14.00 น.
“วันนี้พอแค่นี้ครับ ขอบคุณทุกท่านมาก”
หลังจากสีหราช ผู้ที่มีตำแหน่งใหญ่ที่สุดเอ่ยขึ้นตรงหัวโต๊ะประชุม ผู้บริหารคนอื่น ๆ ก็ทยอยกันลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินออกจากห้องประชุมแห่งนี้ สีหราชยังคงนั่งอยู่ที่เดิมเพื่อดูเนื้อหาการประชุมเมื่อครู่ ยังมีบางอย่างที่เขายังปล่อยผ่านไม่ได้
ทว่า พิจักร เลขาคนสนิทที่ทำงานให้เขาแทบทุกอย่างและเป็นคนที่สีหราชไว้ใจมากที่สุดเดินเข้ามา อีกฝ่ายยืนกุมมืออยู่ตรงหน้าเขา
“คุณสีหราชครับ เรื่องที่ให้ผมจัดการเมื่อวันก่อน ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนะครับ”
สีหราชพยักหน้าพลางนึกถึงเรื่องที่เขาสั่งให้พิจักรไปจัดการนั่นก็คือเรื่องข้อตกลงระหว่างเขาและนิรุต สีหราชรับปากกับนิรุตว่าจะทำตามข้อเสนอที่ให้เอาไว้ แลกกับการที่อีกฝ่ายไม่ยกที่ดินให้นฤดี ลูกสาวตัวเองในตอนนี้ ข้อตกลงก็ไม่มีอะไรหวือหวามากนัก เป็นเพียงผลประโยชน์ทางธุรกิจที่ทางเขายอมร่วมลงทุนและให้เงินทุนจำนวนมาก ทางฝั่งนั้นตกลงรับข้อเสนออย่างง่ายดาย ที่นิรุตไม่กระตือรือร้นที่จะช่วยนฤดี ก็เพราะลูกแก้วไม่ใช่หลานแท้ ๆ ของอีกฝ่าย นิรุตจึงไม่จำเป็นต้องให้การช่วยเหลือเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าสีหราชไม่ทำแบบนี้ เขาก็วางใจไม่ได้เช่นกัน ชายหนุ่มเงยหน้ามองลูกน้องของตัวเอง
“แล้วเรื่องที่ฉันให้ไปสืบล่ะ?”
“เรื่องของคนที่ชื่อแผ่นดินใช่ไหมครับ ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการสืบอย่างละเอียด ได้ความคืบหน้ายังไงผมจะมาแจ้งนะครับ”
“อืม”
สีหราชพยักหน้า ก่อนพิจักรจะเดินออกจากห้องเหลือเพียงเขาเช่นเดิม สีหราชยกมือลูบสันกรามของตัวเอง พลางนึกถึงลูกแก้วว่าตอนนี้อีกฝ่ายจะทำอะไรอยู่
เมื่อคิดแบบนั้นก็คว้ามือถือมากดเข้าแอปพลิเคชันติดตามพิกัด ป่านนี้อีกฝ่ายน่าจะอยู่ที่บ้านเหมือนทุก ๆ วัน สีหราชกดเข้าไปโดยไม่คิดอะไรมาก ทว่าพิกัดไม่ใช่ที่บ้านอย่างที่เขาคิดเอาไว้
แต่เป็นร้านอาหารแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มนึกถึงเมื่อหลายวันก่อนทันที ใบหน้าของคนที่ชื่อแผ่นดินผุดเข้ามาในหัวสมองของเขา เมื่อวานลูกแก้วขออนุญาตเขาไปหาเพื่อนคนนั้น แต่เขาไม่อนุญาต นี่อีกฝ่ายขัดคำสั่งเขาอย่างนั้นสินะ
สีหราชไม่คิดอะไรต่อทั้งนั้น เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้และบุ่มบ่ามออกจากห้องประชุมทันที
14.15 น.
รถยนต์คันหรูจอดหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งตามพิกัดของมือถือลูกแก้ว เป็นร้านที่ไม่ใหญ่มาก ค่อนข้างธรรมดาด้วยซ้ำ ร้านนี้มีที่จอดรถเพียงไม่กี่ช่อง แต่โชคดีที่มันว่างพอให้สีหราชจอดอีกคัน
เขาลงจากรถก่อนจะปิดประตูดังสนั่น เดินดุ่ม ๆ เข้าไปในร้านด้วยสายตาที่แข็งกร้าว สองมือหนากำแน่น และเมื่อเข้ามาภายในร้านอาหารที่แสนจะธรรมดา สายตาก็กวาดมองหาภรรยาของตัวเอง
ทว่าไม่เจอ ภายในร้านที่มีลูกค้านั่งอยู่ไม่กี่โต๊ะ แต่ไร้วี่แววของลูกแก้ว สีหราชก้มมองพิกัดในโทรศัพท์อีกครั้งก็ถูกต้อง เขาไม่ได้เดินทางมาผิดที่ ก่อนชายหนุ่มจะเงยหน้ามองหาผู้ชายที่ชื่อแผ่นดิน เขาจำหน้าอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี แต่ก็ไร้วี่แววเช่นกัน
ฉับพลัน ด้านหลังของเขาก็มีเสียงหวานดังขึ้น
“คุณสิงห์”
เขาหันไปมองก็พบว่าเป็นคนที่เขากำลังตามหา ลูกแก้วมองหน้าเขาพลางขมวดคิ้ว เช่นเดียวกับสีหราช มือหนากระชากมือบางที่ยังชื้นน้ำราวกับเธอพึ่งเข้าห้องน้ำและล้างมือมา สีหราชกระชากอีกฝ่ายเข้าหาตัวเอง
“แก้วเจ็บนะ คุณทำอะไร!”
“มาที่นี่ทำไม? มากับใคร!”
เขาถามอย่างหาเรื่อง พนักงานที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างหันมองแต่สีหราชไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น เขาต้องการคำตอบจากคนตรงหน้า ทว่าลูกแก้วที่ถูกคาดคั้นและถูกสะกดรอยตามอีกครั้งก็ไม่พอใจ เธอแสดงสีหน้าว่าเกลียดเขามากแค่ไหน พยายามบิดข้อมือของตัวเองออก
“คุณตามแก้วแบบนี้ จะไม่ให้แก้วขยับตัวเลยหรือไงคะ แก้วเป็นนักโทษของคุณเหรอ?!”
“ใช่ เธอเป็นนักโทษของฉัน ตอบมา มาที่นี่กับใคร!!”
สีหราชเหมือนคนสติแตก...ราวกับคนหวงของอย่างหนักและของสิ่งนั้นกำลังจะหลุดมือไป ลูกแก้วส่ายหน้าด้วยใบหน้าโกรธเกลียด พยายามยื้อแรงเพื่อดึงข้อมือของตัวเองออกจากมือของเขา ทว่าเสียงหนึ่งก็ทำให้ทั้งคู่หันไปมอง
“พี่แก้ว เกิดอะไรขึ้น”
ลูกแก้วหันไปมองตามเสียงก็พบว่า ลูกหว้า น้องสาวของตัวเองลุกขึ้นจากโต๊ะริมสุดและเดินมาหาเธอที่ยืนมีปากเสียงกับสีหราช กลางร้าน ความจริงก็คือลูกแก้วนัดกับลูกหว้าเพื่อออกมาหาอะไรกินตามประสาพี่น้องในวันเกิดของเธอ เมื่อครู่ลูกแก้วลุกไปเข้าห้องน้ำ พอออกมาทำท่าจะเดินกลับโต๊ะที่มีลูกหว้านั่งอยู่แต่ก็เจอสีหราชซะก่อน
ลูกหว้า น้องสาวพ่อเดียวกัน แต่ละคนละแม่กับเธอ ทว่าเธอรักน้องสาวคนนี้มากกว่าสิ่งอื่นใด เช่นเดียวกับลูกหว้าที่รักพี่สาวตัวเองมาก แต่ก็ช่วยเหลืออะไรไม่ได้กับสิ่งที่ครอบครัวกำลังเผชิญอยู่ ได้แต่คอยให้กำลังใจลูกแก้วทางข้อความเท่านั้น
วันนี้เป็นวันเกิดของพี่สาว ลูกหว้าจึงซื้อของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ได้มีราคาแพงให้อีกฝ่าย และนัดเจอกันที่ร้านอาหารแสนธรรมดา ไม่ได้หรูหราแห่งนี้
สีหราชหันมองผู้หญิงตัวเล็กผิวขาวจัด ทว่าใบหน้าของอีกฝ่ายยังดูเด็กมาก ถ้าจำไม่ผิด ลูกหว้าพึ่งจะรับปริญญาเมื่อปีที่แล้ว อายุก็น่าจะยังไม่เกินยี่สิบห้า อีกฝ่ายน่าจะห่างกับเขาเป็นสิบปี
สีหน้าของลูกหว้าตื่นตะหนกที่เห็นสีหราชกำลังกระทำแบบนี้กับพี่สาวตัวเอง ลูกหว้าก็รู้จักสีหราชเป็นอย่างดีเช่นกัน
“ปล่อยพี่แก้วนะ”
ลูกหว้าเอ่ยขึ้นก่อนจะจับแขนของพี่สาวและดึงเข้าหาตัวเอง
สีหราชเห็นแบบนั้นก็ยอมปล่อยข้อมือของลูกแก้ว ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น
“ลูกหว้าเหรอ?”
“...”
“แก้วมากับน้องค่ะ มากันแค่สองคน”
ลูกแก้วพูดขึ้น สีหราชปรับสีหน้าให้เป็นปกติเมื่อรู้ความจริงทุกอย่างและคิดว่าไอ้ผู้ชายที่ชื่อแผ่นดินคงไม่ได้มาด้วย ในใจของชายหนุ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย เขากดสายตามองน้องสาวของลูกแก้ว
ทว่าจู่ ๆ คนเป็นพี่สาวก็เอาตัวเองมาบังน้องสาวเอาไว้
สีหราชขมวดคิ้วกับการกระทำของภรรยาตัวเอง เพราะใบหน้าหวานค่อนข้างไม่พอใจและหงิกงอ รวมถึงท่าทางราวกับไม่อยากไม่อยากให้เขามองลูกหว้าอย่างไรอย่างนั้น ลูกแก้วเอาแต่ยืนบังน้องสาวของตัวเอง ดวงตากลมจ้องเขาเขม็งอย่างเอาเรื่อง
สีหราชจึงอยากลองเชิง เขาไม่สนใจคนตรงหน้า พยายามมองคนด้านหลังของลูกแก้วและชวนอีกฝ่ายคุย
“ลูกหว้า เราเคยเจอกันสักครั้งหรือเปล่า?”
ใบหน้าหล่อเจ้าเล่ห์ นัยน์ตาแพรวพราวของเขาทำให้ลูกแก้วไม่ชอบใจ เธอทำท่าจะอ้าปากตอบแทน ทว่าถูกสีหราชดักเอาไว้
“ฉันคุยกับน้องสาวเธอ ไม่ใช่เธอ”
“...”
ลูกแก้วได้ยินแบบนั้นก็เงียบลง เธอเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาเริ่มสั่นเทาเมื่อได้ยินประโยคถัดไป
“ถ้าวันหนึ่งฉันเบื่อคนพี่ ยังไงคนน้องก็ต้องมาทำแทน”
“...”
“ให้ฉันสนิทกับน้องสาวเธอเอาไว้ไม่ดีกว่าเหรอ?”