บทที่1 เด็กวัยมัธยม |ยกพวกตีกัน
โรงเรียนมัธยมนานาชาติ
"อะไรนะริบบิ้น จะชวนเราโดดเรียนอีกแล้ว" สาวน้อยผมถักเปียผูกโบว์สีน้ำเงินคิ้วขมวดปมเมื่อเพื่อนสนิทคะยั้นคะยอ "ครั้งนี้จะไปที่ไหนล่ะ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล หรือว่าแอร์พอร์ต"
"เบื่อแล้วไปแต่ห้างมีแต่อะไรเดิมๆ"
"แล้วริบบิ้นจะไปไหนล่ะ"
"เราว่าจะไปเที่ยวเล่นแถวนี้แหละ"
"ใส่ชุดมัธยมเดินเตร่ไปเรื่อยแบบนี้ไม่ได้นะ ถ้าใครเห็นก็ถูกจับกลับโรงเรียน คุณครูโทรบอกผู้ปกครองก็เป็นเรื่องใหญ่"
ฝน สาวผู้เรียบร้อยเงียบขรึมพูดคุยกระซิบกระซาบกับ ริบบิ้น เพื่อนสนิทร่วมชั้นเรียน ซึ่งมีนิสัยดื้อรั้นแถมยังเอาแต่ใจมาก สักพักเพื่อนชายคนเดียวในกลุ่มก็เดินมาวางหนังสือฝึกใหญ่
"ปรึกษากันเรื่องหนีเที่ยวอีกแล้วล่ะสิ สองคนนี้" ผู้ชายสูงผอมใส่แว่นหน้าตาลูกครึ่งจีนบอกกล่าวกับเพื่อนสนิทสองสาวพร้อมกับจ้องมองด้วยสีหน้าไม่ชอบใจ ริบบิ้นเป็นฝ่ายตอบกลับ
"นี่แว่นอย่าพูดมาก มีหน้าที่ดูต้นทางก็ดูไปสิ ไม่ได้ขอให้โดดเรียนไปด้วยสักหน่อย"
"ครั้งก่อนก็เกือบโดนจับได้ ริบบิ้นอย่าไปเที่ยวเลย รอวันหยุดเราค่อยไปพร้อมกันก็ได้"
"ไม่เอา! จะไปเดี๋ยวนี้ ตอนนี้ วันนี้"
ความเอาแต่ใจยกให้เธอเป็นที่หนึ่ง หลังจากพูดคุยกันสักพักคุณครูประจำวิชาก็เข้ามาสอน เนื่องจากวันนี้มีสอบ และ อีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะปิดเทอม นักเรียนทั้งหมดในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 นี้ กำลังจะก้าวเข้าสู่วัยมหาวิทยาลัยในไม่ช้า
"ทำไมไม่รอให้สอบหมดทุกวิชาแล้วค่อยไป" ฝนยังกระซิบริบบิ้นถึงเรื่องที่จะโดดเรียน
"วิชาที่ต้องสอบอย่างเข้มงวดเราก็สอบครบแล้ว เหลือแค่วิชาที่สอบเก็บคะแนนนิดหน่อยเอง"
"พูดเหมือนเราเรียนหนังสือเก่งนะ แว่นมันหนังสือเก่งกว่าเราอีก มันยังไม่โดดเรียนไปไหนเลย"
"สรุปว่าเธอจะไม่ไปใช่ไหม"
"อือออ ครั้งนี้ขอปฏิเสธแล้วกัน"
"เสียดายจัง ว่าจะยกกระเป๋าที่ซื้อมาจากอิตาลีให้สักหน่อย สงสัยจะได้เก็บเข้าตู้ดังเดิม"
ริบบิ้นถอนหายใจ เธอหยิบโทรศัพท์ราคาแพงขึ้นมาพร้อมกับเปิดรูป เห็นกระเป๋าในตู้โชว์ที่ราคาเป็นแสน เนื่องจากฐานะทางบ้านร่ำรวย แม้ฝนจะไม่ได้ฐานะต่ำต้อยไปกว่าตน แต่พ่อแม่ก็ไม่ให้จับจ่ายซื้อของตามอำเภอใจ ดวงตาของเพื่อนสนิทลุกวาวก่อนที่จะคว้ามือถือจดจ้องกระเป๋าใบใหม่
"สอบไม่สำคัญสักหน่อยไปเที่ยวก่อนก็ได้" ฝนยิ้มจนแก้มปริ ขณะเดียวกันริบบิ้นก็ส่ายหน้าพรางพูดโต้ "ไม่ค่อยเห็นแก่ได้เลยนะยัยฝน"
"กระเป๋าราคาแพง แถมบินมาจากเมืองนอกใครล่ะจะไม่ชอบ สรุปว่าวันนี้เราจะไปเที่ยวไหนกัน"
"อยากเดินไปดูหลังโรงเรียนว่ามีอะไร"
"แต่แถวนั้นเป็นเขตต้องห้าม คุณครูบอกว่ามีแต่พวกนักเลงนะ ถ้าไปเราจะเป็นอันตรายหรือเปล่า"
"มากับริบบิ้นซะอย่างไม่ต้องห่วงหรอก อีกอย่างเคยได้ยินไหมว่ายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ฮึฮึ"
เสียงคำรามในลำคอทำให้ฝนเริ่มกลัว เนื่องจากริบบิ้นไม่เคยหวั่นกับอุปสรรคหรือปัญหาใดๆ เธอเป็นเด็กร่าเริงสดใสแถมมีความมั่นใจในตัวเองสูงปรี๊ดดด!
ด้านหลังนอกรั้วโรงเรียน
"ไม่เห็นจะมีอะไรน่าสนใจ" ริบบิ้นเดินเตะฝุ่นอยู่ข้างทาง ขณะที่เธอแอบออกมาจากด้านหลังของประตูโรงอาหารจุดลับสายตา
"บอกแล้วว่าไม่มีอะไร เราไปเที่ยวห้างกันเหมือนเดิมดีไหม..อย่างน้อยก็มีหนังภาพยนตร์ให้ดู"
"เฮ้อออ อยากมีอะไรตื่นเต้นให้ทำบ้างจัง"
"ร..ริบบิ้น บะ แบบนั้น เรียกว่าตื่นเต้นได้ไหม"
"นั่นมันอะไรกัน?!!!"
"เราวิ่งกันเถอะ"
ฝนพูดตะกุกตะกักชี้ไปยังด้านซอยที่ตอนนี้มีชายหนุ่มหลายสิบคนเดินตรงเข้ามา แต่ทว่า..สวมเสื้อคล้ายกับเป็นสถาบันหนึ่งเหมือนกันแถมยังอาวุธครบมือ มีทั้งของมีคม แล้วก็ท่อนไม้ที่ถือกันมาอย่างขึงขัง ใบหน้าแต่ละคนดูน่ากลัวหนักมาก ในขณะที่สองสาวกำลังจะก้าวถอย เมื่อหันหลังกลับก็มีคล้ายกลุ่มสถาบันอีกพรรคพวกเดินเข้ามา คล้ายกับพวกเขากำลังจะปะทะกัน
'ลุยโว้ยยยยยย!!!!"
เคว้ง
ตุบ
ผวะ
กริ๊ดดดดด!
เสียงกรีดร้องของสองสาวน้อยแถมยังต้องเร่งสปีดฝีเท้าวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น กระทั่งเบียดเสียดไปยังถนนอีกฝั่ง ตอนนี้ฝนแทบจะกระอักเธอหายใจไม่ทัน ริบบิ้นใจเต้นตึกตักเธอก้าวถอยหลังโดยไม่ระวัง
ปิ๊บบบบ
'อ๊าาาาก์!'
ทันทีรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งก็แล่นมาด้วยความเร็วและไม่สามารถหยุดเบรกกะทันหัน จึงทำให้ล้อหน้าเหยียบเข้าใส่รองเท้านักเรียนสีดำด้านของริบบิ้น จนเธอร้องเจ็บหน้าเขียวหน้าดำหน้าแดง เหงื่อตกด้วยความตื่นตระหนก สักพักก็รู้สึกว่าข้อเท้าด้านชาพร้อมล้มคะมำลงไปกับพื้น
"ฮื้อออ ขาหัก! ขาหักแล้ว ขาหัก" ริบบิ้นโวยวายโหยหวนร้องไห้ออกมา ฝนเองก็ตกใจยืนนิ่งตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก แต่สักพัก เสียงฝีเท้าของใครก็วิ่งตรงเข้ามา ปรากฏว่าเป็นสถาบันเดียวกันกับที่ถืออาวุธครบมือ แต่ครั้งนี้เขาเดินมาเพียงลำพัง
.
.
"เป็นเด็กเป็นเล็กมาทำบ้าอะไรแถวนี้ เขายกพวกตีกันหัวแตกจะตายห่าอยู่ละ ไม่เห็นหรือไงวะ"