Chapter 6 | คนพิเศษ

1619 Words
"เป็นยังไง คุ้นหน้าผมขึ้นไหมครับ" หลังจากที่เด็กหนุ่มด้านหน้าเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนั้น อยู่ดี ๆ เธอก็รู้สึกคุ้นหน้าเขาขึ้นมา พร้อมกับอาการเห่อร้อนที่หน้า แล้วพูดอะไรไม่ออก "ตกลงจะรับผิดชอบผมยังไงครับ พี่คนสวย" ชายหนุ่มพูดแล้วยิ้ม “พี่คนสวยครับ” "ระ...รับผิดชอบอะไร ก็ฉันทิ้งเงินไว้ให้แล้วหมื่นนึงไม่เห็นหรือไง" เพราะถึงเราสองคนเอากันจริง เธอก็ไม่ได้เอากับเขาฟรี ๆ ยังมีเงินที่ทิ้งไว้ให้ตั้งหมื่นนึง เป็นค่าตัว ยังต้องการให้รับผิดชอบอะไรอีกด้วย ให้ตายเถอะไอ้เด็กบ้านี่ "หล่อ เพอร์เฟ็กต์แบบผม มีค่าคืนละหมื่นเองเหรอ มันไม่น้อยไปหน่อยเหรอครับ" "ที่นายถ่อสังขารมาถึงนี่ คืออยากได้เพิ่มใช่ไหม งะ...อื้ออ" เรนนี่ที่ยังพูดไม่ทันจบประโยค ก็ถูกเด็กหนุ่มดึงเข้าไปจูบ ซึ่งเธอที่ตกใจมาก รีบใช้มือผลักอีกฝ่ายออก "นะ...นายมาจูบฉันทำไม" "ก็ปากพี่มันน่าจูบเองนี่ ผมเลยอดใจไม่ไหว” ปราชญ์ใช้มือเช็ดคราบน้ำลายออกจากริมฝีปาก “ไอ้บ้า ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ ฉันไม่น่าปล่อยให้นายเข้ามาเลย" "พี่เรนครับ" "ออกไปสิ ไม่อย่างนั้นฉันจะโทรเรียกให้รปภ. ขึ้นมาลากนายออกไป” “อยากทำอะไรก็ทำ ผมไม่สนอะไรทั้งนั้น เพราะถ้าพี่ไม่รับผิดชอบผม ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น” เด็กหนุ่มพูดหน้าตาเฉย แล้วขยับลงไปนั่งบนเก้าอี้ทำงานของเธอ เรนนี่ที่ยืนมองอยู่ ก็รู้สึกปวดหัวกับคนตรงหน้าเป็นอย่างมาก จึงเลือกที่จะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานขึ้นมาต่อสายหาเลขา (ว่าไงคะบอส) “เรียกรปภ. ขึ้นมาห้องฉันหน่อย” (เรียกทำไมเหรอคะมีอะไรหรือเปล่า) “ฉันบอกให้เรียกก็เรียกเถอะน่า ไม่ต้องมาถามมากได้ไหม” เรนนี่พูดใส่อารมณ์กับคนปลายสายไป แล้วกดตัดสายวางโทรศัพท์ตัวเองลง พร้อมกับหันหน้ามาจ้องมองเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนโต๊ะทำงานของเธอ “รปภ. กำลังขึ้นมา ถ้านายไม่อยากเจ็บตัว ฉันว่านายยอมเดินออกไปดี ๆ เองดีกว่า” “ไม่อะ” ชายหนุ่มส่ายหน้าไปมา อย่างคนไม่รู้ร้อนรู้หนาว “นี่ ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ รปภ. กำลังขึ้นมาจริง ๆ” “ผมก็ไม่ได้บอกว่าพี่พูดเล่นซะหน่อย” ปราชญ์พูดเสร็จแล้วก็ลุกขึ้นเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเรนนี่ “อย่ามาใกล้ฉัน ถอยออกไปห่าง ๆ” เรนนี่เริ่มเสียงเข้ม เพราะเริ่มทนไม่ไหวกับคนตรงหน้าแล้ว “โทรบอกให้เลขาของพี่บอกรปภ. ว่าไม่ต้องขึ้นมา” “กลัวแล้วเหรอ กลัวทำไม เมื่อกี้เพิ่งท้าทายฉันเอง” หญิงสาวพูดเยาะเย้ย ในที่สุดไอ้บ้านี่ก็เริ่มกลัวเสียแล้ว “ไม่ได้กลัว ก็ถ้ามีคนมาลากผมออกไป ผมจะไม่คืนสร้อยนี้ให้นะ ใช่ของพี่หรือเปล่าครับ” หลังจากที่เด็กหนุ่มพูดแบบนั้น เธอที่กำลังก้มหน้าอยู่ก็รีบเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าเป็นสร้อยคอเส้นโปรดของเธอที่อยู่บนมือของเขา “เอาของฉันมานะ” หญิงสาวรีบเดินเข้าไปหาเด็กหนุ่มที่นั่งบนโต๊ะทำงานเพื่อแย่งสร้อยคอของตัวเองกลับมา แต่แล้วก็พลาดท่าให้เด็กหนุ่มดึงเธอเข้าไปกอดได้ “ปล่อยฉันนะ” เรนนี่พยายามดิ้นเพื่ออยากให้ตัวเองเป็นอิสระจากเด็กหนุ่ม “ตัวพี่หอมมากเลยครับ” ปราชญ์ขยับหน้าเข้ามาสูดดมกลิ่นกายเรนนี่ “ไอ้เด็กบ้า อย่ามารุ่มร่ามฉัน เอาสร้อยฉันคืนมาเดี๋ยวนี้” เรนนี่โวยวายใส่คนที่กอดเธออยู่ ซึ่งเขาก็ยังเอาแต่กอดและยิ้มให้กับเธออย่างกับคนเจ้าเล่ห์ “ตัวพี่นุ่มมากเลย” “ไอ้โรคจิต ปล่อยฉะ…” ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! หญิงสาวที่กำลังด่าคนกอดตัวเองอยู่ยังไม่ทันจบประโยค เสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น “บอสคะ รปภ. ที่เรียกให้มาพบ มาแล้วค่ะ” “ให้ขะ…(เรนนี่)/บอกให้เลขาไล่รปภ. กลับลงไป ไม่อย่างนั้นผมไม่คืนสร้อยให้จริง ๆ นะ” ปราชญ์ที่กอดเรนนี่อยู่ก็พูดขึ้น ซึ่งหญิงสาวที่ฟังอยู่ ก็ยืนนั่งไปสักพัก ก๊อก! ก๊อก! “บอสคะ รปภ. ที่บอสให้เรียกขึ้นมาแล้วค่ะ” “บอกให้เขากลับไป ไม่มีอะไรแล้ว” เรนนี่ตะโกนบอกคนด้านนอกเสียงดัง ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันกับคนที่กอดเธออยู่ก็หัวเราะออกมาเบา ๆ โดยเธอก็หันไปจ้องมองเขาด้วยความไม่พอใจ “บอสเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ดิฉันขอเข้าไปในห้องได้ไหม” “ไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไร” พอเรนนี่ตะโกนออกไปอีกครั้ง คนที่กอดเธออยู่ก็ขยับลงไปนั่งบนเก้าอี้ พร้อมกับดึงเธอลงไปนั่งบนตักของเขา ซึ่งหญิงสาวก็ไม่ได้ต่อต้านอะไรยอมนั่งตามที่เขาต้องการ “ฉันบอกให้เขากลับลงไปแล้ว ช่วยคืนสร้อยฉันด้วย” หญิงสาวแบมือขอสร้อยตัวเองคืน แต่อีกฝ่ายแทนที่จะคืนสร้อย แต่เขากลับเก็บมันใส่กระเป๋ากางเกง “นี่ ฉันก็ทำอย่างที่นายบอกแล้วไง เอาสร้อยฉันคืนมานะ” “พิมพ์เบอร์พี่ให้ก่อน ผมสัญญาว่าจะให้คืนสร้อยให้จริง ๆ” “แต่นี่มันไม่ได้อยู่ในข้อตกลงแรกนะ” เธอพูดออกไปด้วยความไม่พอใจ แต่อีกฝ่ายก็ยังนั่งจ้องหน้าเธออยู่ ทำให้เธอต้องถอนหายใจออกมายาวด้วยความเบื่อหน่าย “งั้นเอามาสิ” เรนนี่แบมือขอโทรศัพท์จากเด็กหนุ่ม ซึ่งเขาก็ยอมหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาวางไว้บนฝ่ามือของเธอ ซึ่งเธอก็รับมากดเบอร์มั่วลงไป “ถ้าพิมพ์มั่วมาให้ แล้วผมลองโทรดูแล้วโทรไม่ติด ผมไม่คืนสร้อยนะ” โดยหลังจากที่เด็กหนุ่มพูดขู่แบบนั้น เธอก็กดลบเบอร์ที่ตัวเองพิมพ์ไปรอบแรก แล้วยอมกดเบอร์ของตัวเองลงไปแทน พร้อมกับยื่นให้กับเจ้าของโทรศัพท์ ซึ่งปราชญ์ก็รับมาถือเอา แล้วกดโทรออกเพื่อเช็กดูว่าหญิงสาวที่นั่งอยู่บนตักกดเบอร์จริงของตัวเองให้หรือไม่ ครืด! ครืด! โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะด้านหน้าดังสั่นขึ้นมา ปราชญ์ที่มองก็ยกยิ้มด้วยความพึงพอใจ เก็บโทรศัพท์ของตัวเองใส่กระเป๋า แล้วล้วงหยิบสร้อยที่อยู่กระเป๋ากางเกงอีกฝั่งขึ้นมาสวมใส่ให้กับหญิงสาวที่นั่งอยู่บนตักตัวเอง “สร้อยเส้นนี้เหมาะกับพี่มากเลย” “…..” “ผมพูดด้วย ก็พูดกับผมหน่อยสิครับ” ปราชญ์พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “ปล่อยได้แล้ว” เรนนี่เริ่มทนไม่ไหวกับพฤติกรรมโรคจิตของเด็กหนุ่ม จึงพยายามที่จะลุกขึ้นแต่คนที่เธอนั่งตักอยู่ยังไม่ยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระ “นี่” “ตกลงจะรับผิดชอบผมไหมเนี่ย” “รับผิดชอบอะไรอีก เงินก็ให้ไปแล้ว” “แต่ผมไม่ใช่หนุ่มโอสต์ที่พี่เข้าใจผิดนะ จะมาให้เงินฟาดหัวแล้วเรื่องมันจบแบบนี้น่ะเหรอ ผมไม่ยอมหรอกนะ” “แล้วจะเอายังไง พูดมาเลย” “ถ้าให้ผมพูด ผมพูดตรง ๆ เลยนะ” “…..” “ผมติดใจพี่มากเลย ตั้งแต่นอนกับผู้หญิงมาไม่ซ้ำหน้า ผมยังไม่มีอาการแบบนี้ พี่คือคนพิเศษครับ” “แล้ว?” “เรามาคบกันเถอะนะ” เรนนี่ที่นั่งฟังอยู่ก็นั่งอึ้งกับคำพูดของเด็กหนุ่ม "บ้าไปแล้วไอ้เด็กนี่" “ผมพูดจริง ๆ นะพี่ เราคบกันเถอะ” “ไม่เอา ฉันยังสนุกกับชีวิตโสด ไม่อยากผูกมัดกับใคร แล้วยิ่งเป็นเด็กแบบนายไม่มีทางเสียหรอก” “ผมก็ยังชอบชีวิตอิสระนะ แต่พอได้เจอพี่แล้ว ความคิดผมก็เปลี่ยนไป” “นายชื่ออะไรนะ” เพราะหลังจากที่พูดคุยกันมาค่อนข้างนาน เธอก็ลืมถามชื่อเขาไปเลย “ปราชญ์ครับ ปราชญ์ปริญ ปัทมกุลเดชาสกุลเกียรติ” “นามสกุลนายดังนะเนี่ย” พอได้ยินนามสกุลแล้ว เธอก็รู้ได้ว่านามสกุลนี้ต้องเป็นคนดังระดับประเทศแน่ ๆ “ไม่ใช่ดังธรรมดาด้วยครับ บ้านของผมรวยมาก ทำธุรกิจค้าอัญมณี” ปราชญ์พูดออกมาด้วยความภาคภูมิใจ “ปราชญ์ปริญ” เธอเอ่ยเรียกชื่อเขาครั้งแรก ซึ่งคนที่นั่งจ้องมองเธออยู่ก็ยิ้มดีใจ “ครับพี่เรนคนสวย” “เราเพิ่งเจอกันแค่สองครั้งเองนะ” เรนนี่พูดออกไปด้วยความเบื่อหน่าย เพราะเธอเริ่มรำคาญเด็กหนุ่มเต็มทนแล้ว “แล้วไงครับ” “ฉันว่านายแค่หลงฉันเท่านั้น กลับไปตั้งสติซะ อย่ามาพูดมั่วขอคนโน้นคนนี้เป็นแฟนแบบนี้อีก” “ผมไม่ได้พูดมั่ว ขอพี่เป็นแฟนจริง ๆ” “งั้นฉันขอปฏิเสธ เพราะฉันไม่อยากมีแฟนไม่อยากคบใครทั้งนั้น ฉันอยากอยู่คนเดียว” “พี่ชอบหนุ่มโฮสต์ใช่ไหม เพราะตอนที่เรามีอะไรกัน พี่เข้าใจผมผิดว่าผมเป็นหนุ่มโฮสต์ งั้นต่อไปเวลาพี่อยาก ก็โทรมาหาผมแทน ผมจะยอมเป็นหนุ่มโฮสต์ให้เอง” “เฮ้ออออ…” เรนนี่ถอนหายใจออกมาพรืดยาว พร้อมกับซบหน้าลงบนโต๊ะทำงาน แต่เด็กหนุ่มที่เธอนั่งตักอยู่ เขากลับดันตัวเธอขึ้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD