------------พยัคฆินทร์ (เสือ) ---------
ผมยืนมองคนตัวเล็กที่เอาแต่ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของพี่สาวไม่ยอมห่าง ดวงตาแดงก่ำบ่งบอกว่าผ่านการร้องไห้มาแบบไม่ได้หยุดพัก ร่างกายที่ดูอิดโรย ทำให้ผมรู้สึกกังวล กลัวว่าเธอจะรับมือกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ไหว
"แกต้องรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น...ไอ้เสือ"
พระแพงยื่นคำขาดกับผม ซึ่งผมพร้อมที่จะยอมรับ
"ฉันยินดี...แกจะให้ฉันรับผิดชอบยังไงบอกมาเลย ฉันยอมรับผิดทุกอย่าง"
"แกต้องแต่งงานกับน้องสาวฉัน เป็นการรับผิดชอบ"
ผมยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเอง คิดอยู่แล้วล่ะว่าพระแพงต้องพูดแบบนี้ แต่สายตาท่าทางที่นิ่งอึ้งของคนข้าง ๆ ต่างหากที่ผมหวั่นใจ เธอส่ายหน้าเบา ๆ เหมือนกำลังไม่เชื่อที่หูตัวเองได้ยิน
"ไม่...ไม่นะคะ พี่พระแพง พระพายไม่ต้องการแบบนั้น" เธอแย้งขึ้น
"แต่มันเป็นวิธีเดียว ที่จะกู้ศักดิ์ศรีของน้องได้นะ พระพาย"
"พระพายไม่อยากแต่งงานกับเขาค่ะ พระพายไม่ต้องการให้เขา มารับผิดชอบอะไรทั้งนั้น พระพายต้องการออกไปจากที่นี่...เดี๋ยวนี้"
"มีเหตุผลหน่อยสิพระพาย"
"ไม่ค่ะ พระพายไม่แต่งกับเขา...เขาไม่ได้รักพระพาย พระพายไม่อยากแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักพระพาย พระพายไม่อยากแต่งกับใคร เพียงเพราะคำว่ารับผิดชอบ"
ผมนิ่งฟังอยู่นาน เธอคงเกลียดผมมากถึงได้พูดปาว ๆ อยู่คำเดียว ว่าไม่อยากแต่งงานกับผม
"แล้วพระพายจะให้พี่ทำยังไง เรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้ว พี่รู้ว่าพี่ผิดแม้จะไม่ตั้งใจ แต่พี่ก็พร้อมจะรับผิดชอบในสิ่งที่พี่ทำ"
ผมพูดขึ้นเพราะเริ่มทนฟังคำปฏิเสธของเธอไม่ไหวแล้ว มันหยามหัวใจกันเกินไป
"ไม่ต้องค่ะ พระพายขอแค่อย่างเดียว ลืมทุกอย่างให้หมด คิดซะว่าเราไม่เคยรู้จักกันเลยยิ่งดี"
"พูดง่ายดีนี่ แล้วลืมได้ง่ายเหมือนที่พูดไหม"
ผมไม่เข้าใจเธอเลยจริง ๆ ทั้งที่ผมยินดีจะรับผิดชอบ แต่เธอก็ยังดื้อที่จะค้านหัวชนฝา จะลืมทุกอย่างงั้นเหรอ คิดง่ายไปไหม ผมเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเช่นกัน ทั้งที่เธอปฏิเสธการรับผิดชอบจากผม ผมควรดีใจ แต่ทำไมผมกับหัวเสีย เพราะยัยนี่ปฏิเสธกัน
"พระพายทำได้ค่ะ เพราะมันไม่ได้เกิดจากความรัก มันไม่น่าจดจำเลยสักนิด "
ให้ตายสิแท้จริงแล้วยัยเด็กนี่ เป็นคนแบบไหนกัน ทำไมถึงได้ดื้อดึงขนาดนี้ มันน่าจับมาฟาดก้นสัก2-3ทีเสียให้เข็ด
"ก็แล้วถ้าเธอท้องลูกของพี่ล่ะ..."
ในเมื่อเธอดื้อที่จะไม่ยอม ผมก็พร้อมจะมัดมือชกด้วยเหตุผลข้อนี้ และมันก็ทำเอาเธออึ้งจนพูดไม่ออก ได้แต่หันไปมองหน้าพี่สาวแล้วน้ำตาคลอ ผมเหลือบมองไปรอบ ๆ ก็เข้าใจทันทีว่าไม่ได้มีแค่เธอที่อึ้ง แต่ทุกคนที่อยู่ในนี้ก็อึ้งไปตาม ๆ กัน
"เธอก็รู้ว่าพี่ไม่ได้ป้องกันเลยสักครั้ง แล้วจะให้พี่แน่ใจได้ยังไง ว่าลูกพี่จะไม่ติดท้องเธอไป"
"ไม่...ไม่จริงอะ ออกไป! ออกไปนะ ออกไปเดี๋ยวนี้ พระพายเกลียดพี่เสือ พระพายเกลียดพี่ ออกไป! ฮืออออ!"
อยู่ ๆ เธอก็คลุ้มคลั่งขึ้นมา จนผมเองก็ตกใจเธอปาหมอนใส่ผม ไล่ผมออกจากห้อง ทั้งร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลัง ราวกับคนกำลังสติแตก
"พระพาย! พระพาย! น้องอย่าทำแบบนี้ ใจเย็น ๆ นะโอเค ๆ ไม่แต่งก็ไม่แต่งพี่จะไม่บังคับพระพายนะ "
พระแพงกอดเธอไว้แนบอกอย่างเป็นห่วง ภาพเมื่อครู่ทำให้ผมใจหาย ผมรู้สึกเป็นห่วงเธอขึ้นมาจับใจ รู้สึกผิดกับคำพูดที่รุนแรงของตัวเอง เธอกำลังต่อต้านผมทุกวิถีทาง แล้วผมจะไปต่อยังไง ในเมื่อมันคือความเจ็บปวดของเธอ ถ้าเธอพูดว่าการลืมให้หมดทุกอย่าง มันคือทางออกที่ดีสำหรับเธอ ผมควรทำอย่างไรต่อไปดี
"ไอ้เสือ ฉันว่าแกออกไปก่อนเถอะ รอให้พระพายใจเย็นกว่านี้ก่อน แล้วค่อยพูดกัน" ไอ้อรรถดึงผมออกจากห้องไป
"พระแพง...แกพาพระพายไปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนเถอะ แล้วออกมาคุยกันข้างนอกดี ๆ นี่ก็ตีสี่ใกล้จะเช้าแล้ว พระพายจะได้พักผ่อนด้วย"
อรรถหันไปบอกพระแพง ก่อนจะดันหลังผมออกจากห้อง ผมเดินออกมานั่งลงที่โซฟาห้องโถงรับแขกอย่างเมื่อยล้า หัวยังหนักอึ้งอยู่เลย