“ฉันจะราดใส่ตัวเธอก็ยังได้ จะลองดูไหมล่ะ?”
ทั้งคู่จ้องหน้ากัน ราวกับมีสายฟ้าฟาดลงมาตรงกลางอย่างไม่มีใครยอมใคร
ที่สีหราชบอกว่าจะไม่ให้เธออยู่อย่างสุขสบาย คงจะใช้วิธีพวกนี้บีบเธอสินะ หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเดินไปเก็บถ้วยเปล่าบนโต๊ะอย่างใจเย็น
“แก้วจะทำให้ใหม่ รอแป๊บนึงนะคะ”
“ไม่ต้อง”
สีหราชลุกขึ้นยืนทันที ก่อนเขาจะเดินหนีเข้าห้องนอนของตัวเอง ลูกแก้วมองตามแผ่นหลังกว้างอย่างอดกลั้น สลับกับมองไปที่พื้นที่มีข้าวต้มหมูไข่ออนเซ็นหกอยู่เต็มพื้นก็ถอนหายใจออกมา
เมื่อไรเธอจะหลุดพ้นไปจากที่นี่สักทีนะ
11.30 น.
ลูกแก้วหย่อนร่างกายนั่งพักบนโซฟาหลังจากที่ทำงานบ้านเสร็จ...ใครบอกว่าแค่ทำงานบ้านไปวัน ๆ คืองานสบาย เธอขอเถียงขาดใจ เพนท์เฮ้าส์หลังใหญ่ซึ่งเธอเป็นคนดูแลเพียงคนเดียว รวมกับดูแลอีกหนึ่งชีวิตนั่นก็คือสีหราช ไหนจะเสื้อผ้า ของใช้ และความสะอาด เธอทำอะไรบ้างในแต่ละวันเขาคงไม่เคยรู้ แล้วมาบอกว่าลูกแก้วใช้ชีวิตไปวัน ๆ อย่างนั้นเหรอ ยิ่งคิดก็ยิ่งฉุน เธอถอนหายใจออกมาหลังจากที่วันนี้จัดการซักเสื้อผ้าชุดทำงานและรีดให้เนี้ยบ แขวนเรียงเป็นโทนสีเพื่อให้เจ้าของมันหยิบใช้ได้อย่างสะดวก ตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้ว ลูกแก้วเริ่มจะหิว เมื่อเช้าเธอกินข้าวต้มหมูที่เหลือจากทำให้เขาแล้วอีกฝ่ายไม่กิน ลูกแก้วกินมันจนหมดหม้อด้วยความหัวเสียก็ไม่ให้ว่ารสชาติของมันจะเค็มสักนิด
ชัดเจนแล้วว่าสีหราชจงใจแกล้งเธอ
แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับชะตากรรมของตัวเอง เพราะตอนนี้สีหราชก็เปรียบเสมือนเจ้าชีวิตของลูกแก้ว เขาอยู่เหนือเธอทุกอย่าง ลูกแก้วตกเป็นรองเขาไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม และสิ่งที่หญิงสาวทำได้ตอนนี้คืออดทนจนกว่าจะได้หลุดพ้นไปจากอีกฝ่าย แม้ว่าเธอจะไม่รู้เลยว่าอีกนานแค่ไหน แต่ตราบใดที่ยังไม่ตาย...คนเราก็ยังมีหวังไม่ใช่เหรอ
ร่างบางถอนหายใจออกมาเป็นรอบที่ร้อยของวัน ก่อนจะลุกขึ้นเพื่อเข้าครัว ตั้งใจจะทำอาหารมื้อเที่ยงง่าย ๆ รับประทานคนเดียว แต่ยังไม่ทันได้ลงมือ เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ก็ดังขึ้นซะก่อน
ดวงตากลมมองหน้าจอก็พบกับชื่อของคนที่เธอนึกถึงเมื่อครู่ น่าแปลกที่สีหราชโทรหาเธอระหว่างวันแบบนี้ แต่อาจจะเป็นธุระก็ได้
“ค่ะ”
(ซื้อมื้อเที่ยงเข้ามาให้ฉันหน่อย)
“...”
เป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งปีที่สีหราชใช้ให้ลูกแก้วเอามื้อเที่ยงเข้าไปให้ เพราะปกติที่ผ่านมา เธอไม่เคยได้ไปเหยียบที่บริษัทของเขาด้วยซ้ำ เพราะสีหราชไม่ได้เปิดตัวภรรยาอย่างเธอให้ใครรับรู้ ถึงแม้ทุกคนจะรู้ว่าสีหราชแต่งงานแล้ว แต่ก็ไม่เคยมีใครได้เห็นหน้าภรรยาของเขาสักคนยกเว้นคนสนิทใกล้ตัว
(ได้ยินหรือเปล่า?)
“คุณจะให้แก้วเอาเข้าไปให้ที่บริษัทเหรอคะ”
(ใช่)
“ได้ค่ะ”
(ฉันมีร้านที่อยากกิน เดี๋ยวส่งร้านไปให้ แล้วก็รีบมาล่ะ บ่ายโมงตรงฉันมีประชุม)
“ค่ะ”
ติ๊ด
เขากดวางสายไปแล้ว ก่อนเสียงข้อความจะดังขึ้น ลูกแก้วกดเปิดช่องแชทที่อีกฝ่ายส่งมา ก็พบกับข้อความซึ่งเป็นโลเคชั่นของร้านอาหารที่เขาบอกว่าอยากกิน
“อะไรเนี่ย ไกลมาก”
ตรงที่เธออยู่เรียกได้ว่าใจกลางเมืองกรุงก็ว่าได้ แต่ร้านที่เขาส่งมาให้อยู่แถบชานเมือง อีกนิดเดียวก็จะออกต่างจังหวัดอยู่แล้ว แถมแถวนั้นรถไฟฟ้ายังไปไม่ถึง ลูกแก้วถอนหายใจออกมาอีกรอบพลางมองนาฬิกาก็พบว่าตอนนี้ใกล้เที่ยง
เขาบอกว่าตอนบ่ายโมงตรงมีประชุม นั่นก็แปลว่าลูกแก้วต้องเอามื้อเที่ยงเข้าไปให้เขาก่อนเวลาที่อีกฝ่ายจะเข้าประชุม ซึ่งเวลามันจวนเจียนมากเพราะร้านที่ลูกแก้วต้องไปอยู่ไกลและต้องใช้เวลาในการเดินทาง
หญิงสาวตัดสินใจโทรกลับไปหาเขา และไม่นานปลายสายก็กดรับ
(มีอะไร?)
“ร้านอยู่ไกลมาก แก้วกลัวว่าถ้าแก้วไปเองจะไม่ทันค่ะ แก้วจะกดสั่งในแอปให้เอาไปส่งให้คุณนะคะ เพราะยังไงไรเดอร์ก็จะอยู่แถว ๆ นั้นอยู่แล้ว น่าจะไวกว่า”
(ไม่ได้)
“...”
(ถ้าจะให้เรียกในแอป ฉันจะโทรหาเธอให้เสียเวลาทำไม)
“...”
(แปลว่าฉันต้องการให้เธอไปเอง อย่าติดสบายนักเลยลูกแก้ว หัดทำตัวให้มันสมกับหนี้ที่พ่อของเธอสร้างเอาไว้หน่อย)
“...”
(แล้วก็อย่าคิดโกงล่ะ เพราะฉันรู้หมดว่าเธอไปเองจริงหรือเปล่า)
จากนั้นเขาก็กดวางสาย ลูกแก้วลดมือถือลงมาและแทบกลั้นหายใจเมื่อได้ยินเหตุผลชัด ๆ จากปากของเขา แน่นอนว่าที่อีกฝ่ายกำลังทำอยู่ตอนนี้คือกลั่นแกล้งเธอ...ใช่ เขาแกล้งเธอ ถึงลูกแก้วจะคิดหาวิธีอะไรให้มันง่ายขึ้นไปเสนอก็เท่านั้น
สิ่งที่เธอต้องทำ ก็คือทำตามในสิ่งที่เขาต้องการ ใบหน้าหวานเศร้าหมอง คนตัวเล็กหันมองไปในห้องครัว เธอตั้งใจจะเข้าไปทำมื้อเที่ยงของตัวเองกินแต่ก็คงไม่ทันแล้ว ลูกแก้วตัดสินใจออกจากบ้านทันที
12.45 น.
“แฮ่ก ๆ”
เพราะรถติดมาก อีกไม่นานก็จะถึงบริษัทของเขา ลูกแก้วเลยขอลงจากแท็กซี่กลางทางและตัดสินใจวิ่งไปแทน ในมือของเธอถือถุงอาหารจากร้านที่สีหราชบอกว่าอยากกิน ตึกสูงตะหง่านไม่ไกลตรงหน้าคือบริษัทของเขา สีหราชเป็น CEO ประธานบริหารสูงสุดของบริษัทรับเหมาก่อสร้างชื่อดังในไทย บริษัทของเขามีประสบการณ์ในงานก่อสร้างหลายรูปแบบหลายประเภท เช่นอาคารสูง สะพาน ทางด่วน โครงการรถไฟฟ้า คอนโดมิเนียมชื่อดังหลายแห่ง และระบบสาธารณูปโภค มีผลงานเด่นมากมายในประเทศไทย มีความน่าเชื่อถือและเปิดมายาวนานกว่าสามสิบปีตั้งแต่สมัยรุ่นบิดาของเขา และตอนนี้เป็นช่วงต่อที่สีหราชต้องเป็นคนดูแลทั้งหมดเพราะบิดาของเขานั้นแก่มากแล้ว บิดาและมารดาของสีหราชอาศัยอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ที่ห่างจากเพนท์เฮ้าส์ของเขาพอสมควร ทั้งคู่ได้วางมือและยกทุกอย่างให้ลูกชายเพียงคนเดียวจัดการ ก็เท่ากับว่าตอนนี้สีหราชเป็นคนที่มีตำแหน่งใหญ่ที่สุดในบริษัทใหญ่ยักษ์
และภรรยาของเจ้าของตึกสูงตะหง่านตรงหน้ากำลังวิ่งสับเท้าอยู่บนฟุตบาทที่ขรุขระเพื่อเอาอาหารไปให้สามี
ลูกแก้วตั้งใจวิ่งเพราะอีกไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลาบ่ายโมงแล้ว ไม่รู้ว่าเขาจะมีเวลากินมื้อเที่ยงทันเข้าประชุมหรือเปล่า รถบนถนนที่ติดแหง็กแน่นิ่งเป็นแถวยาว ลูกแก้วละความสนใจสิ่งรอบข้างและตั้งหน้าตั้งตาวิ่งย่างเดียว
แต่เสียงเรียกเข้าดังขึ้น เธอใช้มืออีกข้างที่ว่างหยิบมันออกมาและกดรับสาย
“ฮัลโหล แฮ่ก”
(อยู่ไหน)
น้ำเสียงของสีหราชไม่สบอารมณ์ ลูกแก้วกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ
“ใกล้ถึงแล้วค่ะ”
(เหลืออีกแค่สิบห้านาที ฉันจะกินทันได้ยังไง)
“ร...รอแก้วอีกแป๊บนึงนะคะ แก้วใกล้ถึงแล้วจริง ๆ ค่ะ”
เธอกดวางสายและตั้งหน้าตั้งตาวิ่งจนกระทั่งไปถึงตึงสูงตระหง่านซึ่งเป็นบริษัทของเขา เธอบอกประชาสัมพันธ์ และดูเหมือนว่าทางนี้จะรอเธออยู่แล้ว ประชาสัมพันธ์ด้านล่างอนุญาตให้ลูกแก้วขึ้นไปด้านบนได้โดยไม่ต้องแลกบัตรหรือถามหานัด ราวกับสีหราชได้บอกล่วงหน้าว่าเธอจะมา ลูกแก้วมุ่งหน้าไปยังลิฟต์และกดขึ้นไปชั้นยี่สิบห้า ลิฟต์ทะยานขึ้นไปด้านบนพร้อมกับหัวใจของหญิงสาวที่เต้นถี่หนัก เธอยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูก็พบว่าเหลืออีกสิบนาทีจะบ่ายโมง
ลูกแก้วรู้สึกไม่ค่อยดีนักเพราะไม่รู้ว่าสีหราชจะต่อว่าเธอว่าอย่างไรบ้าง และเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกก็พบเข้ากับโต๊ะทำงานหน้าห้องที่มีบานประตูทึบบานใหญ่ ลูกแก้วเดาว่าห้องนั้นน่าจะเป็นห้องทำงานของเขา
“สวัสดีค่ะ ฉันมาหาคุณสีหราชค่ะ”
“จากคุณอะไรคะ”
“ลูกแก้วค่ะ”
“อ๋อ คุณลูกแก้ว พอดีคุณสีหราชเข้าประชุมไปแล้วค่ะ”
“อ้าว เหรอคะ”
ลูกแก้วที่ยังหอบหายใจถี่รวนเพราะความเหนื่อยก็กลอกสายตาไปมาอย่างคิดหนัก
“แต่คุณสีหราชแจ้งไว้ว่าให้รับของจากคุณลูกแก้วไว้นะคะ เดี๋ยวดิฉันรับไว้ให้ค่ะ”
“อ๋อค่ะ”
ลูกแก้วจึงยกถุงอาหารที่ซื้อมาให้เลขาสาวตรงหน้า คนตัวเล็กลังเลที่จะถามคำถามที่อยากรู้
“คือฉันซื้อมื้อเที่ยงเข้ามาให้เขาค่ะ แต่คุณสีหราชเข้าประชุมไปแล้ว...แบบนี้เขาก็ไม่ได้ทานมื้อเที่ยงใช่ไหมคะ”
ลูกแก้วถามออกไปด้วยความรู้สึกผิด ทว่าเลขาสาวได้ยินแบบนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะตอบออกมาตามความจริง
“ทานนะคะ วันนี้คุณสีหราชออกไปทานมื้อเที่ยงตั้งแต่สิบเอ็ดโมงตรงแล้วค่ะ”
“...”
“แต่ยังไงฉันจะเอาของที่คุณลูกแก้วฝากไว้ให้คุณสีหราชตอนประชุมเสร็จนะคะ”
เลขาสาวพูดด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรก่อนจะนั่งลงทำงานต่อ ลูกแก้วพยักหน้าช้า ๆ ก่อนจะหมุนตัวไปยังลิฟต์
เขาออกไปทานมื้อเที่ยง...ตั้งแต่สิบเอ็ดโมงตรงแล้วงั้นเหรอ
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกและเธอแทรกตัวเข้าไป ลูกแก้วก็หยิบมือถือออกมาเพื่อดูประวัติการโทรเข้าของอีกฝ่าย ครั้งแรกที่เขาโทรเข้ามาเพื่อบอกว่าให้เธอเอามื้อเที่ยงเข้าไปให้คือตอนสิบเอ็ดโมงครึ่ง
ทั้ง ๆ ที่เขาออกไปกินมื้อเที่ยงแล้วด้วยซ้ำ
ลูกแก้วค่อย ๆ กำมือแน่น เธอปิดมือถือและใส่กระเป๋าไว้อย่างเดิม ใบหน้าเรียบตึงพลางคิดว่าตัวเองเป็นหมากในเกมให้อีกฝ่ายแกล้งอีกครั้ง
เขาจงใจให้เธอเดินทางไปในที่ไกล ๆ และอ้างว่าอยากกินร้านนั้น ทั้งที่เขาไม่ได้อยากกินมันด้วยซ้ำ และเขาคงไม่ได้รอมื้อเที่ยงจากเธออย่างที่ลูกแก้วคิดเอาไว้ เธอรีบเดินทาง รีบวิ่งมาหาเขา อีกใจก็นึกเป็นห่วงหากเขาจะทานมื้อเที่ยงจากเธอไม่ทัน แต่ที่ไหนได้...เขาไม่ได้รอเธอตั้งแต่แรก
“คงจะสนุกมากสินะ”
เสียงหวานพูดออกมา ก่อนจะถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า เมื่อคิดย้อนกลับไปว่าตัวเองทำอะไรบ้างในช่วงเวลาที่ผ่านมา ข้าวสักคำเธอก็ยังไม่ได้กิน ได้แต่นึกสงสารตัวเองในใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินออกจากลิฟต์เพื่อตรงไปยังประตูเลื่อนบานใหญ่ของบริษัท ลูกแก้วถอนหายใจพลางมองซ้ายมองขวาเพื่อคิดว่าตัวเองจะไปไหนต่อจากนี้ แต่ยังไม่ทันได้ตัดสินใจ เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ปรากฏชื่อบนหน้าจอที่ทำให้ใบหน้าหวานผ่อนคลายอย่างเห็นได้ชัด
“ฮัลโหล ดิน”
(แก้วอยู่ไหน)
“เราอยู่ที่ทำงานของคุณสิงห์น่ะ ดินมีอะไรเหรอ”
แผ่นดิน เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย อีกฝ่ายเรียนคนละคณะกับเธอ แผ่นดินเรียนบริหารธุรกิจ ส่วนลูกแก้วเรียนอักษรศาสตร์ เอกภาษาจีน แม้ว่าเราจะอยู่คนละคณะกัน แต่วันแรกที่รู้จักกันคือวันรับน้องของมหาวิทยาลัย หลังจากนั้นเราสองคนก็เป็นเพื่อนสนิทกันมาตลอดจนกระทั่งวันนี้ อีกฝ่ายมักจะรู้เรื่องปัญหาต่าง ๆ ของลูกแก้ว และเธอก็สนิทใจที่จะเล่าและปรึกษาเขาเมื่อเจอกับเรื่องราวต่าง ๆ แผ่นดินเป็นที่ปรึกษาอย่างดีให้กับเธอมาตลอดเช่นกัน ทว่าตอนนี้แผ่นดินเดินทางไปเรียนต่อด้านธุรกิจที่ประเทศอังกฤษตั้งแต่หนึ่งปีที่แล้ว แต่ตลอดหนึ่งปีที่อีกฝ่ายไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ เธอ เราสองคนก็มักจะติดต่อกันทางโทรศัพท์และโซเชียลเสมอมา ลูกแก้วไม่ได้รู้สึกว่าเพื่อนได้หายไปจากชีวิตของเธอเลย
(ไม่มีอะไร แค่อยากเจอ)
เสียงทุ้มต่ำตามสไตล์ของเขา ลูกแก้วตัดสินใจเดินทอดน่องไปตามฟุตบาทเรื่อย ๆ
“จะเจอได้ยังไง ดินอยู่อังกฤษนะ”
(เรากลับมาแล้ว)
ปี๊น!
ร่างบางสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อเสียงแตรรถดังอยู่ข้าง ๆ เธอ หญิงสาวกดวางสายเมื่อเห็นว่าคนที่คร่อมบิ๊กไบค์คันใหญ่สีดำที่จอดเทียบฟุตบาท คนขับสวมเสื้อหนังสีดำ ก่อนจะเปิดหน้ากากหมวกกันน็อคเพื่อให้เห็นชัด ๆ ก็ปรากฏใบหน้าหล่อเหลาของแผ่นดิน เพื่อนของเธอ ลูกแก้วยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคือเพื่อนของตัวเอง
“ดิน!”
“ไปกินข้าวกัน”
มือหนายื่นหมวกกันน็อคอีกใบให้หญิงสาว ลูกแก้วรับไว้พร้อมกับพยักหน้า เธอรีบสวมหมวกและขึ้นไปคร่อมซ้อนท้ายบนรถบิ๊กไบค์คันใหญ่ แผ่นดินเอี้ยวใบหน้าหันมองอีกคน
“จับดี ๆ นะ”
“อื้อ”
คนขับหันกลับมามองถนนพร้อมกับพร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ ก่อนบิ๊กไบค์คันสีดำจะขับไปข้างหน้าด้วยความเร็ว