คำพูดแสนเย็นชาพร้อมกับกำลังถอดรองเท้าให้ตัวเล็ก หลังจากดึงถุงเท้าออก ปรากฏว่าเลือดไหลซึมออกมาจากเล็บ ทันทีเขาก็รีบถอดเสื้อเพื่อพันบาดแผลเอาไว้ จากนั้นก็ยกโทรศัพท์มือถือโทรแจ้งหน่วยกู้ภัย
"ริบบิ้นเจ็บไหม" ฝนถาม "ริบบิ้นได้ยินเราไหม!"
"หล่อจัง ผู้ชายในฝัน"
"อะไรนะ..."
"คนอะไรเกิดมาหล่อได้ขนาดนี้ งือออ แถมยังใจดี"
"เธอมีสติหรือเปล่าเนี่ยริบบิ้น"
"คนนี้แหละว่าที่พ่อของลูกในอนาคต!!"
"______"
วี๊วอออ วี๊วอออ
ไม่กี่นาทีรถกู้ภัยก็มาถึงยังสถานที่เกิดเหตุ สักพักก็มีเปลหามตัวเล็กขึ้นไปยังด้านหลังรถเพื่อทำแผล
ชายหนุ่มใส่ชุดกู้ภัยคนหนึ่งกล่าวทักชายหนุ่มที่ช่วยเหลือสาวน้อยอย่างคุ้นเคย ท่าทางของทั้งคู่สนิทสนม
"มึงมาทำอะไรแถวนี้วะไอ้กันต์"
"เพื่อนมีเรื่องก็เลยต้องมาช่วย"
"เด็กช่างอย่างพวกมึงยกพวกตีกันอีกแล้ว ไม่มีงานมีการทำกันหรือยังไงวะ! เดี๋ยวก็มาเป็นภาระให้พวกกูอีก"
"ใครจะห้ามแม่งได้ เลือดนักสู้มันอยู่ในตัว"
"ยัง ยังมั่นอกมั่นใจเหลือเกิน ฮ่าๆ ถ้าลุงสินรู้ล่ะก็.."
"ขอร้องล่ะพี่ อย่าบอกเรื่องนี้กับลุงนะเว้ยยย"
"เอ่อ กูไม่บอกหรอก แค่แกล้งพูดเล่นไปแบบนั้น"
ในขณะที่ทำแผล ริบบิ้นก็ลืมความเจ็บปวด เธอจ้องมองเพียงใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายที่ช่วยเหลือ แถมตอนนี้เขายังเดินหลบไปมุมต้นไม้เพื่อหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบอย่างไม่สนใจคนรอบข้าง
หลังจากทำแผลเสร็จ เธอก็ยืนยันว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก
"สวัสดีค่ะหนูชื่อริบบิ้นนะคะ" เมื่อรถกู้ภัยกลับไป ตัวเล็กจึงเดินกะเผลกเข้ามาหาชายหนุ่ม "พี่ชื่ออะไร"
"ไม่ได้อยากรู้จัก ถอยไป ไม่เห็นหรือไงสูบบุหรี่อยู่"
"บุหรี่มันไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ อาจจะเกิดเป็นมะเร็งได้ หนูเคยเรียนมา คุณครูบอกค่ะ"
"ไม่ต้องเรียนก็รู้ไหม! แล้วพวกเธอมาทำอะไรที่ด้านหลังซอยนั่น รู้ไหมว่ามันอันตราย"
"รู้ค่ะ แต่หนูไม่มีอะไรทำ"
"เลยดิ้นรนอยากไปหาที่ตาย"
คำพูดไม่ใยดีแถมยังหงุดหงิดยิ่งทำให้ริบบิ้นชอบใจ คงเพราะเธอเป็นสาวน้อยที่มั่นอกมั่นใจในรูปลักษณ์ภายนอกของตัวเองที่โดดเด่น เรียนว่าสวยจนทุกวาเลนไทน์ต้องหอบของขวัญที่เด็กหนุ่มต่างห้องนำมามอบให้อย่างล้นมือ รอยยิ้มหวานส่งกล่าวทักทายพร้อมกับชวนพูดคุย
"หนูสามารถตอบแทนอะไรพี่ได้ไหมคะ" ริบบิ้นบิดตัวเขินอาย "ที่ช่วยหนูเอาไว้ขนาดนี้"
"ก็แค่รถเหยียบตีนไม่ใช่สิบล้อชน ไม่ต้องถือเป็นการช่วยเหลือชีวิต ไม่ต้องถือเป็นบุญคุณขนาดนั้นหรอก"
"คนเราเกิดมาก็ต้องทดแทนบุญคุณผู้มีพระคุณสิคะ เอาอย่างนี้หนูเสนอวิธีหนึ่ง"
"เสนอวิธีอะไรของเธอ..."
