10 นาทีต่อมา
“เลิกกับคีย์ซะราชา”
คำพูดที่ออกจากปากนั้นไม่ได้บ่งบอกทางอารมณ์ใด ๆ ฉันไม่ได้โมโหหรือจะต่อว่าน้องชาย สิ่งที่พูดนั้นก็ไม่ได้บอกว่าไม่พอใจคีย์น้องสาวคีตาแต่อย่างใดด้วย เพราะเธอแสนดีและเป็นคนดีมาก ๆ ดีเกินกว่าจะต้องรักคนอย่างน้องชายฉัน
นี่ไม่ครั้งแรกที่ราชาทำแบบนี้ ฉันพยายามเฝ้าดูและทำความเข้าใจกับตัวน้องชาย พยายามสอนเรื่องดี ๆ และสิ่งที่ควรจะทำแต่ดูเหมือนว่าสมองของราชามันไม่รับเรื่องดีเข้าไปเลย เรื่องเลวทรามนี่ถนัดนักจนตอนนี้ฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคีย์ถึงรักราชามากมาย
“หึ...ทำไมต้องเลิก คีย์น่ารักนะ ว่านอนสอนง่าย” แทนที่จะคิดทบทวนว่าทำไมฉันถึงพูดแบบนี้ กลับกันยังลอยหน้าลอยตาไม่สะทกสะท้านและไม่เลิกด้วย
“งั้นจะบอกคีตาเรื่องที่นอกใจคีย์” ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าน้องชายเรียบเฉย และราชาย่อมรู้ดีว่าถ้าเรื่องนี้คีตาเข้ามาจัดการด้วยตัวเองผลมันจะเป็นยังไง
“พี่อย่าเสือก” ราชาพูดอย่างตรงไปตรงมา สายตาของเราสองคนพี่น้องจ้องมองกันและกันไม่มีใครหลบสายตา
“พูดกับพี่ตัวเองแบบนี้เหรอ?” ฉันย้อนถามกลับและพยายามทำใจเย็นเข้าไว้ การเลี้ยงดูที่ตามใจและให้ท้ายของพ่อแม่ในอดีตจนโต เวลานี้กำลังส่งผลออกมาแล้วว่าราชานิสัยสันดานเสียมากแค่ไหน
“ก็เรื่องนี้พี่ควีนเสือกเกินไปจริง ๆ เรื่องของคนสองคน ถ้าคีย์ไม่ได้เดินมาบอกเลิกเองคนอื่นก็ไม่ควรเข้ามายุ่ง”
“....” คำพูดของน้องชายยิ่งกว่าถูกตบหน้าแรง ๆ ความรู้สึกเวลานี้มันชาจนเจ็บไปถึงหัวใจ
“แล้วแค่นอนกับคนอื่น ความรู้สึกก็ยังรักแค่คีย์คนเดียวเหมือนเดิม”
“....” ไม่เคยคิดเลยว่าน้องตัวเองจะพูดเรื่องที่น่าไร้ยางอายได้อย่างหน้าตาเฉยขนาดนี้
“ไม่นับว่าเป็นการนอกใจด้วย เพราะยังไงผมก็รักแค่คีย์” ราชาส่งยิ้มบาง ๆ มาให้หลังพูดจบ ความคิดที่อยูในสมองเท่าเม็ดทรายของน้องฉันมันคิดได้แค่นี้จริง ๆ
“ถ้าวันหนึ่งมีปัญหากับคีตา จะไม่ช่วยมึงเลย” คีตาไม่ใช่คนใจดีและอำนาจล้นมือ...หมอนั่นจะทำอะไรก็ได้ แต่ที่ไม่ทำเพราะเห็นแก่ฉัน ไหนจะเรื่องที่เตือนมาอีกมั่นใจเถอะว่าหมอนั่นรู้เรื่องการกระทำของราชาดี
พี่ชายที่รักน้องสุดหัวใจ...ไม่มีวันรับได้ถ้าคีย์เจ็บปวดและถึงวันนั้น ฉันอาจจะช่วยอะไรราชาไม่ได้เลย
“....” เป็นราชาบ้างที่เงียบหลังจากก่อนหน้านี้พูดอยู่ฝ่ายเดียว เพียงแค่ได้ยินชื่อ ‘คีตา’ ไม่ต้องขยายความต่อก็น่าจะรู้ว่าถ้ามีเรื่องขึ้นมาจริง ๆ ตัวเองจะโดนอะไรบ้าง
“ความคิดและสมองมีปัญหาที่มองเรื่องการนอนกับคนอื่นว่าไม่ได้นอกใจ”
“....”
“แค่เลิกกับคีย์มันเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ก็แค่ไม่ต้องการเสียคนที่ยอมตัวเองทุกอย่างไปก็เท่านั้น ยิ่งรู้ว่าคีย์รักมากแค่ไหนก็ยิ่งทำสันดานเห็นแก่ตัว ไม่ได้หมายความว่าตัวเองเป็นน้องฉันแล้วจะอยู่รอด...ถ้าคีตามันทำฉันก็ห้ามไม่ได้ แล้วคนอย่างนั้นไม่เคยออมมือ”
“....” สายตาของราชาที่มองมารับรู้ได้ว่ากำลังคิดวิเคราะห์ตาม
“เลิกตั้งแต่ตอนนี้ เลิกตั้งแต่ที่ยังไม่มีปัญหาเกิดขึ้น”
“ไม่มีหรอก” ราชาพูดออกมาอย่างไม่เต็มเสียงเท่าไรนัก คงไม่มั่นใจล่ะสิว่าจะไม่มีเรื่องวุ่นวายอย่างที่พูดจริง ๆ
“การกระทำของมึงนั่นแหละที่จะทำให้มีปัญหาราชา เรื่องอารมณ์ร้อนก็ด้วย วันก่อนทะเลาะกับคีย์แล้วใช้คำพูดรุนแรงใช่มั้ย เคยเตือนเรื่องนี้ไปแล้วว่าให้หัดใจเย็น...ไม่ใช่แค่หัด แต่ต้องใจเย็นให้ได้มากที่สุดกับคนรอบข้าง”
พรึ่บ!
“เป็นพี่ใครกันแน่วะ จะฟังแต่ฝั่งเพื่อนตัวเองเกินไปหรือเปล่า! เคยมีสักครั้งมั้ยที่เชื่อน้อง!” ราชาลุกขึ้นยืนเต็มส่วนสูงแล้วตะคอกกลับเสียงดังลั่น
“สภาพน่าเชื่อมากเลยราชา นี่พี่มึงยังกล้าตะคอกใส่แล้วคนอื่นจะขนาดไหน” ฉันพูดกับคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ไม่แสดงออกทางอารมณ์ใช้ความนิ่งเข้าควบคุมอีกฝ่ายให้รู้สึกกลัว
“แต่คนอื่นก็ไม่มีใครกล้าพูดกับผมแบบพี่ไง!”
“จะหยุดตะคอกได้หรือยัง” เพราะถูกตะคอกอีกครั้งทำให้ต้องถามอย่างซึ่งหน้าเป็นการเรียกสติราชาให้รู้ตัวให้กลับมาควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้ สายตาจ้องมองหน้าอีกฝ่ายอยู่ในเวลานี้พอจะทำให้ราชารู้ว่าต้องทำตัวยังไงต่อไป
หรือฉัน...ต้องพาน้องตัวเองไปหาหมอ?
“ผมจะพูดครั้งสุดท้าย...พี่ไม่ต้องมาเสือก” พูดจบราชาก็เดินออกไปจากโถงใหญ่กลางเพนต์เฮาส์ พาตัวเองกลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเองปล่อยฉันทิ้งเอาไว้เพียงลำพัง สรุปแล้วทุกเรื่องที่พูดกับน้องชายไม่มีอะไรเข้าสมองราชาเลยแม้แต่เรื่องเดียวสินะ
หรือฉัน...ควรบอกคีย์เรื่องที่ราชาเอาผู้หญิงมานอน เพื่อให้ฝ่ายนั้นตัดความสัมพันธ์และทุกอย่างมันจะได้จบ
ปึง!
เสียงประตูห้องปิดดังสนั่นบ่งบอกถึงอารมณ์ของผู้กระทำได้อย่างดี ร่างเล็กลุกขึ้นยืนในระหว่างที่สายตายังคงจ้องมองบานประตูห้องที่น้องชายเดินเข้าไป จากนั้นก็เดินออกไปทางประตูเพื่อออกไปจากที่นี่
กริ้ก!
“ส่งคนตามดูราชา ถ้าเห็นมันยุ่งกับผู้หญิงเมื่อไรเก็บหลักฐานมาให้หมด” เสียงหวานเอ่ยออกคำสั่งกับมือขวาของตัวเองอย่าง ‘ราม’ ที่เป็นทั้งมือขวาและเป็นหัวหน้าของทีมดูแลทั้งหมดของฉัน เป็นบุคคลที่ไว้ใจได้มากที่สุด
“ครับ คุณควีน” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยรับคำสั่งอย่างรู้หน้าที่
ในเมื่อไม่ยอมปล่อยคีย์ไปแล้วยังใช้ความรักที่ได้รับมาอย่างไม่เห็นคุณค่า ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะทำให้คีย์รู้ด้วยตัวเองซะ แม้มันจะเป็นการทำร้ายคีย์อย่างตรงไปตรงมาและดูใจร้าย แต่ได้โปรดรับรู้ว่าฉันหวังดีและรักเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง
แค่คิดว่าราชาต้องเลิกกับคีย์ด้วยเรื่องนี้ฉันก็รับรู้ได้เลยว่าน้องตัวเองจะต้องเจออะไรจากคีตาบ้าง
แต่อย่างน้อย เจ็บตัวมันย่อมดีกว่าตาย...
(คีตา)
กลางดึกคืนวันเดียวกัน ณ เพนต์เฮาส์ส่วนตัว
“ดูเหมือนว่าพักหลังมานี้จะมีปัญหาเรื่องผู้หญิงเข้ามาบ่อยมากขึ้น มีทั้งที่คุณคีย์จับได้และจับไม่ได้”
นัยน์ตาคมจ้องมองภาพบนหน้าจอโทรศัพท์ในมือ ในระหว่างนั้นลูกน้องกำลังรายงานสิ่งที่ถูกสั่งให้เฝ้าจับตามาดูสักพัก ภาพของแฟนน้องสาวที่เดินเข้าโรงแรมกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าและที่สำคัญพวกเธอไม่ใช่น้องสาวของเขา
“พี่สาวมันรู้เรื่องนี้มั้ย” ควีนเองก็รู้นิสัยน้องชายไม่ต่างกัน อาจจะเป็นไปได้ว่าเธอก็รู้เรื่องราวทั้งหมดนี่ด้วย
“คิดว่ารู้ครับ วันนี้คุณควีนไปที่เพนต์เฮาส์หลังจากที่น้องชายพาผู้หญิงขึ้นไปไม่ถึงชั่วโมง”
คิดเอาไว้แล้วว่าต้องรู้...รู้แล้วทำอะไรกับเรื่องนี้บ้าง?