7 ผลกรรมที่เคยทำไว้

1660 Words
ณ โรงพยาบาล หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ มีคนส่งของมาป่วน ดาราก็หมดสติไปถึง 2 วัน ด้วยที่สุขภาพร่างกายของเธอไม่แข็งแรงอยู่แล้ว พอมาเจอเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจแบบนี้ สุขภาพยิ่งย่ำแย่ขึ้นไปอีก "คะ...คุณแม่" "ดะ...ดาวลูก ลูก เป็นยังไงบ้าง" คนเป็นแม่ก็ได้แต่โอบกอดด้วยความรัก "ฮึก ๆ ๆ" แล้วดาราก็ร้องไห้ออกมาอย่างกั้นไม่อยู่ ขนาดหลับไปแล้ว เรื่องราวในอดีตยังตามหลอกหลอนมาถึงในฝัน เธอทุกข์ทรมานเหลือเกิน การที่เสียทั้งคนรักและลูกไปในเวลาไล่เลี่ยกัน มันทำให้เธอไม่อยากมีชีวิตอยู่เลยสักวัน "ไม่เป็นไรนะลูก ไม่เป็นไรนะ" "ฮึก ๆ ๆ ดาวคิดถึงลูกค่ะแม่ ดาวคิดถึงลูกมาก" ก๊อก ๆ ๆ "ดาว ดาวเป็นยังไงบ้าง" หมอรุจที่รู้ว่าเธอฟื้นแล้ว ก็รีบวิ่งเข้ามาดูอาการทันที "ดาวคิดถึงลูก" เธอพูดพร้อมกับเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด "เมทกำลังมานะดาว ดาวไม่ต้องร้องไห้นะ" "มะ...ไม่ใช่ตาเมท ตะ...ตาหนู ตาหนูลูกของดาว ฮึก ๆ ดาวคิดถึงตาหนู ดาวใจจะขาดแล้ว ค่ะแม่" ดาราพูดออกมาอย่างคนที่สติแตก อาการของเธอหายไป 20 กว่าปีแล้ว แต่ตอนนี้กลับมาหนักกว่าเดิม จนเธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ "โอเคลูก ดาวใจเย็น ๆ ก่อนนะ ไม่ต้องร้องลูก ไม่ต้องร้อง" รุจาก็กอดลูกสาวตัวเองไว้แน่น ถ้าตอนนั้นเธอเป็นคนที่เด็ดขาดกว่านี้ เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น "..." หมอรุจที่ได้ยินแบบนั้น ก็พยายามข่มความไม่พอใจเอาไว้ เขารู้แล้วว่าอาการของเธอเริ่มกลับมา และเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็ไม่ปกติ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามีใครรู้เรื่องนี้อีกบ้าง ไอ้ก้าคนที่ให้มันเอาเด็กคนนั้นไปจัดการ มันก็ตายไปแล้ว แล้วใครจะมาทำเรื่องแบบนี้ได้อีก "หมอรุจ" พอหมอรุจกลับไปที่ห้องทำงาน ไม่นานทินกรก็เดินตามเข้าไป "คุณพ่อ" "ทำไมเรื่องทั้งหมดมันเป็นแบบนี้" "ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้ผมก็ให้คนไปสืบอยู่" หมอรุจพูดพร้อมกับถอนหายใจ เขาเป็นคนเด็ดขาด และเขาก็พยายามจะจัดการไอ้ก้าแล้ว ถึงตอนนั้นจะไม่สำเร็จ แต่สุดท้ายก็ได้รู้มาว่ามันตายไปแล้ว เรื่องนี้ก็คงจบแค่นี้ไม่มีใครรู้อีก แต่ทำไมเรื่องทั้งหมดเป็นแบบนี้ไปได้ "แน่ใจใช่ไหมว่าไอ้คนที่ทำมันตายไปแล้ว" "ครับ มันตายไปแล้ว แล้วก็คงไม่มีใครรู้เรื่องนี้อีก แต่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าของบ้า ๆ นั่นใครเป็นคนทำ" "ฉันรู้สึกผิด" ทินกรก็พูดออกมาตามความรู้สึกตัวเองในตอนนี้ เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นมาจากเขาจริง ๆ "คุณพ่อ..." หมอรุจก็ได้แต่หันมองด้วยสายตาที่ไม่พอใจ "ฉันไม่น่าทำเรื่องแบบนี้เลย เวรกรรมมันถึงได้ตกอยู่ที่ดาว ทีแรกก็คิดว่ามันจะจบไปแล้ว แต่ตอนนี้ได้เห็นแล้วว่าดาวอาการหนักกว่าเดิม แล้วถ้าดาวกลับไป..." กลับไปบ้าเหมือนที่ผ่านมา เขาจะทำยังไง ทินกรได้แต่คิดมาตลอด ว่าเขาทั้งเสียใจและทุกข์ใจ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพราะเขาคนเดียว เขาตั้งใจจะฆ่าหลานในไส้ ทั้งยังทำลายชีวิตลูกสาว ให้ตายทั้งเป็นเหมือนในตอนนี้ "คุณพ่อหยุดคิดแบบนั้นเถอะครับ ตอนนี้มันสายไปแล้ว กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีก และเรื่องทั้งหมดคุณพ่อก็เป็นคนต้องการแบบนี้เอง" เมื่อมาถึงตอนนี้ ถ้ามีใครสักคนต้องผิด คนนั้นต้องเป็นพ่อตาของเขาคนเดียว "หมอรุจ ทำไมพูดเหมือนฉันเป็นคนผิดคนเดียวแบบนี้" ทินกรก็ถามขึ้นมาด้วยความผิดหวัง ก็เพราะหมอรุจเองไม่ใช่เหรอ ที่เป็นคนเสนอให้เขาต้องทำแบบนี้ "ก็ใช่น่ะสิครับ ผมก็แค่ทำตามคำสั่งคุณพ่อ หรือมันไม่จริง คุณพ่อเป็นคนสั่งการเรื่องทั้งหมด" ได้ทีหมอรุจก็ผลัก เรื่องที่ตัวเองเคยทำออกไปให้พ้นตัว "ทำไมโบ้ยมาให้ฉันคนเดียว ทั้ง ๆ ที่แกเอง เป็นคนเสนอทุกอย่าง เรื่องราวทั้งหมดถึงได้เป็นแบบนี้" ทินกรลุกขึ้น ก่อนจะพูดด้วยอารมณ์ที่เดือดดาน มันใช่เขาคนเดียวซะที่ไหน ที่ทำเรื่องแบบนี้ "พูดแบบนี้ไม่ถูกนะครับ ผมก็แค่เสนอ แต่คุณพ่อมาทำตามเอง ทุกอย่างคือฝีมือคุณพ่อ ที่เราต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะคุณพ่อ!" "ไอ้รุจ!" ตอนนี้ทินกรทั้งเสียใจและผิดหวัง เขาคงตกหลุมพราง คนเจ้าเล่ห์อย่างหมอรุจเข้าแล้วจริง ๆ "แล้วตอนนี้ อาการเก่าของดาวก็กลับมาแล้ว และที่สำคัญไปกว่านั้น คนที่เข้าใกล้ดาวไม่ได้เลยก็คือคุณพ่อ กลับไปนั่งซึมเศร้าเหงาหงอยอยู่ที่บ้านเถอะครับ อย่ามาอยู่ที่นี่เลย เดี๋ยวอาการดาวจะหนักกว่าเดิม" หมอรุจพูดเหมือนคนไม่รู้สึกรู้สาอะไร มันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ที่เขาเข้ามาอยู่ในครอบครัวนี้ ก็เพื่อผลประโยชน์ทั้งนั้น แล้วก็ได้ผลประโยชน์นั้นจริง ๆ เพราะประมุขที่ใหญ่ที่สุดของบ้านอย่างคุณทินกรผู้ยิ่งใหญ่ ก็หูเบาและเชื่อคนอื่นเพื่อผลประโยชน์ตัวเองง่ายจริง ๆ "ทำไมฉันจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ ในเมื่อโรงพยาบาลนี้มันก็เป็นของฉัน ลูกเขยอย่างแกไม่มีสิทธิ์มาพูดจาอะไรแบบนี้" "หึ ก็ลูกเขยอย่างผมไม่ใช่เหรอครับ ที่จะได้กิจการนี้ไป ไม่สิ ไม่ใช่แค่กิจการนี้ แต่ทุก ๆ กิจการของตระกูลคุณพ่อ" "ไม่มีทาง วันนี้ฉันได้รู้สันดานแกแล้ว ทุกอย่างจะไม่เป็นของแกแม้แต่ชิ้นเดียว แกอย่าได้หวังไปเลย" ทินกรก็โมโหจนเลือดขึ้นหน้า เพราะตัวเองตามไม่ทันไอ้ลูกเขยเจ้าเล่ห์คนนี้ "เดี๋ยวก็รู้ครับ ว่าจะได้หรือไม่ได้ คนที่มันทำลายชีวิตลูกสาวตัวเอง ทั้งยังสั่งฆ่าหลานในไส้อย่างเลือดเย็น คนที่มันสันดานไม่ดี เป็นใครก็คงไม่ต้องให้บอก" หมอรุจพูดอย่างสะใจ เขาก็รอเวลานี้มานานแล้วเหมือนกัน "ไอ้รุจ!" "อย่าเสียงดังสิครับคุณพ่อ นี่ห้องพักหมอผู้บริหารเลยนะ พูดเสียงดังไปเดี๋ยวคนก็มาได้ยินหรอก ว่าคุณทินกรผู้ยิ่งใหญ่ ทำเรื่องอะไรไว้บ้าง" "แกอย่ามาขู่ฉัน!" "ผมไม่ขู่ใครอยู่แล้ว ถ้าจะแฉผมก็สามารถทำได้ตลอดเวลา ลองดูไหมครับ" พูดจบก็ยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี รู้แล้วว่าเขาได้ถือไพ่เหนือกว่า ตอนนี้ก็ต้องรอเวลา ที่เขาจะได้จัดการทุกคน แล้วทุกอย่างจะได้เป็นของเขาแค่เพียงคนเดียวสักที "..." นพดลโกรธมากจนหน้าแดง ตอนนี้รู้แล้วว่าตัวเอง ได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิต ไว้ใจคนแบบผิด ๆ คิดแค่ว่าอยากหาคนที่ดีและเหมาะสมกันไว้ให้กับลูกสาว ก็ไม่คิดเลยว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นแบบนี้ ไม่เคยนึกเลยว่า ลูกเขยที่เขาเลือกมา จะเป็นคนที่ร้ายกาจได้ขนาดนี้ "ดาวเป็นยังไงบ้างคุณ" หลังจากที่เดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องพักฟื้นตั้งนาน ก็ตัดสินใจเดินเข้าห้องไป เพราะก็เป็นห่วงลูกสาวมาก ถึงแม้ลูกสาวที่เขารักสุดหัวใจ แทบไม่พูดกับเขาเลยก็ตาม "คุณเข้ามาทำไม" "ผมเป็นห่วงลูก" "หมอฉีดยาคลายเครียด ตอนนี้ก็หลับไปแล้ว แต่คุณอย่ามาตอนที่ดาวตื่นเลยนะ ลูกคงไม่อยากเจอคุณจริง ๆ นี่ก็ร้องไห้เหมือนใจจะขาด ฉันเองก็จะตายเหมือนกันเมื่อเห็นลูกร้องไห้แบบนี้ ฮึก ๆ" พูดจบคุณหญิงรุจา ก็ร้องไห้เช่นกัน เธอสงสารลูกเหลือเกิน ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่ ทุกอย่างก็เหมือนยิ่งแย่ลงกว่าเดิม ไม่มีอะไรดีขึ้นเลยด้วยซ้ำ เวลาก็แทบไม่เยียวยาจิตใจ ที่บอบช้ำเกินไปของลูกสาว "ผมขอโทษนะคุณ" "มันคงไม่ทันแล้ว ตอนนี้จะทำยังไงกันดี ให้ลูกไม่ต้องทุกข์ทรมานแบบนี้" "ผมจะทำทุกอย่าง จะชดใช้ทุกอย่างให้ลูกเอง" "คุณจะทำอะไร" "ผมจะให้คนสืบหาให้ได้ ว่าเด็กคนนั้นยังมีชีวิตอยู่จริงไหม ผมมีความรู้สึกว่า หลานของเรายังอยู่" "จริงเหรอคุณ" รุจาก็ถามขึ้นอย่างมีความหวัง "อือ ผมจะพยายามตามหา อยากแก้ไขทุกอย่างให้ดีขึ้น ถึงแม้ว่าลูกจะไม่อภัยให้ผม แต่ขอให้หายโกรธสักนิดก็ยังดี" แล้วทั้งสองคนก็จับมือกันแน่น อย่างให้ความเชื่อมั่นกันและกัน "..." หมอรุจที่แอบฟังอยู่หน้าประตู ก็กำหมัดแน่น กัดกรามจนขึ้นนูน มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก เขาทำมาขนาดนี้แล้ว ทุกอย่างจะพังไม่ได้เด็ดขาด คิดแบบนั้นก็ต่อสายหาใครบางคนทันที "เรื่องที่ให้ไปจัดการเป็นยังไงบ้าง" (... : ได้เรื่องแล้วครับ เดี๋ยวสักพักผมส่งเมล์ไปให้) "รีบ ๆ ส่งมาเลยนะ แล้วมีงานอื่นให้ทำต่อ" (... : ได้ครับ) หมอรุจมองเข้าไปในห้องอีกครั้ง สายตาของเขาเริ่มเปลี่ยนไป ทุกอย่างของคนพวกนี้ควรเป็นของเขา เพราะคนอย่างเขาจะไม่เหนื่อยเป็นเครื่องมือ ให้ใครทำอะไรฟรี ๆ เด็ดขาด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD