1 เดือนผ่านไป
เวลาล่วงเลยมาแล้วเป็นเดือน ในการฝึกงาน การที่มีคนที่ชอบอยู่ที่นี่ มันทำให้อยากตื่นมาทำงานในทุกวัน รวมถึงวันนี้ด้วย จะได้เจอเฮียเฟยของเธออีกแล้ว
"แกยิ้มอะไรขนาดนั้นเจิน" เมื่อรรินดาเห็นเพื่อนรักเอาแต่ยิ้มหน้าระรื่น ก็อดไม่ได้ที่จะถาม
"ปะ...เปล่าซะหน่อย"
"แกดูอารมณ์ดีทุกวันเลยนะ เป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย"
"ก็มีเรื่องดี ๆ ให้คิดนิดหน่อย" คิดว่าถ้าได้เจอเฮียเฟยของเธอ ใจเธอก็เต้นแรงขึ้นแล้ว การให้รู้สึกรักใครสักคนมันดีแบบนี้นี่เอง
"ไปซื้อกาแฟไหม"
"ไม่อ่ะ วันนี้ไม่อยากกินอะไรเลย"
"โอเค งั้นก็แยกกันตรงนี้แหละ"
"โอเคเจอกันตอนเที่ยงนะ"
"อือ" เมื่อร่ำลากันเสร็จแล้ว สองสาวก็ต่างแยกย้ายกันทันที
"สวัสดีค่ะพี่กร" เมื่อเห็นหัวหน้าแผนกกำลังวุ่นอยู่กับการจัดเอกสาร ก็รีบเข้าไปทักทายทันที
"สวัสดีค่ะน้องเจิน วันนี้มาเช้าจังเลยนะคะ"
"ค่ะ คอนโดเจินอยู่แถวนี้เอง จะได้ทำงานแล้ว ก็เลยถือโอกาสเปลี่ยนที่อยู่ด้วย"
"ดีจังเลยนะคะ ไม่ต้องรำคาญรถติดด้วย"
"ใช่ค่ะพี่กร รถติดเป็นอะไรที่เจินเบื่อมาก"
"แต่เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมดูสวยขึ้นคะเนี่ย มีอะไรแปลกหูแปลกตาไปหรือเปล่า"
"พี่กรก็ เจินเพิ่งไปทำผมมาค่ะ เปลี่ยนลุคใหม่บ้างเบื่อผมตรงแล้ว"
"พี่ก็ยังว่าอยู่ ลุคนี้สวยนะคะ"
"ขอบคุณมากค่ะ" เธอก็ยิ้มรับแล้วไปนั่งที่โต๊ะทำงาน เปิดคอมเช็คงานอย่างสบายใจ สายตาก็พยายามสอดส่องคนที่จะเดินเข้ามา เพราะถ้านั่งอยู่ตำแหน่งนี้ จะเห็นคนที่เดินเข้าออกโซนนี้พอดี
"พวกเธอดูยัยนั่นสิ ละดูแต่งตัวเข้า อะไรจะเวอร์วังกว่าพนักงานขนาดนั้น" เมื่อเห็นเด็กฝึกงานที่ไม่ชอบ พนักงานสาวขี้เม้าท์ทั้งหลาย ก็ต่างมองกันอย่างไม่พอใจ
"นาฬิกาที่ใส่อยู่ก็หลายแสนเลยนะ และเมื่อวันก่อนก็ไม่ใช่เรือนนี้"
"จริงเหรออุ้ม"
"ใช่น่ะสิหน่อย ฉันว่ายัยเด็กนี่ต้องไม่ธรรมดา"
"หรือมีคนเลี้ยงดูอยู่ ต้องเป็นเด็กเสี่ยแน่ ๆ"
"ฉันก็ว่าแบบนั้นนะ นักศึกษาที่เรียนอยู่แบบนี้ จะมีปัญญาที่ไหนไปใช้ของแพงขนาดนั้น ถ้าพ่อแม่ไม่เป็นมหาเศรษฐี"
"แล้วถ้าเกิดรวยขึ้นมาจริง ๆ ล่ะ"
"ไม่น่าหรอกนะ หรือถ้ารวยจริง ๆ ต้องรวยระดับไหนถึงใช้ของแบรนด์เนม พวกนั้นได้อย่างสบายใจได้แบบนี้"
"เอาเถอะ ถึงยังไงก็แล้วแต่ ฉันไม่ชอบยันนี่!" พลอยที่เป็นตัวตั้งตัวตี ก็พูดขึ้นอย่างไม่ชอบใจ
"ฉันด้วย!" อีกสามคนก็พูดขึ้นพร้อมกัน
และในตอนนั้นชยกร ก็เดินเข้ามาในบริษัทพอดี เธอที่เห็นแบบนั้นด้วยความที่ลืมตัว ก็ลุกขึ้นเดินไปหาเขาทันที
"เฮียเฟย" มือเรียวก็ดึงเขาไปในพี่ที่ลับตาคน เธอคิดถึงเขาจนแทบทนไม่ไหวแล้ว
"คุณหนู" เขาที่เห็นเธอก็ใจเต้นแรงไม่ต่างกัน ทุกวันได้แต่แอบมอง แม้แต่จะเข้าใกล้ยังต้องหาเรื่องมาอ้าง ใจเขามันช่างไม่กล้าอะไรเลย
"ตั้งใจหลบหน้าเจินอีกแล้วเหรอ" เธอถามด้วยความรู้สึกที่น้อยใจ เธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมเขาต้องทำแบบนี้ด้วย
"ผม..."
"เจินคิดถึงเฮียเฟยมากเลยรู้ไหม" มือเรียวก็จับมือเขาแน่นขึ้น อยากให้เขารู้เหลือเกินว่าเธอคิดถึงขนาดไหน
"..." เขาก็คิดถึงเธอมากเหมือนกัน มากกว่าเธอคิดถึงเขาด้วยซ้ำ
"เจินต้องทำยังไงเหรอ เฮียเฟยถึงจะรักเจินบ้าง" เธอพูดออกมาด้วยความตัดพ้อ และน้อยใจ
"ผม...ผมขอตัวก่อนนะครับคุณหนู อีกครึ่งชั่วโมงต้องเข้าประชุมแล้ว คุณหนูด้วยนะครับ" พูดจบเขาก็รีบแกะมือเธอออก แม้จะรู้สึกเจ็บปวดแค่ไหน แต่เขาก็ไม่อาจดึงเธอลงมาต่ำได้
"ใจร้ายมากนะ ทำไมเฮียเฟยถึงได้ใจร้ายกับเจินขนาดนี้ หลายปีแล้วนะ เจินไม่เชื่อหรอก ว่าเฮียไม่ได้รักเจินเหมือนที่เจินรัก!"
"..." คำพูดนี้มันช่างทิ่มแทงใจเขาเหลือเกิน ตลอดชีวิตที่เกิดมา คนแรกที่ทำให้เขารู้จักคำว่ารัก คือเธอเท่านั้น ผู้หญิงที่สดใสน่ารักคนนี้
"นี่คือสิ่งที่เจิน เสียใจมากที่สุด เฮียใจร้ายกับเจินมากนะ" พูดจบเธอก็เดินออกจากตรงนั้นไปทันที
"..." เขาก็ได้แต่มองตาม พร้อมกับถอนหายใจออกมา เขาอยากรักเธออย่างเปิดเผย เหมือนที่เธอทำ แต่ด้วยสถานะของเขาในตอนนี้ เขาก็ไม่อาจหารขนาดนั้นได้จริง ๆ
"คุณเฟยเป็นอะไรหรือเปล่าคะ" และในตอนนั้นแอนผู้ช่วยของเขาก็เดินเข้ามาพอดี ทั้งยังไม่เข้าใจที่เขายืนเหม่ออยู่ตรงนี้
"ไม่เป็นไรครับ"
"ค่ะ อีกสักพักต้องเข้าห้องประชุมแล้วนะคะ คุณปริญมาแล้ว"
"ครับ" เขาตอบรับพร้อมกับพยักหน้าให้ ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากรู้สึกแย่แบบนี้เลย เขาอยากรักเธอให้ได้ เหมือนที่เธอแสดงออกว่ารักเขา มันจะมีวันนั้นไหมก็ยังไม่รู้
เมื่อเข้ามาในห้องประชุม ปริญ ประธานผู้บริหาร ก็เข้ามาด้วยใบหน้าที่จริงจัง เหล่าหัวหน้าแผนกต่างๆ ก็ต่างมองหน้ากันอย่างกระอักกระอ่วนใจ กัววลกันว่ารอบนี้เขาจะจี้ถามเรื่องอะไรอีก
ซึ่งในห้องประชุมวันนี้ มีหัวหน้าแผนกต่างๆ และนักศึกษาฝึกงานของตัวเอง มาร่วมประชุมด้วย ซึ่งก็มีโปรเจคที่ต้องให้น้อง ๆ นักศึกษาฝึกงานร่วมทำด้วย และวันนี้ทุกคนก็ต้องเตรียมความพร้อมมารายงานผล
"ผมอยากฟังน้อง ๆ นักศึกษาฝึกงาน รายงานความคืบหน้าของโปรเจค ที่ตัวเองได้ร่วมรับผิดชอบครับ" ปริญพูดขึ้น พร้อมกับกวาดสายตาจ้องหน้าทุกคน
จากนั้นพนักงานก็เริ่มพรีเซ้นงานที่ไปคิดกันมา ซึ่งไอเดียของแต่ละคนก็น่าสนใจไม่น้อย วันนี้เขาอารมณ์ดี อะไรจะผิดจะพลาดไปบ้างก็พอจะมองข้ามไปได้ พร้อมแนะนำอะไรที่ควรจะมีเพิ่มต่าง ๆ จนทำให้ชยกรแปลกใจ
"น้องหลิน ไปเปิดสไลด์ให้คุณปริญหน่อยสิ พี่ต้องเตรียมเอกสารชุดต่อไป" อรทัยที่เดินแจกเอกสารประชุมอยู่ก็บอกกับรรินดา ที่นั่งอยู่กับกลุ่มนักศึกษาฝึกงาน
ซึ่งที่เปิดสไลด์พรีเซ้น ก็อยู่ข้าง ๆ กับปริญที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ประธานหัวโต๊ะ
"ได้ค่ะพี่อร" รรินดาก็กำลังจะลุกขึ้น
"เอ่อ พี่อรไม่ว่างเหรอคะ เดี๋ยวดาวไปเปิดให้ก็ได้ค่ะ" พูดจบดาวก็รีบเดินไปนั่งข้าง ๆ ปริญทันที
"เสนอหน้า" รมิดาที่รู้สึกหมั่นไส้ก็พูดออกมาเสียงดัง อย่างลืมตัวทำให้คนหลายคนต่างพากันมองมาที่เธอ
"อะไรของเจิน ดาวแค่จะมาเปิดสไลด์งานให้เฮียปริ้นเอง" ดาวก็มองมาด้วยสายตาที่ตัดพ้อ
"..." ด้วยแบบนั้นรมิดาก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ เสนอหน้ามากทั้งยังมาเรียกสรรพนาม กับพี่ชายเธอที่แสนจะสนิทสนมในที่ประชุม ไม่รู้กาลเทศะเลยสักนิด พร้อมกับมองไปที่ชยกรไม่รู้จักดูแลเด็กของตัวเองบ้างเลย
"..." 'เกี่ยวอะไรกับกูวะ' เมื่อเห็นสายตานั้นของรมิดา ชยกรก็รับรู้ได้ทันทีว่าเธอคิดอะไรอยู่
"ประชุมกันต่อเถอะครับ" ปริญก็พูดขึ้นเสียงเรียบ อย่างคนที่ไม่ถือสา แต่พนักงานต่างหน้าซีดกันหมดแล้ว เพราะรู้ดีว่าพฤติกรรมแบบนี้ไม่ควรทำต่อหน้าท่านประธาน
ชยกรก็มองรมิดาอยู่ตลอดเวลา ต่างจากเธอที่แทบจะไม่มองมาที่เขาอีกเลย เขาจะทำยังไงดี จะล้ำเส้นกว่านี้ก็คงไม่ได้...
"เจิน" และรรินดาก็รีบสกิดเบา ๆ ให้เธอได้รู้ตัว เพราะตอนนี้มีแต่สายตาที่มองมาอย่างตำหนิ และเป็นว่าคนที่น่าสงสารที่สุดตอนนี้คือดาว
"เอ่อ...เจินขอโทษค่ะ" เมื่อเห็นหลายคนมองอย่างไม่ชอบใจ รมิดาก็รีบขอโทษทันทีเพราะไม่อยากให้คนอื่นมองไม่ดีไปกว่านี้
ปริญที่ลอบมองอยู่ก็อมยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู รู้ว่าน้องสาวตัวดีของเขา กับดาวไม่ชอบกันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วยิ่งดาวต้องมาชอบเขาแบบนี้ รมิดาก็ยิ่งไม่ชอบใจ ทั้งยังต้องมาปั้นหน้าใส่กันตลอดเวลาที่เจอ และหนักสุดก็ได้มาฝึกงานที่เดียวกัน สุดท้ายก็ต้องระเบิดออกมาแบบนี้ อันนี้เขาก็เข้าใจดี