หลังจากพายุแห่งอารมณ์สงบลง ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็แล่นเข้ามาแทนที่ สติของผมค่อย ๆ กลับมา ความผิดปกติค่อย ๆ จางหายไป
ผมลุกขึ้นหยิบกางเกงที่ตกอยู่บนพื้น ขึ้นมาสวม ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบ บริเวณห้องที่สภาพเละเทะดูไม่ได้ ข้าวของตกกระจายเต็มพื้น
ผมพยายามทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น ภาพที่เลือนรางแวบขึ้นมาในหัว สลับไปสลับมาเต็มไปหมด จนต้องสะบัดหัวแรง ๆ เพื่อไล่เรียงภาพเหล่านั้น
ผมหันไปมองคนที่กำลังนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ตรงมุมหัวเตียง เธอก้มหน้างุดกับเข่าอยู่อย่างนั้นตั้งแต่ตอนที่ผมผละออกห่างจากร่างเธอ
ร่างบางสั่นสะท้านจากการร้องไห้สะอึกสะอื้น ร่างเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าห่มคุมไว้ถึงหน้าอก ไหล่ขาวนวลไร้อาภรณ์ปกปิดไหวสั่นอย่างน่าสงสาร
ผมมองลงไปที่พื้นห้องนอน เห็นเสื้อผ้าของเธอตกกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง ก่อนจะเหลือบไปเห็นบางอย่างที่เปื้อนอยู่บนผ้าปูที่นอนอย่างเด่นชัด มันคือรอยหยดเลือดสีสดเป็นดวง ๆ หลักฐานแสดงถึงความโหดร้ายของผมที่มีต่อเธอ
ผมก้มลงเก็บเสื้อผ้าของเธอทีละชิ้น จนครบแล้ววางรวมกันไว้ที่เตียง ก่อนจะเดินไปนั่งลงคุกเข่าข้างเตียง ตรงมุมที่เธอนั่งอยู่
ผมยื่นมือเข้าไปแตะตรงไหล่เธอ เพื่อที่จะปลอบโยน แต่เธอเลือกที่จะขยับหนีมือของผมไม่ให้ผมแตะโดนตัว
"อย่าแตะต้องพระพายอีกนะ ออกไป! "
เธอไล่ผมทั้งที่ยังนั่งก้มหน้า ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมเลยสักครั้ง
ผมวางมือลงไปบนเท้าเล็ก ๆ แทน เหมือนเธอจะรับรู้ถึงสัมผัสนี้ จึงกระถดเท้าถอยหนีมือของผม ผมจึงกำข้อเท้าของเธอเอาไว้แน่น และก้มหน้ารู้สึกผิดอย่างร้ายแรงกับสิ่งที่ผมทำลงไป
"พี่ขอโทษ พี่...พี่ไม่ได้ตั้งใจ...พี่ขอโทษพระพาย"
ผมขอโทษเธอซ้ำไปซ้ำมา ผมรู้สึกผิดจริง ๆ มันโหดร้ายกับเธอเกินไป ผมไม่ได้อยากให้มันเกิดเรื่องอย่างนี้
เธอเงียบและร้องไห้อยู่อย่างนั้น ไม่แม้แต่จะเอ่ยคำพูดใด ๆ ออกมา ถ้าเธอลุกขึ้นมาด่าผม ทุบผม หรืออาละวาดใส่ผม ผมก็จะรู้สึกดีกว่านี้ แต่นี่ไม่เลยเธอเอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว จนผมไม่รู้จะทำยังไงดี
-----พระพาย-----
จบแล้ว...ทุกอย่างมันจบแล้ว ชีวิตของฉันมันช่างน่าสมเพช ทำไมฟ้าถึงใจร้ายกับฉันถึงเพียงนี้ ทำไมต้องลิขิตให้ฉันได้เจอแต่ความเจ็บปวดและผิดหวังไม่จบไม่สิ้น
การทบทวนถึงสัมผัสวาบหวามใจ ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อครู่ ทำให้ความละอายเกิดขึ้นภายในจิตใจ แม้จะต่อต้านและขัดขืน จนสุดกำลังแค่ไหน กลับพ่ายแพ้ต่อเขาจนราบคาบ แถมยังตอบสนองสัมผัสของเขาอย่างหน้าไม่อาย ทำตัวเป็นผู้หญิงใจง่าย ยอมให้เขาเชยชมจนสมใจ
เพราะเขาคนเดียว เขาทำให้ฉันต้องเจ็บปวดและทรยศต่อความรู้สึกของตัวเอง แล้วยังมีหน้ามากล่าวคำว่าขอโทษ เพราะไม่ได้ตั้งใจอย่างงั้นเหรอ
เขาคงไม่สนใจ ว่าคำพูดนั้นมันจะทำให้ฉันเจ็บลึกไปถึงขั้วหัวใจขนาดไหน เขาไม่มีทางเข้าใจหรอกว่าฉันเจ็บปวดเพียงใด
มือที่กุมข้อเท้าของฉัน เลื่อนขึ้นมาจับที่ข้อมือของฉัน ฉันพยายามแกะมันออก และฉันก็ไม่อยากฟังเหตุผลอะไรจากปากเขาทั้งนั้น
"พระพายฟังพี่อธิบายก่อนนะ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะข่มเหงพระพายนะ แต่พี่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับพี่ พี่ควบคุมตัวเองไม่ได้ "
ฉันพยายามดึงมือข้างหนึ่งออกจากมือของเขา อีกข้างก็ยกขึ้นมาปิดหู และก้มหน้าซุกกับเข่า เพราะไม่อยากฟังคำแก้ตัวจากเขา
"ไม่! พระพายไม่อยากฟัง ออกไปซะ ออกไป! "
"พระพายต้องฟังพี่ เงยหน้าขึ้นมาคุยกับพี่ดี ๆ เราต้องตกลงกัน "
"ไม่! พระพายไม่ฟัง พระพายเกลียดพี่เสือ ไม่อยากฟัง ไม่อยากเห็นหน้า ออกไปนะ ออกไป"
ระหว่างที่ฉันกับเขา ยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่นั้น ประตูห้องก็เปิดออก
ผลัวะ! ปึง!
"พระพาย! เสือ!"
เสียงใครคนหนึ่งอุทานออกมาอย่างตกใจ ทำให้พี่เสือหยุดฉุดดึงฉันทันที เราชะงักพร้อม ๆ กัน ฉันค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองหน้าใครคนนั้น ฉับพลันน้ำตาก็ไหลพรั่งพรูออกมา
"พี่พระแพง....ฮึก ๆ ฮืออ"
พี่พระแพงรีบเดินเข้ามากอดฉันไว้ทันที ฉันซุกหน้าเข้ากับอ้อมกอดของพี่สาวอย่างโหยหา
"เกิดอะไรขึ้นพระพาย บอกพี่สิ" พี่พระแพงกอดฉันทั้งน้ำตา
"ฮึก ๆ ฮืออ"
"ไอ้เสือ! น้องพระพาย!"
เสียงของพี่อรรถดังขึ้นเมื่อเขาเพิ่งตามเข้ามาพร้อมกลุ่มพี่ ๆ
"ไม่จริงใช่ไหมเสือ อัญไม่อยากเชื่อเลยว่าเสือจะเป็นคนแบบนี้ "
พี่อัญมองคนรักด้วยสายตาที่ผิดหวัง
"เกิดอะไรขึ้นไอ้เสือ ทำไมมึงทำกับน้องเขาอย่างนั้น" พี่คามินพูดขึ้น
"พระแพง ฟังฉันอธิบายก่อนนะ"
พี่เสือที่ยืนอยู่กลางห้อง หันมาพูดกับพี่สาวของฉัน อารมณ์อยากอธิบาย
"แกจะอธิบายยังไง ไอ้เสือ...พูดมาสิพูดมา"
"ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้นะ แต่ฉันเป็นอะไรไม่รู้ ฉันควบคุมมันไม่ได้จริง ๆ"
/////เพี๊ยะ!/////
ฝ่ามือของพี่พระแพง กระทบกับใบหน้าของเขาอย่างแรง จนเสียงสนั่นห้อง
"ไม่ได้ตั้งใจงั้นเหรอ แล้วนี่มันอะไร เรื่องที่เกิดขึ้นมันคืออะไร"
"......." พี่เสือยืนเงียบกริบกับคำถามของพี่พระแพงเหมือนไม่มีคำตอบใด ๆ
พี่เสือยืนนิ่งน้ำตาคลอเบ้าและไหลลงมาอาบสองข้างแก้ม เขายกมือขึ้นเสยผม อย่างหมดปัญญาที่จะอธิบาย
"ฉันให้โอกาสแกคิดว่ามันเริ่มจากอะไรทำไมมันถึงมาจบแบบนี้ คิดสิวะ...คิด"
"ฉัน...ไม่รู้...ฉันเมามากจนไปกับพวกแกไม่ไหว ฉันเลยนอนข้างนอก และฉันก็กินยาแก้เมาของไอ้มินแล้วก็หลับไป จำได้อีกครั้งก็ตอนที่รู้สึกร้อน ๆ อึดอัดแปลก ๆ และหลังจากนั้นมันก็เบลอไปหมด ฉันรู้สึกแค่ว่าทุกอย่างมันเหมือนความฝัน แต่บางครั้งก็เหมือนจริง และมันก็คือ...เรื่องจริงว่ะ...ฉันล่วงเกินน้องแก...ฉัน...ยอมรับ"
"ไอ้เลว!" พี่พระแพงลุกขึ้นจะซัดเขาอีกครั้งอย่างเหลืออด ฉันเองก็ทนฟังไม่ไหวแล้ว
"หยุด! หยุดได้แล้ว พอที...ฮือ ๆ พี่พระแพงหยุดเถอะนะคะ พระพาย...ฮึก ๆ ขอร้อง...พระพายอยากออกไปจากที่นี่ค่ะ"
"พระพายพี่ผิดเอง ที่ทิ้งน้องไว้คนเดียวพี่ขอโทษ" พี่พระแพงกอดฉันทั้งน้ำตา
อยู่ ๆ พี่คามินก็วิ่งออกนอกห้องไปแล้วเข้ามาใหม่พร้อมขวดและแผงยา
"ไอ้เสือ...2 อันนี้ แกกินอันไหน"
พี่คามินชูขวดยาและแผงยาขึ้นถามพี่เสือ เพื่ออะไรกัน พี่เสือมองมาที่พี่คามิน ก่อนจะชี้มือไปที่ขวดสีชาเล็ก ๆ
"อันนี้... "
"ฉิบหาย! แกกินเข้าไปเยอะแค่ไหน"
"2 เม็ด" พี่เสือตอบ
"เชี่ย! มิน่าล่ะ" พี่คามินสบถอย่างตกใจ
"ทำไม? ยาอะไร?" พี่พระแพงเอ่ยถาม
"ยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ของพี่ชายฉันเอง" พี่คามินตอบเสียงอ่อย
"ฮะ! แล้วแกพกยาแบบนี้มาด้วยทำไมวะ โอ๊ย...ไอ้คามินเอ๊ย!" พี่เบญบ่นให้พี่คามิน
"ก็พี่ฉันฝากไว้ ฉันก็ลืมไปเลยว่ามันอยู่ในนี้ เห็นไอ้เสือมันปวดหัวมาก ฉันก็เลยบอกมันกินยาแก้เมาแผงนี้ ใครจะไปรู้ว่ามันจะหยิบยาผิดวะ"
พี่เสือยกมือขึ้นบีบขมับไล่ความตึงเครียดที่ตอนนี้เขาตกเป็นคนร้าย
"แล้วจะเอาไง แกไม่ผิด แสดงว่าน้องฉันซวยเองงั้นสิ" พี่สาวฉันจ้องหน้าพี่เสืออย่างเอาเรื่อง
ฉันเข้าใจในทันทีกับสาเหตุที่เกิดขึ้น เขาแค่ตกอยู่ในภวังค์ของฤทธิ์ยาปลุกอารมณ์นั่น ถ้าไม่ใช่เพราะมัน เขาคงไม่ทำแบบนี้หรอก ฉันเองแหละที่ดวงซวย ฉันเองแหละที่โง่เง่า เพราะฉันเกิดมาเพื่อรองรับแต่ความชอกช้ำ