บทที่ 3 พี่ว๊ากสุดโหด

1500 Words
หลังจากเสียงฮือฮาเรื่องเกาะส่วนตัวซาลง พี่โอมก็ยกแฟ้มในมือขึ้นอีกครั้ง ปึก ๆ ! เขาเคาะเบา ๆ กับโต๊ะให้ทุกคนกลับมาให้ความสนใจ “อ้อ! แล้วก็…เรื่องสำคัญไม่แพ้กันนะ! ปีนี้เรารับน้องร่วมหลายสาขา พี่ว๊ากต้องเอาให้อยู่หมัด ขอคนโหด ๆ หน่อยทั้งฝั่งผู้ชายและผู้หญิง!” เสียงฮือฮาอีกระลอกดังขึ้น มีเสียงพูดคุยแซวกันไปมา บางคนทำท่าหน้าสั่น บางคนก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “ขอกูถอนตัวตั้งแต่ยังไม่เริ่มได้ไหมวะ ฮ่า ๆ ๆ” “มึงจะกลัวอะไร เขายังไม่ได้เลือกชื่อเลยโว้ย!” ทันใดนั้น บิ๊ก หนุ่มตัวสูงจากวิศวะเคมีที่ชอบเป็นตัวตั้งตัวตีในงานกิจกรรมก็ยกมือขึ้น “กูเสนอชื่อ ไดม่อน กับ เอริค เป็นพี่ว๊ากฝั่งผู้ชาย โหดพอไหมวะ?” “เห้ย! เห็นด้วยเลย!” “ไดม่อนเสียงดังดี ส่วนเอริคก็โคตรจริงจัง” เสียงเห็นด้วยดังขึ้นรอบห้องอย่างรวดเร็ว ไดม่อนกับเอริคที่นั่งอยู่ด้านหลังแค่ยิ้มมุมปาก ไม่ได้ปฏิเสธสักคำ “โอเค ๆ สองคนนั้นผ่าน!” พี่โอมพยักหน้าแล้วมองหันซ้ายหันขวา “ฝั่งผู้หญิงล่ะ ใครดี? ขอคนดุนะ ขอแบบแค่หันหน้ามา น้องปีหนึ่งน้ำตาไหลเลยอะ!” “ทอฝัน กับ เนโกะ!” เสียงจากกลุ่มเพื่อนหลายคนพูดขึ้นพร้อมกัน ราวกับนัดกันมา ทอฝันที่กำลังก้มเล่นมือถือเงยหน้าขึ้นมาทันที ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองแบบงง ๆ “ฉันเนี่ยนะ!?” “เออ! เธอนั่นแหละ เหมาะสุด!” “หน้าโหด ๆ แบบเธอแค่ทำตาแข็งใส่ก็ไม่มีใครกล้าเถียงแล้ว” “ทอฝันทำหน้าโกรธนี่กูยังกลัวเลยอ่ะ บอกตรง” เสียงเพื่อน ๆ หัวเราะขำกันสนุกสนาน บางคนตบโต๊ะ บางคนก็แซวเสียงดัง ทอฝันทำหน้านิ่ง ๆ แต่ในใจปนทั้งขำทั้งเอือม เธอบ่นพึมพำเบา ๆ พลางเบ้ปาก “กูควรจะดีใจไหมเนี่ย ที่พวกมึงบอกว่าหน้ากูน่ากลัว…” ขณะเดียวกัน พายุหัวเราะออกมาข้าง ๆ หยิบขวดน้ำดื่มขึ้นมาแล้วพูดเสียงเบาแต่แซวแรง “ดีใจเหอะมึง อย่างน้อยก็ได้งานจากหน้าตา ถึงจะเป็นงานข่มขวัญก็เหอะ ฮ่า ๆ” ทอฝันเหล่มองเพื่อนสนิทอย่างเอือม ๆ “กูว่าหน้ากูอาจจะไม่กลัวเท่าไหร่นะ แต่ถ้ากูบอกความลับของบางคนว่าแอบไปนอนคอนโดเพื่อนสาวทุกคืน… อาจจะมีคนกลัวมากกว่านี้ก็ได้” พายุทำท่ากระแอมเสียงดังทันที “แค่ก ๆ เฮ้ย! เอ่อ…อากาศมันแห้งไปหน่อยอะ พี่โอม มีอะไรจะพูดต่อไหมครับ?” เสียงหัวเราะของเพื่อนทั้งห้องดังขึ้นอีกรอบ บรรยากาศอบอุ่น ครึกครื้น และเต็มไปด้วยความเป็นกันเองของวัยรุ่นคณะวิศวะที่ทั้งซน ทั้งแสบ และทั้งสนิทกันราวกับครอบครัว เมื่อเสียงหัวเราะเริ่มซาลง พี่โอมก็ยกมือขึ้นอีกครั้งเป็นเชิงเรียกความสนใจ “โอเค ๆ พอ ๆ หยุดหัวเราะแซวทอฝันกันก่อน เดี๋ยวแม่มันจะยกเก้าอี้ปาใส่เอา!” เสียงฮากระจายอีกรอบ แต่ก็เริ่มเงียบลงอย่างว่าง่าย “งั้น…สรุปตามนี้นะครับ! ปีนี้เราจะรับน้องรวมหลายสาขา ทั้งเครื่องกล ไฟฟ้า เคมี ยิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านมา แล้วสถานที่ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด จะเป็น เกาะส่วนตัวของตระกูลวรรธเดช ที่มีตำนานว่าแค่ค่าทรายยังแพงกว่าคอนโดกูอีก ฮ่า ๆ” เสียงหัวเราะเบา ๆ ตามมาอีกระลอก พี่โอมยิ้มก่อนหันไปทางทอฝัน “ฝากเรื่องประสานงานกับคุณใต้ฝุ่นด้วยนะทอฝัน ถ้าเจ้าของเกาะไฟเขียว พวกเราก็พร้อมลุย!” “อือ ๆ เข้าใจแล้ว” ทอฝันพยักหน้าเบื่อ ๆ แต่แววตามีความจริงจังซ่อนอยู่ “เอาล่ะ สุดท้ายก่อนเลิกประชุม เรื่องวันเดินทางนะ พวกเราจะออกเดินทาง เช้ามืดมะรืนนี้!” บางคนทำตาโต บางคนโอดครวญเบา ๆ “ให้ตื่นตีห้าคืออะไรเนี่ยพี่โอม…” “ไม่ได้อาบน้ำแน่ ๆ วันนั้น…” “ไอ้พวกบ่นเก็บไปเลย กูยังไม่ได้พูดครบ!” พี่โอมหัวเราะแล้วพูดต่อ “ฟังให้ดี แบ่งหน้าที่นะ ทีมหนึ่งมาช่วยกัน ขนของขึ้นรถตู้ที่ลานจอดหลังคณะ ต้องมาก่อนเวลานัดหน่อย ส่วนอีกทีมไป ดูแลน้องปี 1 ที่จะมารวมตัวหน้าอาคารใหญ่ ทำกิจกรรมเบา ๆ รอระหว่างรถมาถึง” เสียงพิมพ์ในกลุ่มไลน์ดังขึ้นพร้อมกัน หลายคนเริ่มหยิบมือถือมาจดจำ “เดี๋ยวพรุ่งนี้กูจะลงชื่อทีมเวรในกลุ่ม ใครสมัครใจอยู่กับของหรืออยู่กับน้อง ๆ ก็มากดเองนะ ไม่บังคับแต่…ถ้าไม่มาก็โดนด่า” “แล้วของที่ว่าคืออะไรบ้างพี่?” “เต็นท์ อุปกรณ์กิจกรรม อาหารแห้ง ของเล่นโหด ๆ กูไม่บอกหรอก เดี๋ยวไม่ลุ้น ฮ่า ๆ” เสียงจ้อกแจ้กเฮฮากลับมาอีกครั้ง บางคนเริ่มหาว บางคนมองนาฬิกาเพราะใกล้เวลาต้องเข้าแลป “โอเค งั้นประชุมแค่นี้เนอะ พวกมึงกลับได้แล้ว อย่าลืม…นัดเช้ามืด ไม่งั้นกูโทรปลุกเอง!” “โห่พี่! อย่าโทรเลย…เสียงพี่ปลุกทีนี่ฝันร้ายเลยนะ” “เออ ๆ ไอ้พวกปากเก่งทั้งหลาย ไปล้างเท้าเตรียมนอนรอได้เลย!” พายุที่เงียบมานาน ลุกขึ้นโบกมือเล็กน้อย “กูไปก่อนนะ ฝากใครลงชื่อให้ด้วย กูติดงานวิจัยแป๊บ” ทอฝันมองตามแล้วพึมพำ “สงสัยจะงานวิจัยสาวปีหนึ่ง…” เสียงหัวเราะครืนสุดท้ายดังขึ้นเป็นจังหวะปิดท้าย จากนั้นทุกคนก็เริ่มเก็บของ แยกย้ายกันออกจากห้องประชุมอย่างคึกคัก หลังประชุมเลิก สี่คนสนิทที่สุดในคณะก็แยกตัวจากกลุ่มใหญ่ มานั่งรวมวงกันใต้ต้นจามจุรีริมตึกวิศวะ พายุยกขวดน้ำขึ้นซด เหงื่อซึม ๆ ที่ขมับกับอากาศร้อนปลายวัน ทำให้บรรยากาศเหนอะหนะนิด ๆ แต่ก็ยังมีเสียงหัวเราะเบา ๆ อยู่ในวงเพื่อน ทอฝัน สะบัดผมยาวของตัวเองเบา ๆ ก่อนจะหันไปจิ้มต้นแขนพายุ “ไอ้พายุ มึงโทรหาป๊ามึงดิ บอกเลยว่าเด็กวิศวะอยากไปเกาะ ช่วยอนุมัติให้หน่อย” เธอพูดหน้าตายแต่เสียงติดขำในลำคอ พายุ ทำหน้าบูดนิด ๆ “เออ ๆ เดี๋ยวกูจัดให้ แต่มึงช่วยพูดให้กูฟังเหมือนอ้อนป๊าหน่อยดิ เผื่อกูซ้อมได้บรรยากาศ” เอริค กระโดดเข้าร่วมบทสนทนา “อารมณ์ประมาณ… ‘ป๊าคร้าบบบ น้อง ๆ อยากไปทะเลค้าบบบบ’ แบบนี้เลยมะ?” ไดม่อน หัวเราะลั่น “แล้วต้องมีจังหวะคลอไวโอลินด้วยปะวะตอนพูดคำว่า “ป๊า…ช่วยหน่อยนะ” ฮ่า ๆ ๆ” พายุ โบกมือ “พอเลยพวกมึง! แซวเป็นขบวนการ กูจะโทรละเนี่ย” แล้วเขาก็หยิบมือถือขึ้นมา กดโทรหาบุคคลที่ไม่มีใครกล้าโทรหานอกจากเขาเอง ‘ปะป๊าใต้ฝุ่น’ เสียงรอสายดังขึ้นเพียงสองครั้ง ปลายสายก็กดรับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่เต็มไปด้วยพลังอำนาจ ใต้ฝุ่นกรอกเสียงปลายสาย “ว่าไง?” พายุ กลืนน้ำลายเล็กน้อยก่อนจะพูด “ป๊า…เอ่อ…มีเรื่องขอหน่อยครับ” ขณะเดียวกันเสียงเอริคกับไดม่อนแอบหัวเราะหึ ๆ ด้านหลัง “นักศึกษาคณะผมจะมีไปจัดกิจกรรมรับน้องกัน… กำลังหาสถานที่อยู่ แล้วแบบ…ทุกคนเสนอชื่อ ‘เกาะส่วนตัวของตระกูลวรรธเดช’ ขึ้นมา ผมเลยคิดว่า ถ้าป๊าอนุมัติให้ใช้พื้นที่ได้ ก็คงดีมากครับ…” ปลายสายเงียบไปพักหนึ่ง… ใต้ฝุ่นพูด “จะพาไปกี่คน?” พายุตอบ “ประมาณเจ็ดสิบครับ” ใต้ฝุ่น “สตาฟฟ์ล่ะ?” พายุ “รวมด้วยเลยครับ ป๊าไม่ต้องห่วง เด็กดีหมด ไม่มีใครเกรียนหรอก” ใต้ฝุ่น “เดี๋ยวให้เลขาติดต่อไป เคลียร์เรื่องการเข้าพื้นที่ให้” “ขอบคุณครับป๊า!” พายุรีบพูดก่อนจะวางสาย พร้อมถอนหายใจยาวราวกับปลดปล่อยพลังชีวิต ทอฝัน ตบมือเบา ๆ “โอ้โห ลูกชายคุณใต้ฝุ่นโทรทีเดียวได้เลยนะคะ ไม่ถึงสองนาที แม่งเหมือนมีเวทมนตร์” ไดม่อน แกล้งถอนหายใจ “แหม๊ กูก็นึกว่าโทรไปแล้วจะโดนขอใบเสนอราคา นี่แบบโทรปุ๊บได้ปั๊บ กูขอเป็นลูกคุณใต้ฝุ่นบ้างได้มั้ยครับ?” เอริค ตบไหล่พายุ “เจ๋งว่ะมึง มหาลัยทำเรื่องขอใช้สถานที่ล่วงหน้าสามเดือน ไม่อนุมัติ แต่ลูกชายโทรกริ้งเดียว ได้เฉยยย สุด ๆ ไปเลย” พายุหัวเราะเบา ๆ ก่อนพูดแบบติดเล่น “แค่ใช้เกาะก็พอ อย่าเผลอใช้หัวกูวางกระทะตอนทำกับข้าวก็แล้วกัน…” ทั้งสี่คนหัวเราะคิกคักพร้อมกัน บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความสบายใจและความสนิทที่มีอยู่แค่ในกลุ่มพวกเขาเท่านั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD