บทที่ 1
แข่งกันสามคู่
ในย่านนี้จะมีบ้านพักนักศึกษาอยู่หลายสิบหลัง ทั้งหอพักนักศึกษาอีกจำนวนมาก นักศึกษาส่วนใหญ่พื้นฐานครอบครัวค่อนข้างมีฐานะ มีกำลังทรัพย์ในการส่งเสียลูก โดยเฉพาะบ้านพักระเบียงดาว
ใคร ๆ ก็รู้ ฟ้าดินรู้ เหล่านักศึกษาและอาจารย์ก็รู้ว่า สมาชิกบ้านพักระเบียงดาวล้วนแต่เป็นลูกชายของครอบครัวมหาเศรษฐียกเว้น....ข้าวตัง
ยัยเด็กใสซื่อที่สอบชิงทุนได้อันดับที่ 2 ไม่รู้ว่าผีจับยัดหรือเป็นเพราะเธอไปบนบานเจ้าแม่ปลาบู่ทองเอาไว้ นักศึกษาที่สอบชิงทุนได้อันดับที่ 1 เกิดแพ้ปลาบู่แป๊ะซะทำให้ไม่สามารถมารายงานตัวได้
ทางโรงเรียนมัธยมศึกษาจึงได้ส่งข้าวตังมาแทน เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียน แต่ว่าเธอตระเวนหาหอพักแล้วเธอสู้ราคาไม่ไหว จึงได้โพสต์ลงโซเชียลทาง facebook IG ต้องการหอพักราคาถูกพอมีคนมาเสนอราคาเดือนละ 6,000 - 7,000 บาท เธอก็ต้องหันหน้าหนี เพราะเธอสู้ไหวแค่เดือนละ 1,500 บาทเท่านั้น
"ส่งฉันมาทำไมก็ไม่รู้ อยู่บ้านนอกก๋วยเตี๋ยวชามละ 25 บาทมาอยู่กรุงเทพฯ ชามละ 60 บาทไม่รู้จะขายสร้างตึกหรือไง!"
ข้าวตังไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวเธอเดินเตร็ดเตร่เข้ามาในหมู่บ้านนักศึกษาไฮโซ บ้านแต่ละหลังจะมีชื่อแตกต่างกันออกไป
เธอเดินมาหยุดพักที่หน้าบ้านระเบียงดาว บ้านหลังนี้ใหญ่โต
มีรถลัมโบร์กีนี ปอร์เช่ BMW หน้าบ้านติดป้ายว่ารับสมัครแม่บ้านค่าแรงสูงเธอจึงเดินไปกดกริ่งหน้าบ้าน แต่กดอยู่นานมากก็ไม่มีใครเดินมาเปิดประตู
"มาสมัครงานค่ะ!!"
เสียงตะโกนของเธอดังไปถึงในบ้าน ตอนนี้นักศึกษารูปหล่อเจ้าของรถ BMW เดินออกมาพร้อมใบหน้าสะลึมสะลือเหมือนคนพึ่งตื่น เขาสวมใส่แว่นตาดูเหมือนเด็กเรียน เด็กเนิร์ด
"เปิดเข้ามาเลยครับไม่ได้ล็อก"
"ขออนุญาตนะคะ"
ขนาดอยู่ไกลเกือบ 5 เมตร กลิ่นหอม ๆ จากตัวของผู้ชายคนนั้นยังลอยมาเตะจมูก ฉันได้กลิ่นแล้วถึงกับต้องสะบัดหน้าไปมา คนอะไรตัวหอมอย่างกับตกถังแป้งเด็กมา
เข้ามาด้านในฉันก็ต้องตกตะลึงกับความหรูหรา เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างแม้แต่ทีวีจอใหญ่นั่นฉันคิดว่าเป็นหนังกลางแปลงขนาดย่อม
"นั่งรอก่อนเดี๋ยวฉันจะไปตามเพื่อนอีกสองคนมาคุยด้วย"
"ค่ะ"
ไม่ถึงยี่สิบนาทีสมาชิกของบ้านหลังนี้ก็ลงมาจากชั้นสอง แต่ละคนหล่ออย่างกับบอยแบนด์ หล่อรวย ผิวขาว ทำไมนักศึกษาพวกนี้
ไม่ไปเป็นดารานะ
"ยังเด็กอยู่เลยทำงานบ้านเป็นด้วยเหรอ?"
หนึ่งในสมาชิกของบ้านหลังนี้ถาม ทุกคนดูเหมือนเพิ่งจะตื่นนอน
"นั่นสิ"
"สวัสดีค่ะ ฉันชื่อข้าวตังเป็นเด็กทุนของมหาวิทยาลัย AGB เรื่องงานบ้านฉันทำได้ทุกอย่างค่ะ ตั้งแต่ตัดหญ้าหน้าบ้าน ล้างถ้วย ล้างจาน ซักผ้า กวาดบ้าน ถูบ้าน แม้แต่ซ่อมหลังคาบ้านฉันก็ทำได้ เรื่องค่าแรงฉันไม่เกี่ยงขอแค่มีที่พักอาศัยมีข้าวกิน มีเงินไปเรียนก็พอค่ะ"
"ไอ้หมอแล้วแต่มึงนะกูยังไงก็ได้"
"ใช่กูขอแค่คนมาช่วยทำงานบ้าน ซักผ้ารีดผ้าให้กูก็พอ"
"งั้นก็ตามนี้เธอชื่ออะไรนะ ข้าวตังใช่ไหม หลังจากนี้เธอก็อยู่ที่นี่ ห้องข้างล่างริมสุดเป็นห้องนอนเธออยู่ห้องนั้นไปก็แล้วกัน พวกกับข้าวของสดพวกฉันสามคนจะให้เงินเธอเป็นคนจัดการซื้อข้าวของมาไว้ทำกับข้าว มื้อเช้าเอาง่าย ๆ รวดเร็ว เรื่องค่าแรงฉันจะให้ตามความเหมาะสมไม่ต้องกลัวว่าจะไม่คุ้ม"
"ค่ะว่าแต่... เมื่อกี้คุณสองคนนี้เรียกคุณว่าหมอใช่ไหมคะ"
"ฉันเป็นนักศึกษาแพทย์ แล้วไม่ต้องเรียกคุณหรอกฉันชื่อภีม เรียกพี่ภีมก็ได้"
"ค่ะ"
"ส่วนฉันชื่อริวเรียนอยู่คณะบริหารปี 3 เป็นรุ่นน้องไอ้ภีม 1 ปี"
"ค่ะ"
"ฉันชื่อไนท์เรียนอยู่วิศวะปี 3 ในบ้านนี้ไอ้ภีมแก่สุด"
"ค่ะ"
"ตามสบายนะวันนี้พวกฉันมีเรียนตอนบ่าย เวลาฉันนอนรบกวนอย่าเสียงดัง อย่าพาใครเข้ามาในบ้านเพราะพวกฉันไม่ชอบความวุ่นวาย โดยเฉพาะเรื่องผู้ชายถ้าจะพลอดรักกันก็ไปที่อื่น"
"พี่ภีมคะฉันไม่มีแฟนค่ะ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงฉันเป็นผู้หญิงที่รักษาพรหมจรรย์เป็นอย่างดี เวลามีพายุฝนฉันมักจะออกไปปักตะไคร้เป็นตัวแทนของโรงเรียนและหมู่บ้านทุกปีค่ะ"
"หึหึ ยังมีคนเชื่อเรื่องพวกนี้อีกเหรอ แต่เอาเถอะเธอมีเรียนวันไหน?"
"อาทิตย์หน้าค่ะ พรุ่งนี้เข้าไปรายงานตัวเตรียมซื้อของพวกหนังสือชุดนักศึกษา ไปเรียนอีกทีก็อาทิตย์หน้าค่ะ"
ฉันยังคงถูกทั้งสามคนสัมภาษณ์ต่าง ๆ นานาจนพวกเขาเริ่มมอบหมายงานให้ฉันทำตั้งแต่วันนี้ เรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รวมถึงค่าจ้างพวกเขายังไม่ให้แม้แต่บาทเดียว เพราะว่าฉันยังไม่ทันได้เริ่มงาน ฉันยังพอมีเงินติดกระเป๋าที่ได้มาจากบ้าน รวมทั้งทุนการศึกษาที่ทางโรงเรียนมอบให้
ฉันเข้ามาในห้องนอนของตัวเองที่มีเพียงเตียงนอน ชุดผ้าปูที่นอนที่อยู่ในตู้ ตู้เสื้อผ้า ทีวี โต๊ะหนังสือ มีตู้เย็นเล็ก ๆ เอาไว้ให้ฉันแช่ขนมส่วนตัว
ฉันต้องอยู่ในบ้านที่มีผู้ชายอีกสามคน เท่าที่ฉันได้พูดคุยกับทั้งสามคนพี่ภีมดูเป็นผู้ชายที่มีเหตุผลมากกว่าพี่ไนท์กับพี่ริว สองคนนี้ดูจะเป็นพวกอารมณ์ร้อนปากเสียด้วย
ช่วงกลางดึกฉันลุกออกมาข้างนอกเพื่อมาเก็บผ้าที่ตากเอาไว้ลืมไปเสียสนิทถ้าฝนตกขึ้นมานี่ยุ่งเลย
ในขณะที่ฉันกำลังเก็บผ้าอยู่หลังบ้าน ฉันรู้สึกว่าฉันได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังมาจากชั้นสองตรงระเบียงห้องข้างบน เท่าที่ฉันสำรวจมามันเป็นห้องของพี่ภีมกับพี่ไนท์
(อื๊ออ~ พะ ภีม~ อ๊าา~)
ฉันค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นไปตรงระเบียง ภาพที่ฉันเห็นตอนนี้มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเกาะระเบียงแอ่นสะโพกไปด้านหลัง ส่วนพี่ภีมขยับเอวกระแทกอยู่ด้านหลังของเธอ พอมองไปด้านซ้ายเป็นห้องนอนของพี่ไนท์ ฉันก็เห็นสาวสวยจับราวระเบียงหันหน้าเข้าหาพี่ไนท์
ทั้งสองคนกำลังกระแทกใส่กันอย่างดุเดือด
(ไนท์~ อ๊าาา~ ไนท์ขาา~ เร็วอีกค่ะ~)
ปึก! ปึก! ปึก!
ทั้งพี่ภีมและพี่ไนท์กำลังแข่งกันว่าใครจะทำให้ผู้หญิงถึงสวรรค์ชั้น 7 ก่อนกัน และดูเหมือนว่าทั้งสองจะมีคะแนนเสมอกัน ใครจะอยู่ก็อยู่ ฉันวิ่งสับตีนแตกเข้ามาในห้องแล้วปิดประตูล็อกกลอนอย่างแน่นหนา
แต่แล้วฉันก็ต้องตกใจเมื่อเสียงจากหน้าห้องมันเป็นเสียงของพี่ริว เขากำลังทำกิจกรรมบางอย่างกับผู้หญิงอีกคู่อยู่ตรงหน้าห้องฉัน!!!
"อ่าา~ จี๋~ เธอตอดเก่งจริง"
"อ๊าา~ ริว~ เบาหน่อยค่ะ อ๊ะ! อ๊ะ!"
มือซ้ายหยิบหนังสือสวดมนต์ขึ้นมาสวดมนต์ ถือเสียว่าเมื่อกี้ฉันไม่ได้ตั้งใจเงยหน้าขึ้นไปมองภาพอุบาทว์พวกนั้น และจะคิดว่าเสียงด้านนอกมันเป็นเสียงของผีเปรตมาขอส่วนบุญ
"นะโมตัสสะ นะโมตัสสะ เมื่อกี้ลูกไม่เห็น ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น สาธุอย่ามาหลอกมาหลอนลูกเลย"
นี่ฉันต้องมาอยู่กับพวกโรคจิตวิตถารใช่ไหม พวกผีเปรตบ้าระห่ำแข่งกันทำให้ผู้หญิงเสร็จริมระเบียงไม่อายฟ้าดินกันเลย