เสียงเรียกห่างออกไปทำให้เด็กน้อยหันขวับจ้องมอง เด็กชายที่ดูจะอายุมากกว่าหลายปียืนจดจ้อง ก่อนจะตะเบ็งเสียงแข็งใส่
"เธอทำอะไรกับหมาของฉัน?!"
"เปล่านะคะหนูแค่คิดว่ามันหิวเลยเอาน้ำให้ดื่ม แต่หนูไม่รู้จะใส่ไว้ตรงไหนเลยเอามือรองเฉยๆ มะ มันจะได้กินได้"
"____"
เด็กชายดูเหมือนจะเข้าใจแต่เขาห่วงใยหมาตัวนั้นมากกว่า จึงรีบเดินไปคว้ากลับมาไว้ในอ้อมอก
"ท่าโร่คราวหน้าอย่าวิ่งจากรถอีกนะ"
"มันชื่อทาโร่หรือคะน่ารักจัง"
เด็กน้อยเอ่ยถามแต่ทันทีก็ต้องหุบยิ้มมุมปากเพราะสายตาเขาดูไม่เป็นมิตรเท่าไหร่
นามิพูดโดยไม่สบตา "คนอะไรน่ากลัวชะมัด"
หลังจากแยกย้ายกันไป เด็กน้อยก็กลับใต้บันใดเพื่อไปหาแม่ดังเดิม แต่พอจะถึงก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่โดยที่กำลังพูดคุยบางอย่างกับแม่
"นี่ลูกสาวฉันเองชื่อ สึนามิ หรือเรียกนามิก็ได้" แม่แนะนำ "เพราะพ่อของนามิเป็นคนญี่ปุ่นจึงตั้งชื่อแบบนี้ให้ก่อนเขาจะตาย"
"น่ารักจังเลยไม่แพ้คุณ ฮ่าๆ"
"ชมเกินไปแล้วละค่ะ"
"ข้อเสนอเมื่อสักครู่พอจะไหวไหมครับ"
แม่จ้องหน้าลูกสาวตัวน้อยที่ยืนห่างออกไป ก่อนจะถอนหายใจพูดตอบกลับ
"ฉันมีลูกสาวคนเดียว อยากให้นามิมีอนาคตที่ดีพร้อมทั้งมีบัตรประชาชน คุณแน่ใจใช่ไหมว่าเจ้าของโรงงานจะจัดการได้ทุกอย่าง"
"แน่นอนครับเรื่องลูกสาวที่น่ารักของคุณเราจะดูแลและจัดการให้มีชื่อ มีที่อยู่ เสมือนคนไทยคนหนึ่งอย่างถูกกฎหมาย"
เมื่อผู้เป็นแม่ตัดสินใจทำบางอย่างที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าใครจะคาด เธอตกลงแลกชีวิตที่เหลือเพื่อให้ลูกสาวมีอนาคตที่แตกต่าง
ประตูสนิมสีเทาเงาวับเปิดออกกว้าง เห็นตึก และ โรงงานหลายหลัง แต่เมื่อก้าวพ้นประตูเข้าไป จะไม่มีใครได้กลับออกมา..
หลายวันผ่านไป
นามิได้เรียนหลังสือโดยมีผู้หญิงคนหนึ่งคอยสอน เธอได้นั่งรวมกับเด็กคนอื่นที่พ่อแม่ทำงานในโรงงานแห่งนี้ด้วย แต่เด็กน้อยช่างขี้สงสัย เธอมักสำรวจพื้นที่ไกลใกล้ แต่กลับพบบางอย่าที่ผิดปกติหลายอย่าง
ในห้องพักคนงานจะแบ่งล็อกแคบๆ ให้อยู่กันเป็นครอบครัว หากครอบครัวไหนสมาชิกมากก็แทบจะไม่มีช่องว่างให้หายใจ แต่สองแม่ลูกได้ทำเลดีอยู่ติดกับด้านหลังมีต้นไม้
"แม่จ๋าาา ทำไมที่นี่ถึงสูงมากเลย กำแพงเท่าตึกสองชั้นแน่ะ อีกอย่างไม่มีช่องหรือรูอะไรให้ลอดออกไปข้างนอกด้วย" เสียงหวานพูดแถมสีหน้างุนงงก่อนแม่จะตอบกลับ
"คงเพราะที่นี่คนเยอะแยะ อีกอย่างก็มีประตูเข้าออกทางเดียวไง"
"จริงเหรอคะ"
"จริงสิลูก แม่จะโกหกทำไม"
ผู้เป็นแม่ได้แต่ปลอบกอดลูกสาวเอาไว้ แม้จะรู้ว่าโรงงานแห่งนี้เป็นสถานที่ปิดตาย ใครที่จะออกไปได้ต้องมีใบอนุญาตจากนายใหญ่เท่านั้น
"A B C" เสียงท่องหนังสือของนามิ ซึ่งตัวน้อยเป็นเด็กฉลาดที่เรียนเก่งแซงหน้าเด็กรุ่นเดียวกันไปมาก แต่สายตากดดันของคนสอนนั้นทำให้เธอไม่สบายใจหนัก
"คนนั้นเหรอเรียนเก่งที่สุด"
"ใช่ค่ะเธอชื่อ ด.ญ สึนามิ อายุเจ็ดปวดเกือบแปดขวบ"
"แบบนี้พวกฝรั่งมันชอบ ฮึฮึ"
ชายหญิงพูดคุยกันพลางยืนจ้องมองไปยังเด็กน้อย
คนที่สอนเธอมองตาละห้อยคล้ายมีบางอย่างในใจท่วมท้นที่ไม่สามารถเอ่ยได้
หลายวันผ่านไป
"ถึงเวลาแล้วนะครับ"
"ฉันต้องทำมันเองหรือคะ.."
"ใช่ครับเพราะการทำแบบนี้จะถือว่าคุณนั้นเต็มใจ และ ทำด้วยมือตัวเองมันดีที่สุดจะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาทีหลัง"
"ค่ะ"
"ส่วนนี่สูติบัตรของลูกสาวคุณทางเราจัดการยัดเข้าระบบเรียบร้อยแล้ว"
แม่คว้ากระดาษพลางน้ำตาไหล ลูกสาวที่รักดั่งยอดดวงใจจะมีชีวิตเหมือนกับใครคนอื่น แต่สิ่งที่ต้องแลกช่างสุดทนฝืน
"มีดนี้คมที่สุดคุณจะเจ็บน้อยมาก หลังจากนั้นเราจะส่งทีมรักษาเข้ามาช่วย" ชายตรงหน้าส่งยิ้มให้อย่างเรียบเฉย "แต่ตอนที่ตัดขา คุณจะต้องให้ลูกสาวนั่งอยู่ด้วย เพราะนั่น..เป็นกฎใหม่ครับ"
"!!!!"