"หนูจะเป็นแฟนพี่ เพื่อทดแทนการช่วยเหลือในครั้งนี้ดีไหมคะ"
แอ่ก แค่ก แค่ก
ควันที่ลอยโขมงถูกพ่นออกมาเนื่องจากการสำลักของชายหนุ่ม ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มคิ้วขมวดไม่ชอบใจ จ้องมองสาวน้อยตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า พร้อมสาดเสียงหงุดหงิดเข้าใส่ "เรียนยังไม่จบริอยากจะมีผัวหรือไง!"
"ผัวเป็นยังไงหรือคะ อ๋อออ ใช่สามีหรือเปล่า?"
"ซื่อหรือโง่กันแน่เนี่ย"
"พูดถึงสามี ถ้าพี่รู้สึกชอบหนูขึ้นมามากๆ แล้วอยากจะขอแต่งงาน พี่ก็แค่เอาริบบิ้นผูกไว้กับต้นไม้ 1,000 ชิ้น แล้วหนูจะยอมตกลงแต่งงานกับพี่ทันทีเลยค่ะ"
"เดี๋ยว..ที่ลามปามถึงขั้นไปแต่งงานเลยเหรอ?"
"เด็กผู้หญิงน่ารักอย่างหนู ใครจะอดใจไหว อิอิ"
"ไปเสนอตัวที่อื่นเถอะไป ท่าทางเป็นลูกผู้ดีแบบนี้ ฉันไม่มีปัญญาจ่ายหรอก"
เขาพูดจบก็ทิ้งบุหรี่ลงพื้นพร้อมกับใช้เท้าขยี้ หลังจากนั้นก็หยิบเสื้อที่วางอยู่ริมฟุตบาทซึ่งเปื้อนเลือดห่อหุ้มนิ้วเท้าของริบบิ้นกำลังจะเดินจากไป ตัวเล็กเริ่มไม่พอใจ เธอไม่เคยถูกใครปฏิเสธมาก่อน ก่อนที่จะรีบวิ่งไปใกล้แต่ก็ตามไม่ทันจึงใช้วิธีตะโกนเสียงดังลั่น
'หนูชอบพี่นะ จุ๊กกวู๊ววว หนูจะขายบริษัทของพ่อและยกที่ดินทุกผืนของตระกูลให้พี่หมดเลย!!'
ยืนเฉยๆ ให้รถเหยียบตีนแล้วได้เจอว่าที่ผัวในอนาคต โอ้ยยย! นี่มันเรียกว่าพรหมลิขิตชัดๆ
คำพูดตะโกนดังยิ่งทำให้ชายหนุ่มไม่เหลียวหลัง ส่วนเพื่อนสนิทอย่างฝนยืนอึ้งคล้ายกับถูกไม้อัดจนแข็งทื่อ เมื่อได้สติรีบเขย่าแขนของเพื่อนในทันที
"ริบบิ้นเป็นผู้หญิงนะพูดแบบนั้นได้ยังไง" ฝนกล่าว
"เป็นผู้หญิงแล้วจีบผู้ชายก่อนไม่ได้เหรอ ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ชอบก็แค่บอกว่าชอบ เราผิดตรงไหน"
"ไม่ผิดหรอก แต่ท่าทางพี่ผู้ชายคนนั้นเขาไม่ได้ชอบ"
"เขาแค่เขินอาย ฮ่าๆ สงสัยคงไม่เคยเจอคนน่ารัก"
"หน้าตาเขาดีขนาดนั้น ก็คงมีผู้หญิงสวยมาจีบเยอะแยะเลยละมั้ง ไม่ใช่แค่ริบบิ้นคนเดียวหรอก"
"จริงด้วย! ไม่ได้การล่ะ เราจะต้องสืบประวัติค้นหาข้อมูลของพี่ เอ่อ..พี่..ได้ยินเขาคุยกันว่าชื่อ.."
"พี่กันต์"
ทันทีริบบิ้นก็ตาลุกวาว รีบสวมกอดเพื่อนสาวอย่างดีอกดีใจ อย่างน้อยตอนนี้เธอก็รู้จักชื่อผู้ชายที่ชอบพอว่าเขาชื่อ กันต์ ดูจากการแต่งตัวคงเรียนอยู่สถาบันแห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากอาณาเขตของโรงเรียนมัธยมนานาชาติของเธอสักเท่าไหร่
ปฏิบัติการค้นหาผู้ชายที่มาพร้อมความซวย! จึงเริ่มต้นขึ้น..