บทที่ 2 ปรึกษา

1263 Words
ณ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านใจกลางเมือง บ่ายวันเสาร์ เสียงผู้คนจอแจ ผสมกลิ่นหอมจากร้านเบเกอรี่และกาแฟที่เรียงรายในโซนอาหาร พายุในเสื้อยืดซีด ๆ กับกางเกงยีนส์ขาดนิด ๆ เดินจ้ำเท้าผ่านร้านรวง หัวใจเต้นแรงกว่าเดิมเล็กน้อย เมื่อเห็นเด็กสาวผมยาวมัดหางม้าในชุดนักศึกษายืนรออยู่ตรงจุดนัดพบ “น้ำตาล!” เขาโบกมือเรียก น้ำตาลหันมา ดวงตากลมโตมีประกายแปลก ๆ เหมือนกำลังดีใจแต่พยายามไม่แสดงออกมาก เธอยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา “พี่พายุ… หนูหิวอะ” พายุยิ้มกว้างทันที “หิวเหรอ อยากกินอะไร บอกมาเลย เดี๋ยวพี่จัดให้” เขาพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่น แม้กระเป๋าสตางค์ที่พกมาจะมีแบงก์พันใบสุดท้ายซ่อนอยู่ก็เถอะ น้ำตาลเม้มริมฝีปากเบา ๆ เหมือนลังเลนิดหนึ่ง “หนูอยากกิน… สปาเกตตี้กับสเต็กอะพี่” พายุหัวเราะ “เออ เอาดิ! วันนี้พี่สายเปย์… พาเด็กสาวกินหรู” เขากลั้วหัวเราะในลำคอ ก่อนจะพูดต่ออย่างแผ่วเบาในใจ “…อย่างน้อยมื้อนี้เธอจะได้กินของที่อยากกิน โดยไม่ต้องห่วงเงินในกระเป๋า” จากนั้นสองคนเดินเคียงกันไปยังร้านอาหารฝรั่งชื่อดัง บรรยากาศในร้านหรูหราแบบเรียบง่าย พนักงานต้อนรับหันมามอง ก่อนจะรีบยิ้มรับเชิญเข้าร้าน แต่ก็มีเสียงซุบซิบกันเบา ๆ ระหว่างพนักงานสองคนที่ยืนหลังเคาน์เตอร์ “ผู้ชายหล่อดีนะ แต่แต่งตัวจนไปนิดว่ามั้ย?” “แต่ดูผู้หญิงสิ สวยอยู่ แต่แต่งตัวนี่…พยายามดูแพงมากเลยนะ” เสียงหัวเราะเบา ๆ หลุดออกมาจากฝั่งพนักงาน แต่อยู่ไกลพอที่พายุและน้ำตาลจะไม่ได้ยิน พายุพาน้ำตาลมานั่งที่โต๊ะริมกระจก มองเห็นวิวข้างนอกฝั่งถนน เขาหยิบเมนูมาเปิดดู แล้วผลักไปให้น้ำตาลก่อน “เลือกเลย จะเพิ่มของหวาน ของกินเล่น พี่ไม่ห้าม” น้ำตาลช้อนสายตามองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ “พี่พายุ…แน่ใจนะว่าพี่มีเงินพอเหรอ?” พายุยักไหล่ “ไม่รวย แต่ก็ไม่ปล่อยให้คนคุยต้องอดหรอกน่า” เขาขยิบตาให้หนึ่งที พร้อมเอามือเท้าคางมองเธอแบบเอ็นดู น้ำตาลเม้มปากแล้วยิ้มบาง ๆ มือเรียวค่อย ๆ เลือกเมนูเหมือนกลัวจะทำให้เขาเดือดร้อน พายุจับสีหน้าเธอได้ จึงพูดเสียงเบาลงกว่าเดิม “รู้มั้ย ตั้งแต่รู้จักกันมา พี่ยังไม่เคยเห็นเราสั่งของที่อยากกินจริง ๆ เลยนะน้ำตาล” “วันนี้ไม่ต้องเกรงใจพี่นะ คิดซะว่า… พี่อยากเลี้ยง เพราะอยากเห็นเรามีความสุข” คำพูดนั้นทำให้น้ำตาลเงยหน้าขึ้นมองเขาเต็มตา หัวใจของเด็กสาวเต้นแรงอย่างไม่รู้ตัว เธอไม่พูดอะไร เพียงแค่พยักหน้าเบา ๆ แล้วก้มหน้าลงสั่งอาหารต่ออย่างตั้งใจ หลังอาหารมื้อนี้ พายุเดินไปส่งน้ำตาลที่หน้าทางออกห้าง เธอต้องรีบไปทำงานพิเศษที่ร้านกาแฟใกล้หอพัก ก่อนจากกัน เธอหันมามองเขาอีกครั้ง “ขอบคุณนะพี่พายุ… สำหรับวันนี้” เสียงของเธอเบาจนแทบกลืนไปกับเสียงรถราบนถนน พายุยิ้มบาง ๆ “ขอบคุณที่ให้พี่ได้อยู่ในวันของเราเหมือนกันนะน้ำตาล” เขายืนมองแผ่นหลังเธอจนลับตา ก่อนจะถอนหายใจเงียบ ๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดกระเป๋าเงิน ”…หมดพอดี” เขาหัวเราะกับตัวเองเบา ๆ ติ้ง! เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ดังขึ้น ขณะที่พายุกำลังเดินออกจากร้านอาหาร หลังจากเพิ่งแยกกับน้ำตาลไป เขาล้วงมือถือขึ้นมาดูหน้าจอ “ทอฝัน” ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอทำให้เขาเผลอยิ้มบาง ๆ ก่อนจะกดอ่านข้อความ [ไอ้พายุ มึงอยู่ไหนวะ เค้าเรียกประชุมด่วนนะ หารือเรื่องรับน้องกัน คณะเราจะไปต่างจังหวัดอีกสองวัน แล้ววันนี้เขานัดคุยรายละเอียดตอนเย็นอีกครั้ง แต่ตอนนี้มึงมา เจอกันที่ห้องประชุมเก่า ชั้น 3 ตึกเครื่องกล ก่อน] พายุอ่านข้อความจนจบ ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไปทันที [เออ เดี๋ยวกูไป] ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ตึก ตึก ตึก! เสียงฝีเท้าหนักเบาของนักศึกษาปี 3 จากหลายสาขาดังขึ้นเรื่อย ๆ ในห้องประชุมชั้น 3 ของตึกวิศวกรรมศาสตร์เครื่องกล มุมหนึ่งเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะกันเอง บางคนหยิบมือถือขึ้นมาไลฟ์ บ้างก็เปิดโน้ตจดข้อมูลที่ต้องคุยในวันนี้ พายุเดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง มือหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง อีกมือยกขวดน้ำดื่มขึ้นจิบ แล้วหันไปนั่งแถวหลังข้าง ๆ ทอฝันที่กำลังนั่งกอดอกดูโทรศัพท์อยู่ “มึงมาสายอีกละ ไอ้เสี่ยแอบเนียน,” ทอฝันกระซิบเบา ๆ พลางยื่นศอกสะกิด พายุยักไหล่ ทำหน้ากวน ๆ “อย่าให้หลุดว่าเสี่ยนะ เดี๋ยวกูไถผมมึงกลางห้องนี่เลย” ไม่ทันที่ใครจะพูดอะไรต่อ เสียงของ พี่โอม ตัวแทนรุ่นพี่ที่รับหน้าที่ประสานงานกิจกรรมรับน้องปีนี้ก็ดังขึ้น “โอเค ๆ ทุกคนเงียบหน่อยนะ จะได้เริ่มประชุมกันซักที!” เสียงซุบซิบค่อย ๆ เงียบลง คนทั้งหมดในห้องหันไปให้ความสนใจกับพี่โอมที่ยืนอยู่หน้าห้อง พร้อมเอกสารในมือ “ปีนี้พิเศษมากเว้ย เพราะคณะเรารวมกันหลายสาขา ทั้งเครื่องกล ไฟฟ้า เคมี ฯลฯ เลยอยากให้กิจกรรมรับน้องมันอลังการกว่าทุกปี…” เขาพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น สายตากวาดมองเพื่อน ๆ ทุกคน “กูเลยลองทำเรื่องขอพื้นที่จัดกิจกรรมไปที่เกาะส่วนตัวของ ตระกูลวรรธนะเดช…แต่ติดที่ว่ายังไม่ได้รับการอนุมัติเลยวะ มะรืนนี้จะไปแล้วด้วย จะทันไหมเนี่ย!” เสียงฮือฮาดังขึ้นทันที “เกาะวรรธนะเดชเหรอวะ?” “ที่นั่นโคตรแพงอะ มึงบ้าเปล่า!?” “บ้านใครจะไปเคยเหยียบเกาะนั้นวะ นั่นระดับเจ้าสัว!” “เฮ้ย แต่ก็เคยมีรุ่นหนึ่งที่ไปนะ รุ่นพี่เวย์ไง” ท่ามกลางเสียงอื้ออึง เสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นเรียบ ๆ แต่ชัดเจนพอจะทำให้ทั้งห้องหยุดฟัง “เรื่องนั้น เดี๋ยว ฉัน จัดการเอง” น้ำเสียงนิ่ง ๆ จากพายุ ทำให้ทุกคนหันขวับไปมองพร้อมกัน “หืมมมม?” เสียงเพื่อนบางคนเริ่มสบตากันงง ๆ “มึงจะจัดการยังไงวะ?” “อย่าบอกนะว่ามึงรู้จักเจ้าของเกาะ?” พายุกระแอมเบา ๆ แล้วยักไหล่ไม่สน “ก็…หมายถึงให้ ทอฝัน ไปคุยน่ะ ผู้ปกครองมันสนิทกับคุณใต้ฝุ่น เจ้าของเกาะนั่นไง” “อ๋ออออ~!” “งี้นี่เอง! นึกว่ามึงมีเส้นสายซะอีก ไอ้พายุ ฮ่าๆๆ” ทุกคนหัวเราะเบา ๆ บรรยากาศผ่อนคลายลง ทอฝันหันไปค้อนให้พายุหนึ่งที ก่อนจะพยักหน้ารับ “โอเคค่ะ เดี๋ยวฉันลองโทรไปถามให้ก็ได้” พี่โอมยิ้มกว้างทันที “ขอบคุณมากทอฝัน! ถ้าได้จริง ๆ นะ กิจกรรมปีนี้จะเป็นตำนานเลยเว้ย!” พายุเอนหลังพิงเก้าอี้ หัวเราะในลำคอเบา ๆ ไม่มีใครรู้…ว่าเจ้าของเกาะนั่น คือใต้ฝุ่นพ่อของเขาเอง และเขา…คือทายาทของตระกูลวรรธนะเดช และเรื่องที่เขารวยมีเพียง ทอฝัน ไดม่อน และ เอริค เพื่อนสนิทในคณะเท่านั้นที่รู้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD