ยาหยีตื่นขึ้นมาก็พบว่าเธอนอนอยู่ในห้อง พร้อมกับข้าวของ เสื้อผ้าที่มีคนเอามาวางไว้ให้ เธอนอนหลับลึกขนาดนี้เลยหรือ ถึงขั้นไม่รู้สึกตัว ว่าใครพาเธอเข้ามานอนในห้องนี้ แต่เธอก็ไม่มีเวลาได้คิดอะไรนาน เมื่อเหลือบมองดูนาฬิกา ก็พบว่าเป็นเวลาตีห้า เกือบครึ่งแล้ว เธอต้องลุกขึ้นเตรียมอาหารเช้าให้พ่อเลี้ยง ก่อนที่เขาจะไปทำงานในไร่
เสียงกุกกักๆ ในครัว บ่งบอกว่ามีคนกำลังทำบางสิ่งบางอย่างอยู่ ดินเดินเข้าไปก็พบว่าเป็นยาหยี กำลังเตรียมอาหารเช้าให้เขา เธอกำลังคิดอะไรเพลินๆ พอหันมามองเห็นเขากำลังจ้องอยู่ ก็อดตกใจไม่ได้
“อุ้ย!!!” ใบหน้าสวยอุทานอย่างตกใจ เขามานานรึยัง ทำไมเธอไม่รู้สึกตัวอีกแล้ว
เธอยกอาหารเช้าไปให้เขา พอกำลังหันหลังจะเข้าไปกินในครัว ชายหนุ่มก็ร้องทักขึ้นมาก่อน
“จะไปไหน”
“ฉันจะเข้าไปในครัว ไปหาอะไรกินก่อน เดี๋ยวต้องออกไปไร่กับคุณไม่ใช่หรือ”
“เอามากินด้วยกันนี้แหละ ข้างนอก ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ”
“ตอนเย็นนี้ แฟนฉันจะมากินข้าวที่บ้าน เธอเตรียมอาหารเย็นให้เรียบร้อยด้วยนะ”
ยาหยีรู้สึกว่า อาหารตรงหน้าเธอ ฝืดคอทันที เธอกินอะไรไม่ลง จนต้องวางมือจากอาหาร ได้แต่พยักหน้ารับเขาไป เหมือนเธออยู่ในฐานะคนรับใช้ของเขายังไงยังงั้น เธอคิดผิดหรือคิดถูกที่มายอมมาอยู่กับเขาที่นี้ ดินพิจารณาดูเธออย่างเงียบๆ อาหารเช้าก็กินไปนิดเดียว จะมีแรงทำงานหรอ เดี๋ยวก็เป็นลมเป็นแล้งไปอีก ป่านนี้วิญญาณคุณย่าคงแช่งชักหักกระดูกเขาแย่เลย ถ้ารู้ว่าเขาแกล้งหลานสาวสุดที่รักของเธอขนาดนี้
“ถ้ากินเสร็จแล้ว ก็ไปแต่งตัวเข้าไร่”
เสียงเข้มหันมาพูดกันเธอ ข้างนอกยังเงียบกริบอยู่เลย ได้ยินแต่เสียงจิ้งหรีดกำลังร้องอยู่ เธอเพิ่งรู้ว่าบ้านนี้มีแค่เธอกับเขาสองคน ป้าเพ็ญมาแค่ตอนกลางวันเท่านั้น
“ฉันแต่งตัวเสร็จแล้วค่ะ” เธอบอกเขาเสียงเรียบ
ชายหนุ่มก้มลงมอง สวยเกินไป เกินว่าจะไปเข้าไร่
“แน่ใจนะ ว่าจะไปชุดนี้”
ดวงตากลมโตกวาดดูตัวเองในชุดที่เธอใส่ ก็ปกติหนิ เสื้อยืด กางเกงยีน แค่มันเข้ารูปไปนิด เพราะเธอก็ไม่ได้มีเสื้อผ้าให้เลือกใส่มาก เมื่อเห็นเธอมองกลับมา เขาเลยเดินเข้าไปในห้อง พร้อมทั้งโยนเสื้อเชิ้ตแขนยาวและหมวกให้เธอ
“ใส่ทับซะ ไปทำงานไม่ได้ไปเดินแฟชั่นโชว์” หญิงสาวรับมา พร้อมทั้งยอมใส่แต่โดยดี คงจะเป็นของเขา เพราะกลิ่นหอมติดเสื้อ เมื่อเห็นว่าพร้อมแล้ว ชายหนุ่มก็เดินนำหน้า ยาหยีต้องรีบสาวเท้า เดินตามเขาไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ เขาขึ้นบนรถปิ๊กอัพสำหรับเขาสวนไป เธอเลยเดินขึ้นไปนั่งข้างๆ อย่างเงียบๆ
“วันนี้มาพร้อมฉัน แต่วันหลัง เธอต้องปั่นจักรยานมาเอง จักรยานตอนเย็นไอ้ทองจะเอามาให้ ข้าวเที่ยงกินที่โรงอาหารในไร่ ฉันเลี้ยงคนงานทุกคน ที่นั่นอยู่แล้ว ส่วนตอนเย็น เธอเลิกบ่ายสาม ก่อนคนอื่นหนึ่งชั่วโมง เพราะต้องกลับมาทำอาหารเย็น เข้าใจมั๊ย?”
