หลังจากที่ฉันรู้จักชื่อและข้อมูลบางอย่าง ก็ไม่มีเวลาไปสืบหาอย่างอื่นเพราะเข้าเรียนปีแรก ต้องอยู่ในกฎระเบียบพอสมควร เช่นการรับน้องและรายงานตัว
เวลาผ่านไปหลายวัน ก็หยุดเรียนเนื่องจากเป็นวันเสาร์อาทิตย์ แต่ไม่เป็นไร วันจันทร์ค่อยไปตามหาเนื้อคู่อย่างพี่สิงหาต่อ
"สมิง จะไปเที่ยวที่ไหนแต่งตัวสวยเชียว" เมื่อฉันเดินลงมาก็เจอป๊าเสือทักเป็นคนแรก
"หนูจะไปเปิดหูเปิดตาค่ะป๊า"
"ยังเด็กอยู่จะไปเที่ยวกลางคืนแล้วเหรอ''
"หนูโตแล้วนะคะ สัญญาว่าจะกลับไม่ดึกค่ะ"
ฉันคุยตอบโต้กับป๊าเสร็จก็เดินมาขึ้นแท็กซี่ที่เรียกบริการ เพราะไม่อยากให้คนขับรถไปส่ง รู้สึกไม่เป็นส่วนตัว
ตือ ตื้อ ~
เสียงเพลงดังไปทั่ว นี่เหรอ...คลับเฮียหมีที่ผู้หญิงคนนั้นบอก แม้จะไม่ได้ตั้งใจมาตามหาพี่สิงหาแต่ก็ดันชะเง้อมองไปทั่วเผื่อจะเจอ
"อือ ฮึก! เหล้าไรวะโคตรเเรง'' ฉันนั่งหน้าบาร์มองแก้วเหล้าใบเล็กสีใสในมือ ตอนอยู่เกาหลีก็แอบกินมาบ้าง แต่ยอมรับว่าเหล้าไทยแรงจริงๆ
ตุ๊บ! ร่างของคนชนกระเเทกจนสมิงที่นั่งอยู่แทบล้มหัวคะมำ
"เชี่ยไรเนี่ย!!!" ความเมาที่สะสมเริ่มเกิดปฏิกิริยาขึ้นในสมอง ฉันประคองตัวเองยืนอย่างเซ ก็พบกับสาวคนหนึ่งที่กอดอกจ้องหน้าฉันอย่างหาเรื่อง
"มึงนั่นแหละเป็นเชี่ยไรนั่งขวางทาง''
"นี่มันบาร์ มึงนั่นแหละเดินยังไง"
"อ้าว อีนี่!"
"กูไม่ได้ชื่ออีนี่''
สายตาอีกฝั่งจ้องดุใส่สมิงอย่างไม่ลดละ แต่ก็ไม่สามารถทำให้ใจของสมิงหวั่นได้ เธอจ้องกลับอย่างเอาเรื่องก่อนที่จะมีผู้หญิงอีกสามคนเดินเข้ามา
"มีไร"
"ก็อีนี่มันหาเรื่องกู"
"เก่งเหรอมึง"
แย่แล้ว! มันมีมากกว่า เอาไงดีเนี่ย ฉันถอนหายใจลึกๆ รีบตั้งสติ เพราะตอนนี้คล้ายจะมีเรื่องแต่เราลูกแม่โฉมงามต้องห้ามยอมแพ้อะไรง่ายๆ
เสียงฝีเท้าที่วิ่งอย่างสุดชีวิตบนฟุตบาทถนน สมิงคว้ากระเป๋าแล้วสปีดเร่งออกมาจากฝูงชนอย่างรวดเร็ว
"อีสัด! หยุดนะเว้ย''
"หยุดก็โง่สิ!!!!" ฉันตะโกนตอบมันที่วิ่งตามมาเป็นฝูง
พรึบ
"เชี่ย'' รองเท้าส้นสูงราคาแพงหลุดร่วงออกไป ทำให้ฉันต้องหยุดชะงัก
"เดี๋ยว!!" อาการหอบเหนื่อยทำเสียงสั่น ฉันทำไม้ทำมือเป็นสัญญาณให้พวกที่วิ่งตามมาหยุดก่อน
"กวนตีนเหรอ!" สายตาจากสาวคนหนึ่งดุยังจ้องหน้ามองฉันอยู่
"เอางี้... พอดีรองเท้าคู่นี้ฉันหวงมากรุ่นหายากราคาแพง ต้องการเงินเท่าไหร่ให้จบเรื่องนี้"
ใช่ เงินซื้อได้ทุกอย่าง แล้วมันก็เรียกร้องจนฉันหมดกระเป๋าไม่เหลือสักแดงเดียว ฉันเดินเรียบไหล่ทางไปเรื่อยๆ บรรยากาศเวลาเกือบจะสี่ทุ่มดูวังเวงมาก
"หมูปิ้งจ้า ไม้ห้าบาท สามไม้ยี่สิบ" ฉันสะดุดคำพูดของคนขายหมูปิ้ง มันโง่หรือเปล่าไม้ห้าบาทสามไม้ยี่สิบ
"หมูปิ้งไหมจ๊ะ"
"เอาหนึ่งไม้"
"ฮะ''
"เอาหนึ่งไม้!" เพราะความวิ่งมาไกลทำให้หิวจนไส้กิ่ว แต่พอเปิดกระเป๋ามีเพียงเหรียญห้าบาท
"จะอิ่มเหรอ"
"ไม่ได้จะกินเอาไปถวายเจ้าที่" ยุ่งอะไรด้วย ผู้หญิงที่ขายหน้าตาก็ดูน่ารัก แต่ไม่เท่าฉัน! ยืนขายหมูปิ้งลำพังมีเพียงเตาเล็กๆ วางตะเเกรงและหมูที่หมักไว้ใส่ถุง
"เอาไงต่อดี" ฉันนั่งมองหมูปิ้งในมือหลังจากซื้อแล้วเดินมาที่ใต้ต้นไม้ ครุ่นคิดว่าจะกลับบ้านยังไง แล้วหมูปิ้งแค่ไม้เดียวจะพอยาไส้เหรอ แต่ฉันก็ต้องกินแหละเพราะหิว
"เจ้าที่คงหิวน่าดูนะ ฮ่าๆ" พอฉันเคี้ยวหมูปิ้งกำลังจะกลืนลงคอ ผู้หญิงที่ขายก็เดินมาทัก
"ยุ่งอะไรด้วย" สภาพจนๆ ไม่อยากจะเสวนาด้วยหรอก ชิ
"อะ กินสิจะได้หายหิว'' ฉันรับหมูในมือมาอย่างงงๆ มันพูดแค่นั้นแล้วเดินเพื่อไปขายต่อ มีน้ำใจเหมือนกันแฮะ!
บ้านโฉมงามกับเสือ
"สัญญาจะไม่กลับดึก ล่อมาซะเช้าเลย!!!!" เสียงโฉมงามที่ยืนด่าทอสมิงเมื่อเธอกลับมาในตอนเช้าของวันถัดไป
"ยังต้องให้ป๊าโอนค่าโรงแรมให้อีก เงินที่ให้ใช้อะไรหมด?" เสือพูดสมทบต่อสมิงได้แต่ก้มหน้าฟังพ่อแม่สั่งสอนก่อนจะเดินขึ้นห้อง
"บ้าที่สุด เพลียมาก" ฉันทิ้งตัวลงนอนอย่างเซ็งๆ อะไรก็ดูหงุดหงิดไปหมดจนกระทั่งเวลาผ่านไป
อีกวันต่อมา
"เย้ เย้ เย้! จะวันจันทร์แล้วๆ" เสียงเท้าของฉันที่ย่ำกระทบพื้นด้วยความดีใจหนัก เพราะพรุ่งนี้จะได้ไปเรียนสักที
แกร๊ก
"เสียงดังจังสมิง" จู่ๆ เฮียป๊อกเก้าก็โผล่เข้ามา
"เฮีย คิดถึงจัง"
"เห็นว่ามาถึงก็ก่อเรื่องเลยนิ"
"เฮียๆ เฮียว่าสมิงกับสิงหาคล้องจองกันไหม..เนื้อคู่หรือเปล่า อิอิ"
"เออก็ดี สมิงกับสิงหาสับเฉือนเนื้อไปต้มไล่เอาสว่านเจาะกระโหลก"
"เฮีย!! นั่นมันหนังฆาตกรรมนะหนูเคยดู"
"ฮ่าๆ อะไร? ไปเรียนไม่กี่วันมีผู้ชายมาจีบแล้วเหรอ" เฮียป๊อกเก้าเดินมานั่งข้างฉันที่โซฟามุมห้อง
"เปล่า หนูจีบเขาเองแหละ''
"เจริญล่ะ"
"สมิงคนนี้จะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง"
"เรียนจบแน่นอน"
"มีผัวแน่นอน ฮ่าๆ" ฉันหัวเราะชอบใจในขณะที่เฮียป๊อกเก้าส่ายหน้าเอือมๆ ก็ฉันชอบพี่ 'สิงหา' จริงๆนะ