บทที่ 10 พวกพี่อยากลองไหม

1265 Words
บทที่ 10 พวกพี่อยากลองไหม หลังจากออกมาห้องพี่ภีมฉันก็เดินลงมาด้านล่าง สีหน้าของฉันมันคงไม่รับบุญอะไรแล้ว ไม่ถึงห้านาทีพี่ภีมก็เดินตามลงมา เขารีบคว้าแขนของฉันแล้วดึงเข้าประชิดตัว จนลมหายใจของพี่ภีมคลอเคลียอยู่ตรงหน้า "ฉันโกรธพี่อยู่ ทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง แถวบ้านฉันถือนะ" "ต้องแต่งใช่ไหมจะได้ให้หม่อมย่าฉันไปขอ" "พี่จะบ้าหรือไง!" "ก็เห็นบอกว่าแถวบ้านเธอถือ ฉันก็ต้องรับผิดชอบสิ แต่จะให้ฉันรับผิดชอบแบบไหน จะให้แต่งงานฉันไม่ติดนะ" "เรายังเรียนกันอยู่เลย ฉันพึ่งจะขึ้นปี 1 ยังเป็นสาวบริสุทธิ์ผุดผ่องจะมาแต่งงานเร็วแบบนี้ แถวบ้านฉันคงเอาไปพูดว่าฉันท้องก่อนแต่ง พี่เคยได้ยินเพลงนี้ไหม" พาไปลอง ผ่าน กล้อง ถ่ายหนัง แหม ข้าเขินจัง แต่ข้านั่ง ภูมิใจ อนิจจา ข้าไม่ทัน ดังได้ ถ่ายมา ถ่ายไป ท้องข้าใหญ่ ขึ้นมา นามดาวเรือง หรือนาม แววดาว สิ้นสด หมดสาว กลายเป็นข่าว กลับนา นามดาวเรือง โดนไอ้หนุ่ม แซวมา เออ เอ่อ เอิง เอ่ย เรียกอีหม่า ดาวโรย พอฉันร้องจบพี่ภีมก็หัวเราะลั่น เขาพาฉันมานั่งที่โซฟาแล้วยกขาขึ้นมาไขว่ห้างตามสไตล์คุณชายภีม "พี่ขำอะไร มันตลกมากหรือไง" "เธอมันเป็นเด็กแบบไหนกัน นอกจากจะเป็นตัวแสบตัวป่วน ยังทำให้ฉันหัวเราะได้ รู้ไหมว่าเมื่อวานฉันเครียดเรื่องสอบมากกลัวว่าจะทำออกมาได้ไม่ดี" "แต่ฉันก็ได้ข่าวมาว่า หลังสอบเสร็จพี่ก็ไปซั่มผู้หญิงไม่ใช่หรือไง" "แค่ไปดื่มด้วยกันแต่ไม่ได้ไปต่อ มันรู้สึกสะอิดสะเอียนยังไงก็ไม่รู้ เมื่อกี้ขอโทษนะ ฉันแค่อยากรู้ว่าตัวเองยังมีความต้องการทางเพศอยู่หรือเปล่า" "แล้วเป็นไง?" "ก็เต็มปากเธอไง หึหึ" "พี่ต้องรับผิดชอบนะทำฉันเสียหาย ปากฉันไม่เคยอมจู๋ใครมาก่อน" "ฮ่า ๆ ๆ ข้าวตังพอได้แล้ว ฉันหัวเราะจนปวดท้องหมดแล้วเนี่ย ฉันรับผิดชอบด้วยการส่งเสียเธอเรียนโอเคไหม" "แต่ฉันก็ยังโกรธพี่อยู่ดี" "จะให้ฉันทำยังไงล่ะเธอถึงจะหายโกรธ ไหนลองพูดซิหรือว่า.... ให้ฉันใช้ปากให้เธอดี" "ใช้ปากให้ฉัน? แต่ฉันไม่มีจู๋นะ" "ฮ่า ๆ ๆ ๆ ข้าวตังฉันไม่ไหวแล้ว ฮ่าาาา" ฉันนั่งมองพี่ภีมหัวเราะกว่าเขาจะตั้งสติได้ก็เกือบครึ่งชั่วโมง ฉันนั่งทานข้าวเป็นเพื่อนพี่ภีมเสร็จแล้วก็นั่งดูหนังด้วยกัน พี่ภีมปิดผ้าม่านปิดไฟนั่งดูหนังผีด้วยกันที่ห้องนั่งเล่น ฉันเข้าไปขนผ้าห่มของตัวเองออกมานั่งห่มผ้า ไม่รู้ว่าพี่ภีมเป็นคนขี้ร้อนตั้งแต่เมื่อไหร่เขาเปิดแอร์เย็นเจี๊ยบ "ขอห่มด้วยได้ไหม" "ได้สิแต่อย่าทำเปื้อนนะฉันขี้เกียจซัก พี่รู้ไหมว่าหนังเรื่องนี้มันไปถ่ายทำแถวบ้านฉัน ฉันเคยปั่นรถถีบออกมาดูเห็นดาราด้วย แต่ไม่ได้เข้าไปถ่ายรูปทีมงานไม่ให้เข้า" "เธอกลัวผีหรือเปล่า" "ผีนะไม่ใช่บุรุษไปรษณีย์ที่โผล่ออกมาจะไม่ตกใจกลัว แล้วพี่ล่ะกลัวไหม ผีมันดุนะมันกินไส้คนได้" "ฉันเรียนอยู่กับศพอาจารย์ใหญ่เอาอะไรมากลัว เรียนจบฉันก็ต้องเป็นศัลยแพทย์ ต้องผ่าตัดคนไข้" "ฉันเอาใจช่วยพี่นะ แต่ห้ามเอาจู๋ของพี่มาใส่ปากฉันอีกล่ะ" "ก็วันนี้เธออยากเข้าไปในห้องฉันทำไม พื้นที่ส่วนบุคคลไม่ว่าจะเป็นห้องฉันหรือห้องไอ้สองคนนั้น แม้แต่ห้องพักครูเธอก็ต้องเคาะและขออนุญาตก่อน ไม่ใช่เปิดประตูแล้วมาขออนุญาตทีหลัง" "ฉันจะจำไว้ค่ะ" ฉันนั่งดูหนังกับพี่ภีมอยู่นานจนหนังใกล้จะจบ ฉันก็ค่อย ๆ ขยับเข้าไปหาพี่ภีมเพราะรู้สึกว่าอากาศมันเย็นขึ้นเรื่อย ๆ ข้างนอกฝนก็เริ่มตก โชคดีที่ฉันไม่ได้ตากผ้าเอาไว้ "ง่วงก็นอน หนังกำลังสนุกเลย" "พี่ไม่ง่วงหรือไงฉันง่วงจัง อยู่ใกล้พี่ทำไมมันอุ่นแบบนี้ล่ะ" พี่ภีมสอดแขนตัวเองมาใต้ผ้าห่มแล้วจับฉันนอนหนุนแขน มือข้างซ้ายลูบหัวฉันเหมือนตอนที่แม่ใหญ่กล่อมฉันนอนตอนเด็ก หัวใจดวงน้อย ๆ มันเต้นตุ้บตั้บรู้สึกแปลก ๆ กับตัวเอง "พี่ภีม..." "ครับ..." มันคงเป็นภาพจำครั้งสุดท้าย หลังจากนั้นฉันก็นอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว ตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงกดชัตเตอร์และแสงไฟที่มันสว่างจ้าจนฉันแสบตา ฉันลืมตาขึ้นมาพบว่าตัวเองนอนกอดพี่ภีม ส่วนพี่ภีมก็นอนกอดฉันและมีเสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากหน้าทีวี "พวกมึงทำเหี้ยอะไรกันเนี่ยไอ้ริว! ไอ้ไนท์!" "แหม ๆ ๆ กูว่าแล้วทำไมเอ็นดูยัยบ้านนอกนี่จัง ที่แท้มึงก็อยากได้ความบริสุทธิ์ของเด็กนี่นี่เอง" "พูดเหี้ยอะไรของมึงไอ้ริว!" "พวกพี่ไม่มีมารยาท พี่ภีมฉันขอกลับห้องก่อนนะ กับข้าวพวกพี่ก็อุ่นกินเอาเองเลย" "อืม ไปเถอะเดี๋ยวฉันจัดการไอ้สองตัวนี้เอง" หลังจากที่ข้าวตังเดินเข้าห้องของเธอ ภีมหันมามองหน้าริวกับไนท์ทั้งสองยังคงเก็บหลักฐาน แถมยังสำรวจพื้นที่โดยรอบว่ามีอะไรสึกหรอหรือไม่ "กูไม่ได้ทำอะไรกัน" "ใครจะไปรู้ คนอย่างมึงมันกินเงียบอยู่แล้ว ที่ยอมให้เด็กนั่นอยู่เพราะยัยเด็กนี่ยังบริสุทธิ์อยู่ใช่ไหม มึงมันร้ายไอ้ภีม" "สมองมึงคิดได้แค่นี้ใช่ไหม ไปไกล ๆ ส้นตีนกูเลย" "มึงทำเป็นไล่ไอ้ไนท์ กูจะบอกอะไรให้นะ ยัยเด็กนั่นมันเห็นพฤติกรรมของมึงกับพวกกูแล้ว มันไม่มีทางเอาคนอย่างมึงหรอกน่า" "ใช่ เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบนั้น หม่อมย่ามึงไม่มีทางเอามาเป็นสะใภ้แน่" สิ่งที่ริวกับไนท์พูดมันทำให้ภีมสะอึกเล็กน้อย ทุกวันนี้ที่เขากินเล่นเที่ยวสนุก ทั้งเหล้า ทั้งผู้หญิง มันก็เป็นเพราะว่าเขาอยากจะเต็มที่กับชีวิตให้มากที่สุด เรียนจบเมื่อไหร่ไม่รู้ว่าหม่อมย่าจะบังคับชีวิตเขายังไงต่อ คงจะให้แต่งงานกับใครสักคน หลังจากนั้นชีวิตของเขาก็คงต้องอยู่ในกรอบที่หม่อมย่าตีเอาไว้ให้ กลางดึกคืนนั้นภีมยังคงนั่งอยู่เงียบ ๆ คนเดียว เสียงประตูห้องนอนของข้าวตังค่อย ๆ เปิด เธอเดินออกมาหาเขาด้วยชุดนอนที่แสนน่ารัก ทำให้ภีมมองเธอไปทุกสัดส่วน "พี่จัดการสองคนนั้นหรือยัง ต้องจัดการขั้นเด็ดขาดเลยนะ ปล่อยไว้ไม่ได้อันตรายมาก" "พวกมันไม่กล้ามายุ่งหรอก อีกอย่างเราไม่ได้ทำอะไรเสียหาย" "ฉันได้ยินพี่คุยกับพี่สองคน หม่อมย่าของพี่ชอบบังคับพี่ใช่ไหม" "ก็ประมาณนั้น" "พี่ถึงได้ทำตัวสุดโต่งเหมือนทุกวันนี้ใช่ไหม?" "ใช่ ทำไมเหรอ ฉันผิดมากหรือไง" "ไม่ใช่ พี่ไม่ได้ผิดแต่ว่า... พวกพี่อยากสวิงกิ้งฉันไหม?" "ฮะ!!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD