บทที่ 1 เพื่อนรัก
ณ คอนโดหรูใกล้มหาลัย xx
ห้องพักหรูขนาดไม่ใหญ่มาก แต่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นความเป็นอยู่ที่เป็นระเบียบสะอาดสะอ้าน ตรงมุมห้องมีต้นกระบองเพชรในกระถางเล็ก ๆ กับโปสเตอร์รูปเครื่องบินติดอยู่ข้างเตียงสีขาวหม่น
บนเตียงนั้นเอง ร่างของชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผิวเข้มเล็กน้อยตามแบบคนชอบออกแดด กำลังกอดฟัดเพื่อนสนิทสาวที่นอนหันหลังให้เขาอยู่แน่นแนบไม่ยอมปล่อย
“ไอ้พายุ เอามือออกไป มันหนัก แล้วก็กลับห้องไปได้แล้ว!”
เสียงหวานจัดของ ทอฝัน ดังขึ้นข้างหู ใจจริงเธอไม่ได้โกรธ แต่ความอึดอัดจากวงแขนที่พันแน่นของเพื่อนวัยเด็กทำให้เริ่มรำคาญ
“ไม่เอาน่า ทอฝัน กูยังง่วงอยู่…”
พายุภัค งึมงำอย่างขี้เกียจ ใบหน้าหล่อเหลาแนบอยู่ที่หลังไหล่เธอ ไม่คิดจะขยับแม้แต่น้อย
“ห้องนั้นไม่มีแอร์ กูร้อนจะตาย… อย่าผลักกูดิ นี่กูสลบอยู่นะ”
ทอฝันกลอกตา กัดฟันกรอด ไม่รู้จะสมน้ำหน้าหรือขำก่อนดี
“เออ กูล่ะเบื่อมึงจริง ๆ… โตอย่างกับควายยังติดกูเหมือนแม่!”
เธอสะบัดไหล่แรง ๆ และถีบพายุจนเขากลิ้งไปเล็กน้อย แต่เจ้าตัวกลับยิ่งกระเถิบเข้ามาใกล้กว่าเดิม
“แม่อะไรล่ะ! กูรักแม่แต่กูไม่ได้อยากนอนกอดแม่แบบนี้นะ”
เขาว่าพลางหัวเราะพรืด กอดเธอแน่นขึ้นอีกอย่างไม่กลัวตาย
“ไอ้โรคจิต!”
“โห กอดเฉย ๆ ยังโดนด่าเป็นโรคจิต แล้วเมื่อคืนตอนมึงนอนละเมอเรียกชื่อกูเสียงสองแบบนั้น กูต้องหาว่ามึงเป็นโรคอะไรมั้ยล่ะ?”
พายุหัวเราะเสียงต่ำ แกล้งพูดล้อ จนทอฝันหันขวับกลับมา ใบหน้าขาวระเรื่อขึ้นมาวูบหนึ่ง
“มึง! กูไม่ได้…!”
เธอหน้าร้อนวาบ รีบพลิกตัวกลับไปทางเดิมอย่างเร็ว รู้สึกอยากแทรกที่นอนไปให้รู้แล้วรู้รอด
“เออ ๆ ไม่แซวแล้ว กูเหนื่อย กูขอนอนอีกแป๊บ…”
เสียงของพายุอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วซุกหน้ากับแผ่นหลังของเธออย่างหมดแรง
“มึงก็รู้ว่ากูต้องทำเป็นคนจนทั้งวันทั้งคืน เหนื่อยจะตาย… ห้องเช่ามีแต่กลิ่นอับ ผ้าปูยังมีรู กูไม่อยากกลับไปฝันร้ายตรงนั้นจริง ๆ ว่ะฝัน”
ทอฝันนิ่งไป
แม้ปากจะบ่นด่า แต่เธอเองก็รู้ว่าไอ้คนตรงหน้า… ทุ่มเทกับอะไรบางอย่างมากเกินไปแล้ว
โดยเฉพาะกับ เด็กคนนั้น น้ำตาล เด็กปีหนึ่งคณะวิศวะไฟฟ้า ลูกสาวกรรมกรที่พายุตามจีบไม่ลดละ ตั้งแต่ไปดูงานกับพ่อเมื่อไม่กี่ปีก่อน
“แล้วมึงจะจริงจังกับเขาขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เธอถามเสียงเบา ราวกับกลัวได้ยินคำตอบของตัวเอง
พายุเงียบไปครู่ ก่อนจะตอบแบบไม่มองหน้า
“ก็ไม่รู้ว่ะ… กูแค่อยากรู้ว่า ถ้ากูไม่ใช่ลูกใต้ฝุ่น… จะมีใครรักกูจริง ๆ บ้างไหม แล้วน้ำตาลก็เป็นคนดีเรียบร้อย กูชอบ”
คำพูดนั้นทำให้ทอฝันเงียบสนิท
เธอไม่รู้ว่าเพราะอะไร… แต่จู่ ๆ หัวใจก็เจ็บหนึบแปลบขึ้นมาเฉย ๆ
“แล้วกูที่อยู่ข้าง ๆ มึงมาตลอดล่ะ?”
เสียงนั้นหลุดออกไปก่อนที่เธอจะหยุดได้
เบา… แต่ดังพอให้พายุสะดุ้งเล็กน้อย
เขายังไม่พูดอะไรทันที แค่ยกแขนที่กอดเธอไว้อยู่ให้กระชับขึ้นอีกนิด
“มึงก็สำคัญไง…”
เขากระซิบชิดหูเธอ
“มึงคือที่พักของกู… และเป็นคนเดียวที่กูอยากอยู่ใกล้เวลาที่โลกมันน่ารำคาญเกินไป แล้วก็เป็นที่พักให้กูด้วย หึ ๆ ”
ทอฝันกลั้นหายใจ
หัวใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ
แล้วก็ต้องสะดุ้งอีกรอบเมื่อเสียงเตือน LINE ดังขึ้นในห้อง…
ติ้ง!
เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบของห้องแอร์เย็นฉ่ำ
พายุที่กำลังนอนกอดเพื่อนอยู่ครึ่งหลับครึ่งตื่น ลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า ก่อนจะควานหาโทรศัพท์ใต้หมอนอย่างเกียจคร้าน
น้ำตาล say :
“หนูรอที่ร้านเดิมนะ เลี้ยงข้าวหนูด้วย :)”
ทันใดนั้นเอง…
พรึ่บ!
ชายหนุ่มดีดตัวขึ้นจากเตียงอย่างกับถูกไฟช็อต ดวงตาเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น ผมเผ้ายุ่งเหยิงแต่กลับดูดีจนทอฝันอยากเอาหมอนฟาดหน้า
“เออ กูไปละ!”
พายุพูดพร้อมคว้ากระเป๋าเป้ที่วางอยู่ปลายเตียงแบบลวก ๆ
“สาวกูเรียกแล้ว ไปเลี้ยงข้าวก่อน เดี๋ยวเสียคะแนน”
”…ไอ้เหี้ย…”
ทอฝันมองเพื่อนตัวเองอย่างอึ้ง ๆ
เมื่อกี้ยังทำเป็นเนียนซุกอ้อนอยู่ข้างหลัง นอนกอดเธอหน้าซื่ออย่างกับแมวหิวข้าว
พอแฟนทักมาปุ๊บ… เหมือนวิญญาณหมาป่ากลับเข้าร่างทันที
“ทีกูไล่ให้ตายห่ามึงก็ไม่ยอมไป”
เธอส่ายหัวแรง ๆ
“สาวมาทักทีเดียว… แม่งดีดตัวอย่างกับมีสปริง กูล่ะเบื่อมึงจริง ๆ!”
พายุหันกลับมายิ้มกว้างแบบไม่รู้สึกรู้สาอะไร
“อารมณ์มันคนละเรื่องอะเว้ย มึงกูอยู่ด้วยได้ทั้งชีวิต แต่ว่าที่แฟนในอนาคต… มันต้องรักษาหน้าหน่อยดิ เดี๋ยวเขาน้อยใจ”
เขาพูดพลางยักคิ้วสองข้างใส่เธออย่างกวนประสาท
ทอฝันหยิบหมอนขว้างใส่ทันที
“ไอ้เวร!”
พายุหัวเราะลั่น โบกมือลาแบบไม่มีสำนึกใด ๆ
ก่อนจะเดินไปถึงประตู เธอก็ตะโกนไล่หลังตามมาอีกเรื่อง
“เฮ้ย! พายุ กูเตือนนะ… อย่าลืมเรื่องกิจกรรมรับน้องเว้ย!”
“เห็นพวกในคณะบอกปีนี้จะไปต่างจังหวัดด้วย อย่ามัวแต่วิ่งทำงานล่ะ!”
พายุชะงักแล้วหันมาเลิกคิ้ว
“งานก็ต้องทำ เงินก็ต้องหา แต่รับน้องกูก็ไม่พลาดหรอก มึงวางใจได้”
เขายิ้มให้เธออีกครั้ง ยิ้มที่มีทั้งความกวน ความจริงใจ และ… ความไม่รู้หัวใจตัวเอง
“ไว้เจอกันนะ เพื่อนรัก”
ปัง!
ประตูปิดลง ทิ้งให้ทอฝันนั่งอยู่คนเดียวบนเตียงที่ยังมีรอยยุบจากน้ำหนักของพายุ
เธอถอนหายใจ แล้วทิ้งตัวลงนอนนิ่ง ๆ
”…เออ กูมันก็แค่เพื่อนรักของมึงแหละ…”
เสียงพึมพำนั้นเบามาก แต่แผ่วลึกลงถึงใจ