“เข้าใจค่ะ”
ยาหยีรับคำอย่างเบาๆ พร้อมทั้งมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นสวนส้มที่อยู่ไกลสุดลูกหูลูกตา แสงอาทิตย์ค่อยโผล่พ้นขอบฟ้ามาทักทาย มันสวยมาก สำหรับคนที่อยู่ในเมืองมาทั้งชีวิตแบบเธอ
“หวังว่าจะอยู่ได้ ไม่หนีไปไหนก่อนนะ เพราะสัญญา 3 ปี หลังจากนั้น เธออยากไปไหนก็เชิญ”
ชายหนุ่มกระแทกเสียงอย่างโกรธๆ โกรธที่เธอดูอดทนเก่ง หรือโกรธที่เขาทำอะไรเธอไม่ได้กันแน่ก็ไม่รู้
“ไอ้ทอง ไอ้ทอง”
พอเขาลงจากรถก็ตะโกนหาลูกน้องคนสนิททันที ไอ้ทองที่ดูยังงัวเงียอยู่ ก็รีบวิ่งมาหาเจ้านาย
“นายครับ ทำไมวันนี้มาตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ ไม่ทราบว่าจะรีบไปไหนครับ ผมยังเมาขี้ตาอยู่เลยเนี่ย” ท่าทางของทองบอกให้รู้ว่ายังง่วงอยู่จริงๆ
ดินกระแฮ่มเบาๆ เพื่อให้ไอ้ทองหุบปาก ก่อนมันจะพูดมากไปกว่านี้
“มึงไปเอาตะกร้าเก็บส้มให้คนงานใหม่หน่อย” ทองหันไปชะโงกดู ก็พบว่าร่างบางยืนอยู่หลังพ่อเลี้ยง ทองมองอย่างงงๆ งานเก็บส้มค่อนข้างหนักสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ ทำไมน้องสาวนายต้องมาทำงานนี้ด้วย
“ห๊ะ อะไรนะครับ จะให้คุณยาหยีมาเก็บส้มหรอ”
“เออ” ดินรับเสียงเรียบแต่หน้าเริ่มมีความหงุดหงิดกับความขี้สงสัยของลูกน้อง
“ครับๆ เดี๋ยวผมไปเอามาให้”
“เออ แล้วมึงก็หาคนมาเทรนงานด้วย ว่าวิธีเก็บส้ม เก็บยังไง ลูกไหนเก็บได้ ไม่ได้ จักรยานที่กูสั่ง ก็เอามาให้เธอด้วย”
เมื่อสั่งงานจบก็เดินไปที่ออฟฟิศทันที ทิ้งให้ทองยิ้มอย่างอ่อนๆ สงสารหญิงสาวตรงหน้ามาก เธอดูไม่เหมาะจะมาทำงานที่ไร่เลย
“พ่อเลี้ยงคิดอะไรอยู่ ถึงให้คุณมาทำงานนี้ สงสารคุณอีก”
ทองพูดอย่างเห็นใจ แต่หญิงสาวยิ้มรับเป็นเชิงว่าเธอยังไหว ทำเอาทองเทคะแนนให้เธออีกเพียบ พ่อเลี้ยงเป็นอะไร คุณยาหยีก็ออกจะน่ารัก น่าสงสาร กลับมารอบนี้ หงุดหงิดเก่งกว่ากินรังแตนมา แถมยังชอบแกล้งผู้หญิงด้วย ไม่ไหวเลย!
“พี่ทอง ทำไรครับ วันนี้มาไร่แต่เช้าเลยนะ” หนุ่ม ผู้จัดการไร่ เดินมาทักทองอย่างแปลกใจ พร้อมทั้งเห็นผู้หญิงคนตรงหน้าที่สวยจนเขาตกตะลึง เธอคือใคร? คนงานใหม่หรอ แต่คนงานใหม่จะสวยขนาดนี้เลยหรือ