออก
“โรส…” นัยน์ตาพร่าเบลอที่จ้องมอง ทุกสัมผัสที่แตะต้องล้วนเกิดขึ้นเพราะกุหลาบงามไม่ใช่ดอกหญ้าริมทาง
“คุณปุน…” เมื่อปุรินผละริมฝีปากญดารินจึงมีโอกาสสบตาคมเข้มชัดๆ จูบเขาให้ความอบอุ่นบนผิวกายแต่ไม่อุ่นไปถึงใจดวงน้อย
ปลายนิ้วนุ่มเกลี่ยรอยน้ำตาข้างขอบตาปุริน ความรู้สึกหลากหลายตีรวนในอกจนดวงตาคู่งามสั่นสะท้าน กระบอกตาเธอร้อนผ่าวจากนั้นหยาดน้ำตาจึงไหลทะลักอย่างอัดอั้น
หากคืนนี้ชายหนุ่มอยากใช้ร่างกายเธอระบายความคิดถึงที่มีให้ผู้หญิงคนนั้นญดารินจะยอมเป็นเงาเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำ แม้พรุ่งนี้ฟ้าสว่างความสัมพันธ์ระหว่างเราต้องกลับมาเหมือนเดิม เขาอยู่ในฐานะพ่อเลี้ยงส่วนเธอก็แค่ลูกสาวคนงานในไร่ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องก็ไม่เป็นไร
“อย่าทิ้งผมได้ไหม โรส…”
“ค่ะ โรสไม่ทิ้งคุณ” ความเจ็บปวดจุกแน่นกลางอกขณะจุมพิตดำเนินต่ออีกรอบ ทางที่เธอเลือกทั้งโง่เขลาและน่าสมเพชญดารินยอมรับ เธอไม่ปฏิเสธเพราะการกระโดดลงไปทั้งที่ตรงหน้าคือปากเหวไม่ต่างอะไรกับเอาชีวิตไปทิ้งฟรีๆ หัวใจเธอก็เช่นกัน
ญดารินยินดีมอบมันให้ชายหนุ่มขยี้เล่น เธอเต็มใจแลกทุกอย่างเพื่อซึมซับไออุ่นที่โหยหา อย่างน้อยเพียงชั่วข้ามคืนก็นับว่าคุ้มค่าสำหรับคนที่แอบรักเขามาอย่างยาวนาน พอโรมรันกันเสร็จปุรินก็ถอดกางเกงเตรียมเสียบอาวุธรักที่พรั่งพร้อม
“หญ้ารักคุณ…” เสียงหวานสารภาพความในใจก่อนกายแข็งกร้าวล่วงล้ำเข้ามา หากความปวดร้าวของสัมผัสแปลกใหม่เทียบไม่ได้กับคำตอบที่ได้ยินหลังจากนี้
“ผมรักโรส…” พื้นที่ในหัวใจชายหนุ่มไม่ใช่ของเธอตั้งแต่ต้น คำรักก้องหูจึงมีอานุภาพดั่งน้ำกรดกัดกินหัวใจคนไม่เจียม ปุรินตอกย้ำสิทธิ์เมียข้ามคืนผ่านคำ ‘รักรสรินซ้ำๆ’ เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นขอบฟ้าก็หมดเวลาของดอกหญ้าไร้ค่าดอกนี้